“ขอนแก่นแอลกอฮอล์” กร้าวชาวบ้านอยากได้กากน้ำส่าต้องซื้อเท่านั้น

อุดรธานี -รองผู้ว่าฯอุดรธานี นำตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบบ่อกักเก็บน้ำส่าในอ.โนนสะอาด หลังได้ตกลงกับบริษัทขอนแก่นแอลกอฮอล์ ให้ขนย้ายภายในวันที่ 13 พ.ย.พบยังมีกลิ่นเหม็นตกค้าง รุกต่อยื่นข้อเสนอโรงงานให้ตั้งกองทุนชดเชยสุขภาพชาวบ้านและให้ขจัดกลิ่นให้สิ้นภายใน 30 พ.ย.นี้ ด้านโรงงานรับปาก พร้อมดักทางอนาคตหากชาวไร่อ้อยเรียกร้องกากน้ำส่าไม่แจกฟรีต้องซื้อเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า วันนี้ (16 พ.ย.) นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี นายปราโมทย์ ธัญญพืช นายอำเภอโนนสะอาด, สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 9, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี, สำนักงานสาธารณสุข อ.โนนสะอาด, พนักงานสอบสวน สภ.โนนสะอาด, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหาร อปท.ในพื้นที่ ต.โคกลาง อ.โนนสะอาด ได้เดินทางเข้าพื้นที่บ่อกักเก็บน้ำกากส่า 2 บ่อ บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ที่ ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด

หลังมีบันทึกข้อตกลงให้โรงงานบริษัท ขอนแก่นแอลกอฮล์ จำกัด พยายามหาทางลดกลิ่นลงภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 และให้ขนกากน้ำส่าออกให้หมด โดยมีนายเฉลิมโชค ศรีสุรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน และคณะเข้าตรวจสอบ

นายกอบเกียรติ รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากปัญหาข้อร้องเรียนด้านสิ่งแวดล้อม กรณีบริษัทขอนแก่นแอลกอฮอล์ นำกากส่าจาก จ.ขอนแก่น มาทิ้งในพื้นที่ ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ส่งกลิ่นเหม็นไปหลายหมู่บ้าน ใน 3 ตำบล ทำให้ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1,100 ครอบครัว แต่จังหวัดไม่สามารถใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ในการกำกับควบคุมการแก้ไขปัญหา ประกอบกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังมิได้ออกข้อบัญญัติตามกรอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ และหามาตรการป้องกันและแก้ไข โดยยกกรณีกากน้ำส่าเป็นกรณีตัวอย่างให้ อปท.ทุกแห่งพิจารณาออกข้อบัญญัติ เพื่อจะไม่เกิดปัญหาในพื้นที่ต่อไป

นายปราโมทย์ นายอำภอโนนสะอาด กล่าวว่า จากการเข้าสำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังมีการประชุมหารือกับตัวแทนชาวบ้าน ผู้บริหาร อปท.ในพื้นที่ และตัวแทนของโรงงานฯ โดยเบื้องต้นสรุปว่าให้ทางโรงงานหาทางดับกลิ่นกากน้ำส่า ที่ส่งกลิ่นเหม็นสร้างความเดือนร้อนแก่ชาวบ้านภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 และหาทางเร่งขนย้ายกากน้ำส่าออกจากบ่อกักเก็บให้หมดโดยเร็ว

จากการเข้าสำรวจในวันนี้ ยังพบว่า กลิ่นของกากน้ำส่ายังคงมีอยู่ แต่ไม่เหม็นมากเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าปริมาณเริ่มลดน้อยลง ประกอบกับลมเปลี่ยนทิศ จึงได้ขอมติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ และมีการทำบันทึกข้อตกลงกับทางโรงงาน 3 ข้อ

ประกอบด้วย 1.ให้ทางโรงงานจัดตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 200,000-500,000 บาท 2.ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 ให้ทางโรงงานเร่งดับกลิ่นเหม็นของกากน้ำส่าให้หมด และเร่งขนย้ายส่วนที่เหลือออกโดยเร็ว และ 3.หลังจากโรงงานขนย้ายกากนำส่าออกหมดแล้ว ให้มีการนำปูนขาวมาโรยแล้วนำดินมาไถกลบอย่างน้อย 60 เซนติเมตร

ทั้งนี้ หากวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โรงงานไม่สามารถดำเนินการได้ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ จัดการอย่างเฉียบขาด นอกจากนั้น ในระยะยาวหากโรงงานมีการนำกากน้ำส่าขนออกจากโรงงานมาทิ้งในพื้นที่ ต้องแจ้งให้ทางจังหวัดทราบ พร้อมกับแปรสภาพน้ำกากส่าให้เป็นปุ๋ย ก่อนที่จะนำมาใส่ในไร่อ้อยของชาวบ้าน

ด้าน นายเฉลิมโชค ศรีสุรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน กล่าวว่า โรงงานขอนแก่น แอลกอฮอล์ จำกัด รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และพร้อมแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนแล้ว โดยรับปากจะนำข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ รีบกลับไปรายงานให้ผู้บริหารระดับสูงของโรงงานทราบ แต่ยังยืนยันว่าน้ำกากส่าเป็นปุ๋ยมีประโยชน์ต่อพืช ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย ที่นำมากักเก็บเอาไว้บริเวณ ต.โคกสะอาด ก็เพื่อให้ประชาชนนำไปใส่ในไร่อ้อยฟรี

แต่ถ้าต่อไปห้ามนำกากส่ามาและประชาชนต้องการที่จะได้ ก็อาจจะต้องมีการซื้อขายกัน ส่วนการขนย้ายให้หมดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้ปริมาณน้ำกากส่าเหลืออยู่ในบ่อประมาณ 10,000 ลูกบาศก์เมตร จากปริมาณกักเก็บบ่อละ 45,000 ลูกบาศก์เมตร