ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ภัยร้ายปิดเทอม! โจรเหิมตระเวนลักเครื่องคอมพิวเตอร์โรงเรียน 4 แห่งโคราชกว่า 40 เครื่อง เผยชำแหละชิ้นส่วนส่งขายไปรษณีย์ให้ร้านคอมพ์ ขาประจำที่ภาคใต้ สารภาพทำมาแล้ว 5 ครั้ง บอกเลือกลงมือลักทรัพย์โรงเรียนในต่างอำเภอเป็นหลัก เหตุไม่มีคนเฝ้า เข้า-ออกง่ายโดยเฉพาะช่วงปิดเทอม ตรวจสอบประวัติเคยติดคุกคดีลักทรัพย์มาก่อน
วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่บริเวณด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์ในสถานศึกษา ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายสมหมาย พลดงนอก อายุ 44 ปี ที่อยู่เลขที่ 1 หมู่ 7 บ้านหนองตาด ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา ภูมิลำเนาเป็นชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และนายจิรวัฒน์ แผนชากรณ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153/2 ถ.มนตรีสุริยวงศ์ อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมของกลางชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และจอคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายลักทรัพย์อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนหนองพลวงน้อย ต.วันไม้แดง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา แล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามจนทราบว่า นายสมหมาย พลดงนอก เป็นผู้ต้องสงสัย โดยหลังเกิดเหตุ นายสมหมาย ได้นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ไปส่งทางไปรษณีย์ ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ถึงผู้รับปลายทาง คือ นายจิรวัฒน์ แผนชากรณ์ เลขที่ 157/18 หมู่ 1 ซอยเทศบาล 9 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา จึงเดินทางไปที่ทำการไปรษณีย์ปราณบุรี และ จับกุมตัว นายจิรวัฒน์ ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ จ.113/2552 ลงวันที่ 17 ต.ค. 2552 ซึ่ง นายจิรวัฒน์ ให้การว่า นายสมหมายได้ติดต่อขายอุปกรณ์ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ให้โดยแจ้งว่าประมูลมาจากสถานที่ต่างๆ
ต่อมานายสมหมายได้ติดต่อให้นายจิรวัฒน์โอนเงินค่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาให้ในราคา 24,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงให้ นายจิรวัฒน์ หลอกนัดให้ นายสมหมาย มารับเงินที่หน้าที่ทำการไปรษณีย์อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ร่วมทำการจับกุม นายสมหมาย ตามหมายจับศาลจังหวัดบัวใหญ่
โดยนายสมหมาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน ตระเวนลักทรัพย์โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตามโรงเรียนที่อยู่ต่างอำเภอ ใน จ.นครราชสีมา มาแล้วหลายแห่งรวมเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขโมยไปทั้งสิ้น 41 เครื่อง โทรทัศน์อีก 2 เครื่อง
ประกอบด้วย โรงเรียนโพนทอง หมู่ 9 อ.สีดา ได้เครื่องคอมพิวเตอร์ไปจำนวน 14 เครื่อง, โรงเรียนบ้านหนองจาน หมู่ 4 ต.หนองหว้า อ.บัวลาย ได้เครื่องคอมฯไป 10 เครื่อง, โรงเรียนครูเต้ยราษฏร์สามัคคี หมู่ 1 ต.ลำพะเนียง อ.โนนแดง ได้เครื่องคอมฯ ไป 13 เครื่อง และโทรทัศน์ 21 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง, โรงเรียนหนองพลวงน้อย ต.วังไม้แดง อ.ประทาย ลักเครื่องคอมฯ ไป 4 เครื่อง และลักทรัพย์น้ำมันเครื่องยี่ห้อเชลล์ ขวดขนาด 1 ลิตรจำนวน 60 ขวาด ,แกลลอนขนาด 5 ลิตร จำนวน 15 แกลลอน จากร้านตัวแทนจำหน่ายตั้งอยู่บริเวณถนนสายเอเชียสมุทรสงคราม-เพชรบุรี
นายสมหมายกล่าวอีกว่า ที่เลือกลักทรัพย์ของโรงเรียนเนื่องจากว่า ไม่มีคนเฝ้า การดูแลไม่แน่นหนา ง่ายต่อการลักทรัพย์โดยเฉพาะโรงเรียนตามต่างอำเภอและช่วงเปิดเทอมจะไม่มีใครอยู่ที่โรงเรียน ส่วนใหญ่จะเข้าไปลักคอมพิวเตอร์ในช่วงกลางวันและชำแหละชิ้นส่วนส่งขายให้กับ นายจิรวัฒน์ ที่เปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำมาแล้ว 4-5 ครั้ง โดยขายได้ชิ้นละประมาณ 3,000 บาท นำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว
จากการสอบประวัตินายสมหมายทราบว่า เคยต้องคดีลักทรัพย์และพ้นโทษจำคุกออกมาหลายปีแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสมหมายส่งต่อให้พนักงานสอบสวน สภ.ประทาย ดำเนินคดีต่อไป ส่วนนายจิรวัฒน์ได้ขอประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี