xs
xsm
sm
md
lg

“เทพมนตรี” วอนอย่าโง่กว่าเขมร ขอร้อง ผบ.ทบ.ส่งทหารคงกำลังวัดแก้วฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเทพมนตรี ลิมปพยอม
“เทพมนตรี” ย้ำเจบีซียังไม่ผ่านสภา ไทยมีสิทธิคงกำลังทหารที่วัดแก้ว ชี้ “วาร์ คิมฮง” ทำผิดบันทึกเจบีซี เปิดช่องไทยยกเลิกเอ็มโอยู 43 ได้เลย เผยอัปยศ กต.พยายามเอาใจนักการเมือง แลกกระโดดข้ามขั้น เหน็บ “ชวน” ลาออกดีกว่า เป็นประธานที่ปรึกษาแล้วแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อไม่ได้เลย

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “รวมพลังปกป้องแผ่นดิน” การเสวนา “ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน”  

วันที่ 7 เม.ย. 2554 บนเวทีปราศรัยการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการประวัติศาสตร์ กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ทำผิดพลาดที่ไปประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาวิหารในการนี้ได้ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงลงพระปรมาภิไธย การที่ศาลบุรีรัมย์พิพากษา หากรัฐบาลได้ขายประเทศไทยในกระบวนการเจบีซี จะเป็นแนวทางให้พี่น้องต้องขึ้นไปที่เขาวิหารอย่างแน่นอน และแนวคำพิพากษานี้จะปกป้องการเคลื่อนขบวนของพันธมิตรฯ เพื่อไปรักษาดินแดน และเราจะขอให้ทหารดูแลเราอีกทีเพราะทหารประกาศอฎอัยการศึก ถึงวินาทีสุดท้าย เมื่อรัฐบาลไม่อยากให้เราอยู่ที่นี่ บางทีเราอาจต้องขึ้นไปชุมนุมพักค้างที่เขาวิหาร

เสียดาย ดร.เจริญ คันธวงศ์ เป็นคนไทยแต่ไม่ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับปราสทาทเขาวิหาร ตลอดเวลาที่เป็นประธานกรรมาธิการ ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย หลักเขตที่ 23-51 ไม่เคยพิจาณาความจริงเลยว่าเป็นอย่างไร การที่ ดร.เจริญพูด กัมพูชาไม่ปล่อยนายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เพราะรัฐบาลของเรา ไปพูดพื้นที่ตรงนั้นเป็นของกัมพูชา ดังนั้น หากปล่อยตัว ฮุนเซนจะไม่มีอะไรอ้างต่อชาวกัมพูชา หากจะโทษต้องโทษคนที่ดาหน้าออกมาบอกบริเวณบ้านหนองจานคือดินแดนกัมพูชา ใส่ร้ายป้ายสีว่าที่ชุมนุมต่อว่าฮุนเซน จึงเป็นสาเหตุให้เขมรไม่ปล่อยตัวนั้น ไม่จริง ที่เขาไม่ปล่อยเพราะได้โอกาสจะฮุบที่หนองจาน

นายเทพมนตรีกล่าวถึงนายชวน หลีกภัย ว่าปิดปากเงียบเรื่องเขาวิหาร เพราะเขารู้ว่าผิด คนอย่างนายชวนหากไม่ผิด ป่านนี้ออกมากรีดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดที่เป็นนายกฯ มา ใครออกมาโต้เขาจะเป็นใบมีดกรีดออกมา แต่คราวนี้กรีดไม่ได้มีดโกนมันขึ้นสนิมแล้ว ต่อไปพรรคประชาธิปัตย์จะเสื่อมลงเรื่อยๆ ครูบาอาจารย์ตนคาดการไว้ว่า พรรคนี้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปจนถึงวันเลือกตั้ง เพราะพรรคนี้ไม่มีคำว่าอมตะสัจจะวาจา แม้แต่เบื้องสูงก็ตระบัดสัตย์ นายชวนปล่อยให้อุทยานแห่งชาติเขาวิหารตกอยู่ภายใต้การดูแลของกัมพูชา โดยอ้างเป็นแค่ประธานที่ปรึกษา เมื่อเป็นประธานที่ปรึกษาแล้วทำอะไรไม่ได้ก็ลาออกไปอยู่บ้านดีกว่า คนแบบนี้ตนถึงสบอกว่าอยู่ในสังคมไทยได้เพราะเป็นสังคมลืมง่าย

“คนในพรรคประชาธิปัตย์มีนักกฎหมายมากมาย แต่ไม่มีใครเอาเอ็มโอยู 43 ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเลย เหมือนรู้ว่าถ้าเอาไปให้พิจารณาก็ตายอย่างเดียว”

กล่าวถึงพรรคการเมืองใหม่ หากตัดสินยืนข้างพันธมิตรฯ ในการโหวตโนยังไม่พอ ต้องออกแคมเปญด้วยว่า พันธมิตรที่อยู่ตามแต่ละจังหวัดให้ตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว เพราะพรรคนี้ทรยศหักหลังพวกเรา หักหลังประเทศชาติ ดังนั้น เราต้องจองล้างจองผลาญ มีความเชื่อโดยส่วนตัวว่าเขาจะร่มสลายในเร็ววันนี้ ใครก็ตามที่ยังหนุนพรรคประชาธปัตย์ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่วันใดที่พรรคประชาธิปัตย์ทรยศชาติ ทำลายแผ่นดิน ขอให้พ่อยก แม่ยก รับผิดชอบด้วย นอกจากพวกคุณไม่อ่านหนังสือแแล้ว ยังพูดส่งเดช ใส่ร้ายป้ายสีเรา เรามาชุมนุมมีจุดมุ่งหมาย3ข้อ เพียงแค่เปิดใจให้กว้างก็จะรู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำร้ายประเทศมาโดยตลอด ถ้าบอกว่าเอ็มโอยู 43 ดี ทำไมประกาศว่า แผนที่1 : 200,000 ไม่รวมระวางดงรัก ยืนยันกับต่างประเทศด้วย

นายแทพมนตรีกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศมีพัฒนาการที่พิสดารทับซ้อน ห้ำหั่นกันเองในวงการทูต ใครใกล้ชิดอำนาจทางเมืองมากกว่า ก้าวกระโดดข้ามหน้าข้ามตากัน นโยบายการเมืองยังเอาใจนักการเมืองอยู่ ทำให้บรรดาทูตพูดไม่เป็นเสียงเดียวกันว่ารักแผ่นดิน รักในหลวง ส่วนคนที่อยู่ในเฟชบุ๊ก บอกว่าเรารักในหลวง อย่ารักแต่ปาก ต้องแสดงออกด้วย

“การไปประชุมอินโดนีเซียไม่มีความจำเป็นเลย ในเอ็มโอยู 43 และทีโออาร์ 46 ไม่เคยบอกให้มีประเทศที่ 3 เข้ามาจัดการ แล้วจะมาบอกว่าอินโดฯ เป็นแค่เจ้าภาพ ก็แล้วทำไมไทยไม่เป็นเอง นอกจากนี้ ที่ผมว่าบันทึกเจบีซียังไม่ผ่านสภา ทำไมไม่คงกำลังทหารไว้ที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ”

นายเทพมนตรีกล่าวฝากถึง ผบ.สส.ว่า ท่านเป็นจำเลยของกระทรวงการต่างประเทศ เขาอ้างอิงท่านในการยืนยันว่าไปเซ็นจอยต์คอมมูนิเก กัมพูชาไม่ได้รุกรานไทย รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กระทรวงการต่างประเทศใช้ทหารเป็นเครื่องมือป้องกันตัวเอง ดังนั้น หากท่านยังยึดเจบีซีอยู่ ท่านต้องส่งกำลังทหารไปรักษาอธิปไตยที่วัดแก้วฯ ไม่มีใครว่าท่านแน่นอน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ ไปประชุมที่อินโดนีเซีย ไปยอมรับทีโออาร์หรือไม่ หากยอมรับเมื่อใด ถือว่า นายอัษฎา ชัยนาม เป็นคนหนึ่งในการทำให้เสียดินแดน ดังนั้น ท่านควรจะลาออก อย่าไปร่วมสังฆกรรมคนพวกนี้ มันจะทำให้นามสกุลของท่านถูกประณาม

“การประชุมที่อินโดนีเซีย ฮอร์ นัมฮง กับวาร์ คิมฮง เขาแต่งตัวไปรอ ในสังคมนานาชาติเขาถือว่าเล่นไพ่เกมเหนือกว่า อย่าลืมประเด็นปีต่อไป กัมพูชาเป็นประธานอาเซียน กัมพูชาสั่งให้เราไปเราก็ไป เหมือนลูกแหง่กระจอก ทำไมต้องไปในเมื่อไม่ไปก็ได้ แสดงว่าคุณมีผลประโชน์ใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวตนไม่ว่า แต่นี่ดันเอาศักดิ์ศรีของประเทศไปด้วย เขาให้คุณไปไหนก็ไป ผมว่าคุณไปเป็นรัฐบาลร่วมกับเขาเลยดีกว่า”

นายเทพมนตรีกล่าวอีกว่า หากเราจะยกเลิกเอ็มโอยู 43 สามารถทำได้เลย โดยการใช้บันทึกประชุมเจบีซี เพราะมีถ้อยคำของวาร์ คิมฮง กล่าวว่า ระหว่างที่ยังไม่สามารถปักปันเขตแดนได้ ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงสภาพใดๆ แต่วาร์ คิมฮง ทำผิดคำพูดตัวเอง ไปเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมเขาวิหาร นอกจากนี้ นายเทพมนตรียังกล่าวถึงพรรคเพื่อไทยว่า ควรส่งคนมาให้พวกเราติว ไม่อย่างนั้นยำนายกฯ เละไปแล้ว อย่างไรก็ดี อาจเป็นเพราะว่าพรรคเพื่อไทยก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้เรื้อรังมาจนถึงทุกวันนี้ เสียดายเราไม่ได้รบกับเขมร แต่เรารบกับรัฐบาลของเราเองแล้ว น่าอัศจรรย์มาก รัฐบาลของเราไปยืนข้างเขมร
กำลังโหลดความคิดเห็น