xs
xsm
sm
md
lg

บังคับคดีชลฯสรุปตัวเลขผลักดันทรัพย์ปี 52 ถึง 1.5 พันล้าน - ชี้ 95% เป็นอสังหาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สนง.บังคับคดีฯชลบุรี สรุปเป้าหมายการผลักดันทรัพย์สิน ประจำปีงบ 52 ทั้งในส่วนการยึดหรือถอนการบังคับคดี งดขายทอดตลาดด้วยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด มีมูลค่ารวมกว่า 1.51 พันล้านบาทโดย 95% เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ชี้แนวโน้มมูลค่าทรัพย์สินที่จะออกจากกระบวนการบังคับคดีและผลักดันจะน้อยลงเรื่อยๆ จากความเข้าใจในกฎหมาย และการหันเข้าหาขั้นตอนไกล่เกลี่ยของทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้

นางรัตนา รัตนพัฒนากุล ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีหน้าที่หลักเกี่ยวกับการบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย การชำระบัญชีตามคำสั่งศาลและการวางทรัพย์ รวมถึงการประเมินราคาทรัพย์ โดยการยึด อายัด และจำหน่ายทรัพย์ เพื่อให้เจ้าหนี้และผู้มีส่วนได้เสียได้รับการชำระหนี้อย่างเป็นธรรม เผยว่า ปัจจุบันสำนักงานมีเขตอำนาจในการดูแลเกี่ยวกับสำนวนการบังคับคดีครอบคลุมพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัด ซึ่งในส่วนของอำเภอศรีราชา จะครอบคลุมเฉพาะตำบลศรีราชา สุรศักดิ์ หนองขาม เขาคันทรงและตำบลบางพระ ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะขึ้นกับสำนักงานบังคับคดีพัทยา

โดยในปีงบประมาณ 2552 (1 ตุลาคม 51-30 กันยายน 52) สำนักงานสามารถผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดีในพื้นที่รับผิดชอบได้มูลค่ากว่า 1.51 พันล้านบาท จากสำนวนการบังคับคดีแพ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ที่ประกอบด้วย สำนวนที่อยู่ระหว่างยึดทรัพย์สิน สำนวนขายทอดตลาด สำนวนอายัดทรัพย์สิน สำนวนที่ศาลอื่นบังคับคดีแทน สำนวนขับไล่ รื้อถอน กักเรือ และสำนวนที่อยู่ระหว่างงดการบังคดีและอื่นๆ จำนวนทั้งสิ้น 4,695 คดี และยังสามารถเก็บเงินค่าธรรมเนียมที่ได้จากการบังคับคดีส่งเป็นรายได้แผ่นดิน โดยผ่านคลังจังหวัดชลบุรีกว่า 68 ล้านบาท

และเมื่อเปรียบเทียบกับสำนวนการบังคับคดีแพ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ในปีงบประ มาณ 2551 ที่มีสำนวนการบังคับคดีแพ่งทั้งสิ้น 3,717 คดี สำนักงานสามารถผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดีในพื้นที่รับผิดชอบได้มูลค่ากว่า 1.68 พันล้าน ซึ่งเป็นที่สังเกตได้ว่า แม้ปริมาณสำนวนการบังคดีในปีงบประมาณ 2552 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อน แต่มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกผลักดันออกจากระบบกลับมีตัวเลขที่ลดลง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเจ้าหนี้และลูกหนี้เริ่มมีความเข้าใจในกฎหมายต่างๆ มากขึ้นจนหันเข้าหาขั้นตอนการไกล่เกลี่ย และการปรับโครงสร้างหนี้

“จากการจัดทำสำนวนการบังคับคดีแพ่งในแต่ละปีของสำนักงานฯ พบว่าทรัพย์สินที่ถูกยึดและเข้าสู่กระบวนการบังคับคดีกว่า 95% เป็นทรัพย์สินในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ประกอบด้วย บ้าน ที่ดิน อาคารสำนักงานและเครื่องจักรกล และคาดว่า ในปีงบประมาณหน้าปริมาณคดีที่จะเข้าสู่ระบบก็จะเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกผลักดันออกจากระบบจะลดน้อยลงจากการหันมาไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ที่มากขึ้นระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ ”

นางรัตนา ยังเผยอีกว่า แม้การมีความรู้ด้านกฏหมายของเจ้าหนี้และลูกหนี้จะมากขึ้นจนทำให้คดีที่เข้าสู่สำนักงานลดน้อยลง แต่สำนักงานก็ยังจะเร่งเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างทั่วถึง ตลอดจนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในการบังคับคดีและส่งเสริมความร่วมมือในการบังคับคดีและส่งเสริมความร่วมมือในการบังคับคดีของภาครัฐและเอกชนต่อไป ที่สำคัญ ยังขอประชาสัมพันธ์ไปถึงคู่ความและคู่กรณีต่างๆ ซึ่งถูกบังคับยึดทรัพย์ หากมีข้อข้องใจด้านกฎหมายควรติดต่อสอบถามยังสำนักงานบังคับคดีในแต่ละพื้นที่โดยตรง เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ คือกลุ่มทรัพย์สินใหญ่ที่ถูกนำเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดีในจังหวัดชลบุรี
กำลังโหลดความคิดเห็น