ศูนย์ข่าวศรีราชา – คาดยอดผลักดันทรัพย์สินคดีแพ่ง ในภาคตะวันออก ตลอดปีงบประมาณ 2551ทะลุเป้า 9 พันล้านบาท หลังพบยอดผลักดันในช่วง 10 เดือน (ตุลาคม 50-มิถุนายน 51) มีสูงถึง 8.3 พันล้านบาท โดยชลบุรี จังหวัดเดียวมียอดผลักดันรวมกว่า 2.8 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มการยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดในพื้นที่ มีทิศทางลดลงจากปีก่อนๆ เหตุเพราะแบงก์เจ้าหนี้เริ่มผ่อนปรนกฎระเบียบการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้มากขึ้น
นางภาวดี ศิริเมธารักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานบังคับคดีสาขาชลบุรี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี ภาค 2 ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้เผยถึงตัวเลขการผลักดันทรัพย์สินคดีแพ่งในช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณ 2551 (ตุลาคม 50-มิถุนายน 51) ในพื้นที่ภาคตะวันออก ว่า มีสูงถึง 8.23 พันล้านบาทใกล้ เคียงเป้าหมายรวมที่ตั้งไว้ตลอดทั้งปี 9.05 พันล้านบาท โดยทรัพย์สินที่ยึดได้จากจังหวัดชลบุรีและระยอง ส่วนใหญ่เป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และถือเป็นทรัพย์สินที่สามารถขายทอดตลาดได้ง่ายกว่าทรัพย์สินในพื้นที่อื่นๆ
ขณะที่ พัทยา เป็นพื้นที่ที่มีทรัพย์สินขายทอดตลาดที่มีมูลค่าสูงที่สุด ซึ่งมีแนวโน้มการยึดทรัพย์และบังคับคดีเพื่อขายทอดตลาดในปีงบประมาณ 2551 ของภาคตะวันออกกลับพบว่า จะลดน้อยลงจากปีก่อนๆ อาจะเป็นเพราะการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคารเจ้าหนี้ ที่ผ่อนปรนการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ จากการจัดเก็บสถิติการผลักดันทรัพย์ สินคดีแพ่งในช่วง 10 เดือนของปีงบประมาณ 2551 พบว่า หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก มียอดการผลักดันทรัพย์สินคดีแพ่งใกล้เคียงเป้าหมายการผลักดันที่ตั้งไว้ตลอดทั้งปี ขณะที่บางจังหวัดมียอดผลักดันทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ตั้งเป้าการผลักดันไว้ตลอดปี 1.77 พันล้านบาท แต่ในช่วง 10 เดือนสามารถผลักดันทรัพย์ได้ทะลุเป้าถึง 1.78 พัน ล้านบาท ส่วนจังหวัดระยอง ตั้งเป้าผลักดันทรัพย์ประมาณ 2 พันล้านบาท แต่ขณะนี้ผลักดันทรัพย์ได้แล้วถึง 1.92 พันล้านบาท ด้านจังหวัดจันทบุรี ตั้งเป้าไว้ที่ 900 ล้านบาท ผลักดันได้แล้ว 575 ล้านบาท
จังหวัดชลบุรี ตั้งเป้าผลักดันทรัพย์ทั้งปี 1.85 พันล้านบาท ผลักดันทรัพย์ได้แล้ว 1.68 พันล้านบาท จังหวัดตราด ตั้งเป้า 162 ล้านบาท ผลักดันทรัพย์แล้ว 143 ล้านบาท จังหวัดนครนายก ตั้งเป้า 672 ล้านบาท ผลักดันทรัพย์ได้แล้ว 420 ล้านบาท จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งเป้า 242 ล้านบาท ผลักดันทรัพย์ทะลุเป้าแล้วถึง 251 ล้านบาท
ขณะที่สำนักงานบังคับคดีสาขากบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ตั้งเป้า 204 ล้านบาท ผลักดันทรัพย์สินได้แล้ว 159 จังหวัดสระแก้ว ตั้งเป้าผลักดันทรัพย์ 234 ล้านบาท ผลักดันได้แล้ว 151 ล้านบาท ส่วนสำนักงานบังคับคดีสาขาพัทยา ตั้งเป้าไว้ที่ 999 ล้านบาท แต่ผลักดันทรัพย์ทะลุเป้าถึง 1.22 พันล้านบาท โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2551 ภาคตะวันออก จะสามารถผลักดันทรัพย์สินคดีแพ่งได้เกินกว่าเป้าหมายรวมที่กำหนดไว้ อย่างแน่นอน
นางภาวดี ยังเผยอีกว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดในพัทยา ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพร้อมที่ดินและคอนโดมิเนียม เนื่องจากพัทยามีการอพยพเข้ามาของแรงงานต่างถิ่น และชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยสูง ขณะที่ในพื้นที่เมืองชลบุรี ก็มีทรัพย์สินที่ถูกยึดมูลค่าเป็นหลักร้อยล้านแต่ก็ไม่มากนัก โดยที่ผ่านมาก็มีโรงงานขนาด 200 ล้านที่ถูกขายทอดตลอดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินในพื้นที่ภาคตะวันออก ถือเป็นทรัพย์สินที่มีความคล่องตัวในการขายทอดตลาดสูง ผิดกับพื้นที่ภาคใต้ที่มักจะไม่ค่อยมีใครสู้ราคาเมื่อเปิดการประมูล ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดระยองและชลบุรี ถือเป็นจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง จึงทำให้เป็นที่สนใจของนักลงทุนในการซื้อต่อโครงการที่ถูกขายทอดตลาด