xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบอ้างไร้ที่ทำกินบุรีรัมย์พร้อม “แก๊งแดง” เหิมต้านอนุรักษ์ป่าดงใหญ่/แจ้งจับอธิบดีฯป่าไม้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มม็อบอ้างไร้ที่ทำกินบุรีรัมย์พร้อมแก๊งเสื้อแดง รวมตัวประท้วงต้านการอนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ พร้อมแจ้งจับอธิบดีกรมป่าไม้กับพวก วันนี้ ( 6 ต.ค.)
บุรีรัมย์ - กลุ่มม็อบอ้างไร้ที่ทำกินบุรีรัมย์กว่า 300 คน พร้อมแก๊งเสื้อแดง รวมตัวประท้วงพร้อมยื่นหนังสือผู้ตรวจสำนักนายกฯ ค้านผนวกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ที่หมดสัญญาเช่าเป็นป่าอนุรักษ์เข้ากับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลั่นต้านถึงที่สุดและเข้าจัดสรรทำกินกันเองโดยไม่หวั่นรัฐ พร้อมรวมตัวบุกแจ้งจับ “อธิบดีกรมป่าไม้” กับพวก กล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

วันนี้ (6 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีตัวแทนชาวบ้านอ้างไม่มีที่ดินทำกิน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กลุ่มอนุรักษ์ป่าดงใหญ่ 4 และ กลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน หรือกลุ่มโฉนดชุมชน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 300 คน นำโดยนายสมนึก ปัดชา แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง ได้รวมตัวกันเดินทางมาชุมนุมประท้วงที่หน้าที่ว่าการอำเภอโนนดินแดง เพื่อคัดค้านไม่ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผนวกพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัสที่บริษัทเอกชนได้หมดสัญญาเช่าสัมปทานทั้ง 8 แปลง รวมพื้นที่กว่า 22,000 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ เป็นพื้นที่อนุรักษ์เข้ากับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ เพื่อฟื้นฟูเป็นป่าต้นน้ำและแหล่งอาศัยหากินของสัตว์ป่า

ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวได้เรียกร้องให้ภาครัฐจัดสรรพื้นที่ป่าที่หมดสัญญาเช่าดังกล่าว ให้กับชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินเข้าไปเช่าทำประโยชน์แทน รวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนหยุดยั้งการกระทำใดๆ ทั้งสิ้น ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง หรือคุกคามข่มขู่ราษฎร ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันหรือความรุนแรง

นายสมนึก ปัดชา แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง อ้างว่า หากรัฐไม่ทำตามข้อเรียกร้อง หรือยังดึงดันเข้าไปกระทำการใดๆ หรือปลูกต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์ ชาวบ้านก็จะรวมตัวกันเข้าไปขัดขวางจนถึงที่สุด และจะเข้าไปบุกยึดจัดสรรแบ่งพื้นที่ป่าดังกล่าวทำกินกันเองทันที โดยไม่มีเงื่อนไข เพราะที่ผ่านมารัฐไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาให้กับผู้ไม่มีที่ทำกิน ถึงแม้จะมีการประท้วงเรียกร้องหลายครั้งก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มชาวบ้านที่มารวมตัวชุมนุมประท้วงครั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าหลายคนโดยเฉพาะบรรดาแกนนำได้สวมเสื้อแดงของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แก๊งสาวก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน อย่างชัดเจน

จากนั้นเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นางปราณี สริวัฒน์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมาประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.บุรีรัมย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อุทยานแห่งชาติตาพระยา หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ลำนางรอง สวนอนุรักษ์สัตว์ป่า ทหารจาก ร.23 พัน 1 ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.โนนดินแดง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ที่ชาวบ้านขอเข้าไปเช่าทำกิน

ต่อมากลุ่มชาวบ้านได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านไม่ให้ภาครัฐผนวกพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัส ที่บริษัทเอกชนหมดสัญญาเช่า ทั้ง 8 แปลง กว่า 22,000 ไร่ เป็นพื้นที่อนุรักษ์เข้ากับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แต่ให้พิจารณาจัดสรรให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินเข้าไปทำกิน หลังได้ร่วมกันต่อสู้เรียกร้องมานานกว่า 20 ปี ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐให้เอกชนเพียงส่วนน้อยเช่าทำประโยชน์ แต่ชาวบ้านกลับไม่ได้รับการพิจารณาให้เข้าทำกิน

นางปราณี สริวัฒน์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้านที่มาชุมนุมประท้วงว่า จะนำเรื่องข้อเรียกร้อง และความต้องการของชาวบ้าน เสนอต่อคณะรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่คงไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้ทั้งหมด เพราะข้อเรียกร้องบางส่วนยังขัดต่อระเบียบกฎหมาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐบาลว่าจะเห็นชอบหรือไม่อย่างไร

หลังจากนั้น เวลา 14.00 น.นายสมนึก ปัดชา แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง พร้อมแกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กลุ่มอนุรักษ์ป่าดงใหญ่ 4 และ กลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน พร้อมตัวแทนชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินในเขตพื้นที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ราว 300 คน ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนดินแดง ให้สอบสวนดำเนินคดีกับอธิบดีกรมป่าไม้ นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นายสุทธิชาติ ระเบียบ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้บริษัทเอกชนเข้าไปบุกรุกเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ กว่า 800 ไร่ นอกเหนือพื้นที่ที่สัมปทาน 9 แปลง มานานกว่า 20 ปี โดยไม่มีการดำเนินการเอาผิดกับกลุ่มบริษัทเอกชนดังกล่าวแต่อย่างใด แต่เมื่อชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินขอเข้าไปเช่าทำประโยชน์ เจ้าหน้าที่กลับกล่าวหาว่าชาวบ้านเข้าไปบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้าน พร้อมกล่าวหาว่ารัฐใช้ 2 มาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่

นายสมนึก กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจพบว่าพื้นที่ป่าดงใหญ่ที่ถูกบริษัทเอกชนบุกรุก เป็นพื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่ที่เช่าสัมปทาน ส่อถึงความไม่โปร่งใสและเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 3 และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าว

ทางด้าน พ.ต.ท.ยงยุทธ พินิจการ รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.โนนดินแดง กล่าวว่า หลังรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์จากชาวบ้าน จะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อผู้บังคับบัญชาการ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามที่ชาวบ้านแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าวต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย


ยื่นตำรวจแจ้งจับอธิบดีกรมป่าไม้กับพวก
ยื่นข้อเรียกร้อง ต่อ นางปราณี  สริวัฒน์ ผู้ตรวจสำนักนายกฯ



เหิมหนักบุกยึด “ป่าดงใหญ่” เสียหายกว่า 3,000 ไร่-ใช้กฎเถื่อนต่อต้านปิดล้อม จนท.
เหิมหนักบุกยึด “ป่าดงใหญ่” เสียหายกว่า 3,000 ไร่-ใช้กฎเถื่อนต่อต้านปิดล้อม จนท.
บุรีรัมย์ – บินสำรวจพบป่าสงวนฯดงใหญ่ อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ ถูกชาวบ้าน 3 กลุ่ม ไม่เกรงกลัวกม.บุกรุกแผ้วถางยึดครองเป็นที่อยู่อาศัย–ทำกินกว่า 400 ครัวเรือนเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ ชี้ส่งผลกระทบแหล่งอาศัยหากินสัตว์ป่าและต้นน้ำลำนางรอง เผยเหิมเกริมหนักใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ตั้งกลุ่มเป็นรัฐอิสระต่อต้านปิดล้อม ข่มขู่จนท.ถึงขั้นเอาชีวิต อย่างไม่เกรงกลัวกม.บ้านเมืองและฮึกเหิมรุกป่าต่อเนื่อง ด้านจนท.อึดอัดทำอะไรไม่ได้เหตุรัฐบาลไม่มีนโยบายแก้ปัญหาชัดเจนเด็ดขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น