xs
xsm
sm
md
lg

เหิมหนักบุกยึด “ป่าดงใหญ่” เสียหายกว่า 3,000 ไร่-ใช้กฎเถื่อนต่อต้านปิดล้อม จนท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป่าสงวนฯดงใหญ่ อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ ถูกชาวบ้าน 3 กลุ่ม ไม่เกรงกลัวกม.บุกรุกแผ้วถางยึดครองเป็นที่อยู่อาศัย–ทำกินกว่า 400 ครัวเรือนเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ วันนี้ ( 13 ก.ย.)
บุรีรัมย์ – บินสำรวจพบป่าสงวนฯดงใหญ่ อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ ถูกชาวบ้าน 3 กลุ่ม ไม่เกรงกลัว กม.บุกรุกแผ้วถางยึดครองเป็นที่อยู่อาศัย-ทำกินกว่า 400 ครัวเรือน เสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่ ชี้ ส่งผลกระทบแหล่งอาศัยหากินสัตว์ป่าและต้นน้ำลำนางรอง เผย เหิมเกริมหนักใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย ตั้งกลุ่มเป็นรัฐอิสระต่อต้านปิดล้อม ข่มขู่ จนท.ถึงขั้นเอาชีวิต อย่างไม่เกรงกลัว กม.บ้านเมือง และฮึกเหิมรุกป่าต่อเนื่อง ด้าน จนท.อึดอัดทำอะไรไม่ได้เหตุรัฐบาลไม่มีนโยบายแก้ปัญหาชัดเจนเด็ดขาด

วันนี้ (13 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตาพระยา จ.สระแก้ว หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 26 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 215 ฐานปฏิบัติการ ศปป.ที่ นม.1 และเจ้าหน้าที่กองกำลังสุรนารี ได้นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ บริเวณท้ายเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง และพื้นที่ป่าที่บริษัทเอกชนเช่าปลูกป่ายูคาลิปตัส จำนวน 9 แปลง รวมกว่า 23,700 ไร่ และหมดสัญญาสัมปทานไปแล้ว 8 แปลง

ทั้งนี้ เนื่องจากได้มีกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กลุ่มอนุรักษ์ป่าดงใหญ่ 4 และกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ที่ไม่มีที่ทำกินพยายามเข้าไปบุกยึดพื้นที่ป่าดังกล่าวเพื่อทำกิน จนเกิดมีการประท้วงหลายครั้ง และยืดเยื้อมานาน จนปัจจุบันเจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เนื่องจากนโยบายของรัฐบาล ยังไม่ชัดเจนและยังไม่มีมาตรการเด็ดขาด สร้างความหนักใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดมา ทำให้กลุ่มผู้บุกรุกฮึกเหิมเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง

จากการบินสำรวจ พบว่า ได้มีชาวบ้านที่อ้างตัวว่า เป็นกลุ่มโฉนดชุมชน เครือข่ายปฏิรูปที่ดิน และ กลุ่มพระวันชัย ที่อ้างว่าไม่มีที่ทำกินได้ฮึกเหิมบุกรุกเข้าไป เผาทำลาย แผ้วถางป่ายูคาลิปตัสที่นายทุนหมดสัญญาสัมปทาน และป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ บางส่วนได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 3,000 ไร่

พร้อมทั้งเข้าไปปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ทำให้ส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อม ผืนป่าต้นน้ำ และแหล่งอาศัยหากินของสัตว์ป่า ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปห้ามปรามขัดขวาง แต่กลับถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อต้านขู่จะทำร้ายเอาชีวิต อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย

นายสุทธิชาติ ระเบียบ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน ออกหน่วยลาดตระเวนเข้าไปในพื้นที่ป่า เพื่อเป็นการเฝ้าระวังรักษาป่าไม่ให้ถูกแผ้วถางทำลาย และป้องกันการล่าสัตว์ป่าอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่เพียงพอ ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง เพราะกลุ่มที่เข้าไปบุกรุก ทั้ง 3 กลุ่ม มีอยู่เป็นจำนวนมากกระจายอยู่เต็มพื้นที่ป่า ทั้งได้ประสานหลายภาคส่วนที่รับผิดชอบเข้าไปร่วมดูแลแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังฮึกเหิมบุกรุกอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร 5 และ ตำรวจตระเวนชายแดน ร่วม 10 นาย ได้บุกเข้าไปจับกุมชาวบ้านที่ลักลอบเข้าไปตัดไม้ทำลายป่า บริเวณบ้านคลองหิน ต.ลำนางรอง ได้ผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลางไม้ตะเคียนหิน 2 ต้น ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามที่ถูกโค่น พร้อมของกลางเป็น เลื่อยวงเดือน 1 วง แต่ได้ถูกชาวบ้านประกาศในหอกระจายข่าวให้ชาวบ้านนับร้อยคน พร้อมมีด จอบ เสียม มาช่วยกันปิดล้อมเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว อยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้นได้นำกำลังเข้าไปช่วยเหลือเจรจากับกลุ่มชาวบ้านผู้บุกรุก โดยมี นายสมนึก ปัดชา อดีตเลขานายก อบต.ลำนางรอง และ นายเอก ทรัพย์เมือง สมาชิก อบต.ลำนางรอง เป็นแกนนำชาวบ้าน ได้ยื่นข้อเสนอให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมลบภาพในกล้องถ่ายรูปที่ได้ถ่ายไว้เป็นหลักฐานออกทั้งหมด จึงได้ยอมปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกจากวงล้อมได้ โดยให้เจ้าหน้าที่ยึดเพียงของกลางไม้ และเลื่อยวงเดือนไปเท่านั้น

เรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการแจ้งความที่ สภ.โนนดินแดง ไว้เป็นหลักฐาน เพราะการกรทำดังกล่าวเป็นกระทำที่ป่าเถื่อน เป็นการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ที่ผ่านมาเหตุการณ์คล้ายกันได้เกิดขึ้นซ้ำซาก จนเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เพราะถูกกลุ่มผู้บุกรุกที่เข้าไปตั้งหมู่บ้านอยู่ในป่ามีอยู่กว่า 300-400 ครัวเรือน ซึ่งจะใช้กำลังมวลชนต่อต้านเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งได้มีการตั้งด่าน และทำหอคอย เพื่อสกัดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ป่า

นายสรรเพ็ชร กล่าวอีกว่า ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกป่า มีกลุ่มใหญ่อยู่ 3 กลุ่มใหญ่ มีกลุ่ม บ.ตลาดควาย ได้เข้าไปบุกรุกก่อสร้างที่อยู่อาศัยในป่าร่วม 220 หลัง เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ต่อมากลุ่มพระวันชัย ช่วงแรกได้เข้าไปอยู่เมื่อต้นเดือนเม.ย. 2552 กว่า 70 หลังคาเรือน ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 119 หลังแล้ว และ กลุ่มปฏิรูปที่ดิน เข้าบุกรุกอยู่อาศัยอีกกว่า 100 หลังคาเรือน

ชาวบ้านทั้ง 3 กลุ่ม ได้มีการตั้งด่าน ทำหอคอยไว้สอดส่องสกัดเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปได้ หรือถ้าหากเจ้าหน้าที่เข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็พากันถอยและหยุดแผ้วถางป่าชั่วคราว แต่หากกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อยตรวจตราไม่ทั่วถึง ชาวบ้านก็จะลักลอบเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าเพิ่มอีก

ทั้งนี้ กลุ่มของพระวันชัย ยังได้มีการเข้าไปแผ้วถางป่าในเวลากลางคืน แล้วชักชวนให้ชาวบ้าน และนายทุนที่ต้องการเข้าไปซื้อที่ดิน ส่วนกลุ่มชาวบ้านบ.ตลาดควาย ที่บุกรุกเข้าไปเพื่อขอเช่าเป็นที่ทำกิน แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากทางภาครัฐ ขณะที่กลุ่มปฏิรูปที่ดินนั้นหรือกลุ่มโฉนดชุมชน กลุ่มนี้จะเดินตามนโยบายของรัฐบาล ที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ และในกลุ่มนี้ยังไม่เข้าข่ายการที่จะเป็นโฉนดชุมชนได้ ต้องอยู่มาก่อนหน้านี้ 3 ปี แต่กลุ่มนี้เพิ่งเข้าไปอยู่อาศัยเมื่อต้นปี 2551 ที่ผ่านมา แต่ก็อ้างนโยบายนายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด

นายสรรเพ็ชร กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงมาจนถึงขณะนี้กลุ่มเหล่านี้ได้บุกรุกตัดไม้ทำลายป่า รวมทั้งหมดมากว่า 1,000 ไร่ ได้แจ้งความไปแล้ว 14 คดี ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีนโยบายที่จะผนวกพื้นที่ป่าดงใหญ่ กับเขตป่าอ.ตาพระยา จ.สระแก้วเข้าด้วยกัน เพื่ออนุรักษ์เพราะเป็นพื้นที่ล่อแหลม ที่ได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ แต่กลุ่มชาวบ้านกลุ่มนี้กลับไม่ยอมรับฟังเรื่องราวใดๆ

“ล่าสุด ชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกป่า ยังได้ข่มขู่ด้วยว่า หากพบนายสรรเพ็ชร เรืองรอง เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ป่าก็จะเอาชีวิต” นายสรรเพ็ชร กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น