xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ช่วยฯ “สาทิตย์” ตะลึงชาวบ้านรุกป่า “ดงใหญ่” หลายพันไร่ - จี้หยุดรอ “โฉนดชุมชน” สางปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกฯ และคณะ ลงพื้นที่ประชุมร่วมชาวบ้านกลุ่มบุกรุกป่าสงวนฯดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน วันนี้ ( 24 ก.ย.)
บุรีรัมย์ – “นิพนธ์ บุญญภัทโร” ผช.รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตะลึงหลังลงตรวจพื้นที่รุกป่าสงวน ดงใหญ่ อ.โนนดินแดง บุรีรัมย์ พบชาวบ้านกว่า 1,000 ครอบครัว 5 กลุ่ม เหิมหนักรุกเพิ่มต่อเนื่องรวมหลายพันไร่ ย้ำ ให้ชาวบ้านที่บุกรุกหยุดอยู่ในวงจำกัดจนกว่ารัฐบาลจะกำหนดขอบเขตภายใต้การจัดการตามแนวทาง “โฉนดชุมชน” ขู่ หากยังฝ่าฝืนดำเนินคดีทันที ขณะแกนนำบางกลุ่มโต้รัฐบาลใช้ 2 มาตรฐานแก้ปัญหาให้ความสำคัญกับบางกลุ่มมากกว่า

วันนี้ (24 ก.ย.) นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย) นายพินิจ บุญเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และคณะหัวหน้าหน่วยงานราชการที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง ด้านป่าไม้ ตำรวจ ทหาร จากกองกำลังสุรนารี ตชด.21 สุรินทร์ ตชด.215 นางรอง สภ.โนนดินแดง และนายอำเภอโนนดินแดง ได้เดินทางมาร่วมประชุมหารือร่วมกับตัวแทนกลุ่มชาวบ้าน เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ และพื้นที่ป่ายูคาลิปตัสของเอกชนที่สิ้นสุดสัญญาการสัมปทาน ตามคำร้องเรียนของกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ว่า มีเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปกดดันรังแกชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกเพื่อทำกินในพื้นที่ป่าดงใหญ่

โดยที่ประชุมได้มีการหาแนวทางในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวอยู่ด้วยกันได้ พร้อมทำความเข้าใจชี้แจงกับกลุ่มชาวบ้านเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก่อนที่จะเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ที่กลุ่มปฏิรูปที่ดินโฉนดชุมชน เข้าไปบุกรุกและเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน หลังบริษัทเอกชนหมดสัญญาเช่าสัมปทาน จำนวน 8 ใน 9 แปลงรวมเนื้อที่กว่า 23,700 ไร่

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าระหว่างทางเข้าไปยังป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง มีร่องรอยการแผ้วถางตัดต้นยูคาลิปตัสในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ที่เอกชนหมดสัญญาเช่าสัมปทานเป็นวงกว้างหลายพันไร่ ถึงกับสร้างความตกใจให้กับ นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ โดยได้มีการกั้นแบ่งเป็นแนวเขตเพื่อทำการเพาะปลูกมันสำปะหลังแทนต้นยูคาลิปตัส พร้อมปลูกสร้างที่อยู่อาศัย

อีกทั้งยังมีชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง ได้บุกรุกเข้าไปแผ้วถางป่า เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าดังกล่าวเพิ่มเติมอีกกว่า 300 ครอบครัว ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้บุกรุกเข้าไปปลูกสร้างที่อยู่อาศัยทำกินในเขตป่าทั้งหมด 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มปฏิรูปที่ดินโฉนดชุมชน กลุ่มบ้านตลาดควาย กลุ่มพระวันชัย กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง ร่วม 1,000 ครัวเรือน

โดยการเข้าไปบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวของทั้ง 5 กลุ่มนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยไม่ได้รับการอนุญาตและการบุกรุกดังกล่าวยังยากต่อการดูแล ผลักดันออกจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ และพบยังมีการบุกรุกป่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้ชาวบ้านทุกกลุ่มที่เข้าบุกยึดพื้นที่ป่าทำกินให้อยู่ในวงจำกัดห้ามบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมอย่างเด็ดขาด จนกว่ารัฐบาลจะมีการกำหนดเขตภายใต้การจัดการตามแนวทางโฉนดชุมชนของรัฐบาล หากชาวบ้านยังฝ่าฝืนบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ก็จะถูกเจ้าหน้าที่เข้าทำการกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

นอกจากนี้ จะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวต่อไป

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า การที่จะดำเนินการตามแนวทางโฉนดชุมชน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้ไม่มีที่ทำกินนั้นต้องดูคุณสมบัติผู้ที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่านั้นถูกต้องตามเงื่อนไขนโยบายรัฐบาลหรือไม่ หากไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขก็ต้องรอให้ระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ชัดเจนเสียก่อน ส่วนโฉนดชุมชนนั้นเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่จะดำเนินการอย่างแน่นอนอยู่แล้วรวมกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นแห่งหนึ่งที่จะดำเนินการตามนโยบายโฉนดชุมชนเช่นกัน

ด้าน นายสุรินทร์ ทาซ้าย แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง ได้เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนว่า ทำไมรัฐบาลจึงเร่งรีบเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับกลุ่มปฏิรูปที่ดินโฉนดชุมชน ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง เคยได้ยื่นหนังสือเพื่อขอเช่าพื้นที่ๆบริษัทเอกชนหมดสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มานานกว่า 2 ปีที่หมดสัญญา แต่ทำไมรัฐบาลยังไม่ยอมพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ให้ทั้งสิ้น

“การกระทำเช่นนี้ส่อถึงการปฏิบัติหน้าที่ 2 มาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากว่าสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญเพียงกลุ่มเดียว ทำไมกลุ่มอื่นๆ อีกตั้ง 4 กลุ่มที่เดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน ถึงไม่ยอมเข้าไปแก้ไขความเดือดร้อนให้” นายสุรินทร์ กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น