บุรีรัมย์ - กลุ่มผู้ไร้ที่ดินทำกินกว่า 1,000 คน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ยันเคลื่อนพลบุกเข้ายึดพื้นที่ป่าที่เอกชนหมดสัมปทานในเขตป่าสงวนฯดงใหญ่กว่า 23,700 ไร่ พรุ่งนี้ (15 ก.ย.) หลังครบ 60 วัน ไม่ได้รับคำตอบชัดเจนในการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล พร้อมยันจัดสรรแบ่งที่ดินกันเองโดยไม่สนใจภาครัฐ ปฏิเสธข่าวการบุกรุกยึดครองป่าดงใหญ่กว่า 3,000 ไร่ ตามที่เป็นข่าวอ้างจนท.รัฐให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน
วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และ กลุ่มอนุรักษ์ป่าดงใหญ่ 4 และเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ที่ จ.บุรีรัมย์ นำโดย นายสมนึก ปัดชา แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง, นายเอก ทรัพย์เมือง กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง และ ว่าที่ ส.อบต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง
พร้อมด้วย นายญวณ จันทร์ดี ประธานกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และชาวบ้านร่วม 20 คน ได้ร่วมกันออกมาแถลงยืนยันว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) จะนำชาวบ้านที่เป็นสมาชิกทั้ง 4 กลุ่ม กว่า 1,000 คน ที่ไม่มีที่ทำกิน เข้าไปยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ บริเวณบ้านคลองหิน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง ซึ่งเป็นแปลงปลูกป่ายูคาลิปตัสที่ทางบริษัทเอกชนได้หมดสัญญาสัมปทานแล้วจำนวน 8 แปลง และที่ยังไม่หมดสัญญาสัมปทานอีก 1 แปลง รวม 9 แปลง พื้นที่กว่า 23,700 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ โดยจะทำการรังวัดเพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินกันเอง
ทั้งนี้ เนื่องจากทางภาครัฐไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหา ไม่ดำเนินการจัดสรรที่ดินในพื้นที่ป่า ที่หมดสัญญาสัมปทานให้ชาวบ้านเช่าทำกิน ตามที่สัญญาไว้หลังครบกำหนด 60 วัน ซึ่งพื้นที่ป่าดังกล่าวกลุ่มชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินในเขตพื้นที่ อ.โนนดินแดง และ อำเภอใกล้เคียง ได้ร่วมกันต่อสู้เรียกร้องมานานร่วม 10 ปีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นายสมนึก ปัดชา แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กล่าวว่า เมื่อครั้งที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้ นายศุภชัย โพธิ์สุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่มารับทราบปัญหาของประชาชนที่ไม่มีที่ทำกิน
พร้อมรับปากกับกลุ่มชาวบ้านว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านได้อย่างชัดเจนภายใน 60 วัน ซึ่งเลยกำหนดเวลามาแล้ว แต่ทางภาครัฐยังไม่มีการดำเนินการตามที่ได้ให้สัญญาไว้
ดังนั้น กลุ่มผู้ไม่มีที่ทำกินทั้ง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำลำนางรอง กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย กลุ่มอนุรักษ์ป่าดงใหญ่ 4 และเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ก็จะเข้าไปดำเนินการรังวัดและจัดสรรที่ป่าเป็นที่ทำกินกันเอง โดยจะไม่รอการดำเนินการของภาครัฐ เพราะที่ผ่านมาทางภาครัฐไม่ได้มีการแก้ไข หรือดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างจริงจังเลย ถึงแม้ชาวบ้านจะมีการเคลื่อนไหวเรียกร้องมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ด้าน นายเอก ทรัพย์เมือง กรรมการกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำลำนางรอง กล่าวว่า หลังจากได้มีสื่อบางสื่อนำเสนอข่าว ที่มีเนื้อหาของระบุว่า ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกและ ยึดครองที่ดิน รวมถึงตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อ.โนนดินแดง นั้น ตนยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้ข่าวกับสื่อมวลชนนั้น ให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ซึ่งตนได้ลงไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ไม่พบว่ามีนายทุน หรือ กลุ่มชาวบ้านเข้าไปบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ตามที่นำเสนอแต่อย่างใด