ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ท.วีร์วลิต” มทภ.2 คนใหม่ พร้อมสานต่อนโยบายชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักเจรจาไม่ใช้กำลัง เน้นรักษาความสงบเรียบร้อยให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ พร้อมรุกเสนอจัดระเบียบชายแดนตลอดแนวหลังชาวกัมพูชาตั้งชุมชนในพื้นที่อ้างสิทธิ์ วอน ปชช.เชื่อมั่นกองทัพ-รัฐบาล แต่ต้องใช้เวลาเหตุเรื้อรังมานาน ย้ำสถานการณ์เขาวิหาร ยังปกติ อัด “สรยุทธ” ช่อง 3 เต้าข่าวทหารเขมรยิงปืนรุกล้ำฝั่งไทยเกินเหตุ ลั่นทหารไทยพร้อมเต็มที่ทั้งกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์หากเกิดปะทะกันขึ้น
วันนี้ (30 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) คนใหม่ กล่าวภายหลังรับมอบภารกิจหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ต่อจาก พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล ที่เกษียณอายุราชการ ถึงนโยบายชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกรณีพิพาทชานแดนด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ว่า นโยบายการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีอยู่ในขณะนี้ก็ยังคงดำรงตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาที่ให้ไว้ต่อไป โดยเฉพาะต้องรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนให้อยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้
ส่วนปัญหาเรื่องเส้นเขตแดนนั้นก็ดำเนินการเดินหน้าต่อไปเหมือนเดิม โดยเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา แต่ขณะนี้ที่ต้องการทำมากที่สุดคือ การทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาที่มีอยู่ให้แน่นแฟ้น โดยใช้หลักการเจรจาแทนการใช้กำลัง และจะต้องมีการจัดระเบียบชายแดนขึ้นทั้ง 2 ฝ่ายในกรอบที่ทางกฎหมายได้อนุญาตไว้ หรือสิ่งใดที่จะเป็นการริเริ่มให้เกิดความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน คงต้องทำข้อเสนอให้พิจารณาตามลำดับเพื่อให้ได้รับอนุมัติ
สำหรับการจัดระเบียบชายแดนนั้นจะเห็นได้ว่ามีกำลังพลของประเทศเพื่อนบ้านบางส่วนได้เข้ามาตั้งชุมชนหรือหมู่บ้านในเขตอ้างสิทธิหรือพื้นที่ทับซ้อนและเส้นเขตแดนจุดนี้ยังไม่มีความชัดเจน ฉะนั้นหากมีการจัดระเบียบร่วมกันตรงนั้นได้จะเป็นพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่งที่เคยตกลงกันไว้ในชั้นต้นแต่ยังไม่มีการลงนามในบันทึก เราอาจจะขออนุญาตจัดระเบียบตรงนั้นไปก่อน ส่วนจุดไหนที่มีปัญหาก็ให้เว้นไว้ก่อน เพราะหากไปทำพร้อมกันทั้งหมดคงต้องใช้เวลาอีกนาน
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาแสดงความแข็งกร้าวต่อฝ่ายไทย ว่า ความจริงแล้วฝ่ายไทยเรามีความพร้อมทุกเรื่องทั้งเรื่องกำลังพล อาวุธ ยุทโธปกรณ์ แต่ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ต้องการใช้หลักสันติวิธีเป็นหลัก ฉะนั้นสิ่งใดที่สามารถเจรจากันได้ก็ใช้การเจรจาให้อยู่ในกรอบที่ยอมรับกันได้ โดยเฉพาะในแนวปัจจุบันที่เป็นอยู่ ก็จะดำรงไว้และไม่พยายามให้มีปัญหาขึ้นมา
ส่วนการปรับลดกำลังทหารของฝ่ายไทย ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะเขาพระวิหารนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการปรับลดกำลังแต่อย่างใด จะคงไว้ในสภาพที่เป็นอยู่ต่อไปทุกจุดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าพื้นที่ตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศความสัมพันธ์ยังดีอยู่และยังรักษาผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายอยู่ โดยทางประเทศไทยเราก็ไม่ได้เสียแผ่นดินหรือดินแดนใดทั้งสิ้น เพียงแต่ขอร้องให้ประชาชนคนไทยได้ทำความเข้าใจและให้ศึกษากันให้ดี เพราะการที่ไปกระทำอะไรที่ผ่านมาก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อไปข้างหน้าได้
“ขอให้เชื่อมั่นว่าทางกองทัพและรัฐบาล กำลังหาวิธีการแก้ไขปัญหานั้นอยู่แต่คงต้องใช้เวลาบ้างเพราะปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมาในช่วงนี้ แต่เป็นปัญหาเรื้อรังมานานแล้ว แต่ละยุคแต่ละสมัยก็พยายามแก้ไขในช่วงขณะนั้น ไม่มีใครผิด ดังนั้นในปัจจุบันนี้ยืนยันว่าทางกองทัพกับรัฐบาลก็แก้ไขปัญหานี้อยู่อย่างเต็มที่” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวถึงกรณีข่าวนายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศสั่งยิงทันทีหากไทยรุกล้ำเขตแดนเขาพระวิหารด้วยท่าแข็งกร้าวว่า คิดว่าไม่มีอะไร เป็นเพียงการแสดงท่าทีของท่านเท่านั้น ไม่ได้เป็นปัญหา และเชื่อว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน คงมีมนุษยธรรม คงไม่สั่งยิง ตนเชื่อมั่นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฝ่ายไทยก็มีความพร้อมเต็มที่ หากเกิดการปะทะขึ้นจริง แต่ไม่อยากให้มีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น
รวมทั้งทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขาพระวิหารนั้น มีขวัญกำลังใจที่ดี และมีการจับมือรับประทานอาหารด้วยกันกับทหารของฝ่ายกัมพูชา เพียงแต่บางครั้งอาจมีบ้างที่ทหารต้องรักษาระเบียบวินัย แต่ไม่มีเรื่องที่จะส่อให้เกิดเหตุการณ์บานปลายแต่อย่างใด
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวถึงกรณีที่สื่อโทรทัศน์ไทยบางแห่งโดยเฉพาะรายการของ นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) ที่รายงานข่าวระบุว่าทหารกัมพูชายิงปืนเข้ามายังฝั่งไทยในวันนี้นั้น จากที่ได้รับรายงานยืนยันว่าไม่มีการยิงปืนเข้ามาในพื้นที่ของไทยแต่อย่างใด แต่เสียงปืนดังอยู่ทางฝั่งกัมพูชา และทหารไทยเราก็ได้ยินบ่อยเป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายเขาอาจมีการฝึกหรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการรุกล้ำเข้ามาฝั่งไทยแต่อย่างใด
ขอยืนยันว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ยังเป็นปกติดี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าสื่อมวลชนทำไมจึงนำเสนอข่าวออกมาเช่นนี้ และที่ผ่านมาก็มีแต่สื่อมวลชนสถานีนี้ที่พยายามนำเสนอเรื่องแบบนี้ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย
“ฉะนั้น จากนี้ไปทางกองทัพภาคที่ 2 จะรุกการประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ ซึ่งจะมีการเปิดแถลงข่าวทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน และกรณีนี้จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ นายสรยุทธได้เข้าใจเพื่อจะได้สื่อสารออกไปยังประชาชนได้อย่างถูกต้องต่อไป” พล.ท.วีร์วลิต กล่าวในที่สุด
