กาญจนบุรี - “อำเภอบ่อพลอย” เตรียมจัดงาน “เทศกาลเห็ดโคน-อัญมณี ครั้งที่ 10 ประจำปี 52” ช่วงระหว่างวันที่ 16-24 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ที่บริเวณหน้าศูนย์สินค้าอัญมณีโอทอปของเทศบาลตำบลบ่อพลอย พร้อมจัดประกวดเห็ดโคนยักษ์ดอกละ 10,000 บาท พร้อมชม “หลวงพ่อนิล” องค์ใหญ่ที่สุดในโลกหนัก 40 ตันและกราบไหว้ “หลวงพ่อพลอยไพลิน” ที่ทำจากพลอย 130 กิโลกรัม
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายศรัณย์ จันทร์ดี นายอำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมจัดงานเทศกาลเห็ดโคนและอัญมณี ครั้งที่ 10 ประจำปี 2552 ที่บริเวณลานพระพุทธรูปหลวงพ่อนิล ประทานพร วัดเขาวงจินดาราม หมุ่ 1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี มีพระครูศรีกาญจนรักษ์ เป็นเจ้าอาวาส โดยมีนายประเสริฐ เอี่ยมพงษ์ไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อพลอย พ.ต.อ.วิเชียร แช่มช้าง ผกก.สภ.บ่อพลอย นายสุวัช พานิชวงษ์ รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาที่ 4 นายอิทธิพัฒน์ รัตนสุวรรณาชัย นายก อบต.หลุมรัง นายเรวัช เพิ่มพงศาเจริญ ผช.ผอ.กทท.จ.กาญจนบุรี เข้าร่วมแถลงข่าว
สำหรับงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-24 ตุลาคม 2552 รวม 9 วัน 9 คืน ที่บริเวณหน้าศูนย์สินค้าอัญมณีโอทอปของเทศบาลตำบลบ่อพลอย พร้อมจัดประกวดเห็ดโคนยักษ์ดอกละ 10,000 บาท พร้อมชม “หลวงพ่อนิล” องค์ใหญ่ที่สุดในโลกหนัก 40 ตัน และกราบไหว้ “หลวงพ่อพลอยไพลิน” ทำจากพลอย 130 กิโลกรัม ของวัดย่างช้าง และลานลาวาภูเขาไฟแหล่งกำเนิด “พลอยไพลินนิล” พร้อมชิมความอร่อยของเห็ดโคนที่หลากหลาย
นายศรัณย์ จันทร์ดี นายอำเภอบ่อพลอย เปิดเผยว่า จังหวัดกาญจนบุรี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางภาคตะวันตก ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การกีฬา หรือความงดงามตามธรรมชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาปีละไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้วสิ่งที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักของจังหวัดกาญจนบุรี คือ เห็ดโคน ซึ่งเป็นเห็ดชนิดเดียวที่ไม่สามารถเพาะเองได้ มีรสชาติหวานกรอบ อร่อย เป็นที่ยอมรับของนักชิมทั่วไปว่าเป็นเห็ดที่อร่อยที่สุด แต่เห็ดโคนมีให้บริโภคเพียง 1 ฤดูกาล
ดังนั้น ทางอำเภอบ่อพลอยและเทศบาลตำบลบ่อพลอย พร้อมองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในทุก อบต.จึงจัดงานเทศกาลเห็ดโคน ระหว่างวันที่ 16-24 ตุลาคม 2552 บริเวณหน้าศูนย์สินค้าอัญมณีโอทอป ของเทศบาลตำบลบ่อพลอย เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางเมืองและมีถนนกว้าง สถานที่จอดรถสะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายอาหารมีเห็ดโคนเป็นส่วนประกอบเป็นหลักรวมถึงการแปรรูปเห็ดโคน การแสดงบนเวที ซึ่งเชื่อว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นจุดขายด้านท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย
นายประเสริฐ เอี่ยมพงศ์ไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ่อพลอย กล่าวว่า ภายในการจัดงานเทศกาลเห็ดโคนได้จัดให้มีการประกวดเห็ดโคนยักษ์ ดอกใหญ่ที่สุดรับไปเลย 10,000 บาท มีการประกวดยอดนักเจียระไนนิลแห่งสยาม การประกวดผู้นำประชาชนลูกทุ่งเสียงทอง โดยผู้ประกวดจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีการประกวดประชันการบรรเลงวงดนตรีไทย การประกวดธิดาเห็ดโคน ในส่วนเวทีกลางจะมีนักร้อง นักแสดงชื่อดัง มาร่วมขับกล่อมเสียงเพลงให้นักท่องเที่ยวได้รับฟังรับชม
“นอกจากที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมงานเทศกาลเห็ดโคนและอัญมณีแล้ว ท่านยังจะได้กราบไหว้หลวงพ่อนิล ที่ทำจากนิลทั้งองค์หนัก 40 ตัน และเป็นพระนิลองค์ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่บนยอดเขาวงจินดารามใกล้สถานที่จัดงาน และกราบไหว้หลวงพ่อพลอยไพลิน ทำจากพลอย 130 กิโลกรัมของวัดย่างช้าง และลานลาวาภูเขาไฟ แหล่งกำเนิดพลอยไพลินนิล เมืองกาญจนบุรี นักท่องเที่ยวสามารถพาลูกหลานมาเที่ยวชมสวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์คที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตก
ส่วนนักกอล์ฟสามารถมาทดสอบฝีมือที่สนามกอล์ฟบลูแซฟไฟร์ ที่มีถึง 54 หลุมและเป็นสนามกอล์ฟแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถนั่งเรือไปตีได้ พร้อมทั้งมีที่พักไว้บริการด้วยบรรยากาศที่ดีเยี่ยม”
ด้าน นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง อำเภอบ่อพลอย กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของประเทศไทย มีพื้นที่ทางด้านทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดตาก และอุทัยธานี ทิศใต้ติดกับจังหวัดราชบุรี ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดสุพรรณบุรีและนครปฐม และทิศตะวันตกติดกับประเทศพม่า ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มภูเขาปกคลุมไปด้วยพรรณไม้และต้นไม้นานาชนิด
จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ด้วยสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื่นของกาญจนบุรี โดยสภาพอากาศช่วงกลางวันจะร้อนจัด พอตกเย็นอากาศจะเริ่มหนาวเย็น ด้วยสภาพภูมิอากาศประสานกับสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าเขา จึงทำให้เกิด “เห็ด” ชนิดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกาญจนบุรีไม่แพ้กับอัญมณีที่ล้ำค่าอย่าง “พลอยไพลิน” นั้น ก็คือ “เห็ดโคน” หรือที่ชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เห็ดปลวก”
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง กล่าวต่อว่า “เห็ดโคน” หรือ “เห็ดปลวก” เป็นเห็ดป่าเติบโตได้ดีในสภาพธรรมชาติความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะมีรูปร่างเหมือนเห็ดทั่วไป คือ มีก้านเห็ดและหมวกเห็ด ดอกใหญ่ โคนอวบหนามีกลิ่นเฉพาะตัวมักเกิดตามพื้นที่บริเวณจอมปลวกภายหลังแมลงเม่าอพยพออกจากรังปลวก มีการอพยพของปลวกที่เราเรียกว่า แมลงเม่าอพยพออกจากรังปลวกเดิม เพื่อสร้างรังใหม่และเมื่อฝนตกชุกจนมีความชุ่มชื้นเหมาะสมบวกกับสภาพอากาศจึงทำให้เกิดตุ่มดอกเห็ดเล็กๆ เจริญเติบโตจนกลายเป็นเห็ดโคนที่ลือชื่อ “เห็ดโคน”
เห็ดโคน สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายชนิด เพราะเห็ดโคนเป็นเห็ดที่มีรสชาติที่น่ารับประทาน แถมยังเป็นเห็ดหายากมักขึ้นอยู่ตามป่าเขา และที่สำคัญที่สุด ก็คือ “เห็ดโคน” จะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น คือ ในช่วงกันยายนถึงมกราคมของทุกปี “เห็ดโคน” เมืองกาญจนบุรีนั้นจะแตกต่างจาก “เห็ดโคน” ที่อื่น คือ เห็ดเมืองกาญจน์จะมีรสหวานกรอบอร่อยกว่าเห็ดโคนจังหวัดอื่นๆ การรับประทาน “เห็ดโคน” ให้อร่อยหลังทำความสะอาดเสร็จ เราปรุงเห็ดง่ายเพียงใส่น้ำ และเกลือลงไปตั้งไฟให้เดือดเพียงเท่านี้ท่านก็จะได้น้ำต้มเห็ดรสหวานตามธรรมชาติ
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ “เห็ดโคน” เมืองกาญจน์ยังมีสรรพคุณช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด แก้คลื่นไส้ อาเจียน แก้ไอ ละลายเสมหะ การนำ “เห็ดโคน” ไปทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่าน้ำที่สกัดจากเห็ดโคนสามารถยับยั้งเชื้อโรคบางชนิด
เช่น เชื้อไทฟอยด์ “เห็ดโคน” จึงเป็นที่นิยมรับประทานกันมาก ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีในปีนี้มีชาวบ้านออกหาเห็ดโคนเพื่อเป็นรายได้เสริมมาตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมา ตามพื้นที่ป่าในอำเภอไทรโยค ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ บ่อพลอย และหนองปรือ ราคาซื้อขายขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 300-400 บาท สำหรับเห็ดตูม ส่วนเห็ดบานราคาตกกิโลกรัมละประมาณ 200-250 บาท