กาญจนบุรี - ชาวพุน้อย เมืองกาญจนบุรี รวมตัวร้องผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้าน กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ส่งลูกชายตัวเองลงสมัครแทน หลังจากที่ตัวเองลาออกแล้วเพื่อเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่ บอกชาวบ้านว่าจะไม่ส่งใครลงสมัครโดยตัวเองจะลงสมัครเองอีกสมัยหนึ่ง แต่พอถึงวันสมัครจริงกลับส่งลูกชายตัวเองลงแทน ซึ่งถือว่าเป็นการผิดสัญญาวาจา หลอกลวง ฉ้อฉล และเป็นการดูถูกชาวบ้านอย่างมาก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 ก.ย.) นายเบี้ยว วงศิล อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 บ้านพุน้อย หมู่ 4 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมชาวบ้านบ้านพุน้อยกว่า 60 คนเดินทางมาที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือต่อนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ขอความเป็นธรรมให้ชาวบ้านบ้านพุน้อย กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ผิดสัญญาวาจา ส่งลูกชายลงสมัครแทน โดยมีว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ ศังขะฤกษ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นผู้รับหนังสือแทน
นายเบี้ยว วงศิล แกนนำชาวบ้าน เปิดเผยว่า การเดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้เนื่องจากว่า ด้วยทางอำเภอเมืองกาญจนบุรีได้ประกาศให้บ้านพุน้อย หมู่ 4 มีการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านขึ้นใหม่แทนนายวรศักดิ์ ศิลป์มณีพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านคนเก่าที่ลาออกไป โดยทางอำเภอได้กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 9-11 ก.ย.ที่ผ่านมา และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 28 กันยายนที่จะถึงนี้
ส่วนสาเหตุเนื่องมาจากว่าก่อนวันรับสมัครเลือกตั้งนั้น นายวรศักดิ์ ศิลป์มณีพันธ์ อายุ 56 ปี ขณะดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านอยู่นั้นได้ร้องขอกับชาวบ้านว่า จะลาออกจากผู้ใหญ่บ้านแล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ขอร้องกับชาวบ้านว่าไม่ให้มีใครลงสมัครแข่ง โดยบอกว่าจะเป็นคนลงสมัครเอง ซึ่งเหลืออีกเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้นก็จะเกษียณอายุครบ 60 ปี ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งหมดก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด จึงไม่มีใครลงรับสมัครแข่ง
ต่อมาวันที่ 11 ก.ย.ซึ่งเป็นวันรับสมัครผู้ใหญ่บ้านวันสุดท้าย ชาวบ้านก็ไปถามนายวรศักดิ์ว่าไปรับสมัครเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านแล้วหรือยัง ซึ่งนายวรศักดิ์ตอบกับชาวบ้านว่า รับสมัครเรียบร้อยแล้ว
นายเบี้ยวเปิดเผยต่อว่า ต่อมาหลังจากทางอำเภอปิดรับสมัครผู้ใหญ่บ้านในวันที่ 11 ก.ย.ทางอำเภอได้ประกาศรายชื่อผู้สมัครผู้ใหญ่บ้านให้ชาวบ้านรู้ ปรากฏว่าผู้ที่รับสมัครผู้ใหญ่บ้านบ้านพุน้อยกลับไม่ใช่นายวรศักดิ์ แต่เป็นนายสุวรรณ ศิลป์มณีพันธ์ ซึ่งเป็นลูกชายของนายวรศักดิ์ เป็นผู้รับสมัครแทน
หลังจากชาวบ้านทราบข่าวทำให้ไม่พอใจนายวรศักดิ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากนายวรศักดิ์ ได้ขอร้องและรับปากกับชาวบ้านแล้วว่าถ้าจะส่งคนอื่นลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านจะบอกให้ชาวบ้านทั้งหมดรู้ก่อน จากนั้นจะเปิดโอกาสให้กับชาวบ้านทุกคนที่มีคุณสมบัติที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อแข่งขันกันในระบอบประชาธิปไตย
แต่การกระทำของนายวรศักดิ์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการหลอกลวงชาวบ้าน ฉ้อฉลชาวบ้าน และเป็นการดูถูกชาวบ้านเป็นอย่างมาก และการกระทำของนายวรศักดิ์ถือว่ามีการวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อหลอกลวงชาวบ้าน เพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้อื่นลงสมัครแข่งขันกับลูกชายของตนเอง ชาวบ้านจึงอยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดรับสมัครเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านใหม่เพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้อื่นที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้
สำหรับนายสุวรรณ ลูกชายของนายวรศักดิ์ นั้นเพิ่งจะมีอายุแค่ 25 ปีเท่านั้น ถ้าหากได้เป็นผู้ใหญ่บ้านโดยไม่มีผู้แข่งขันก็จะเป็นผู้ใหญ่บ้านไปจนกว่าจะอายุ 60 ปี ซึ่งชาวบ้านต่างรู้ดีว่า นายสุวรรณนั้นไม่เป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน วันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่เท่านั้น จะมาพัฒนาหมู่บ้านได้อย่างไร
ด้าน ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน ได้สั่งการไปยังนายพิพัฒน์ ศังขะฤกษ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ให้นำกลุ่มชาวบ้านไปตกลงเพื่อเจรจาทำความเข้าใจ โดยชาวบ้านได้ส่งตัวแทนจำนวน 5 คน ไปเจรจากันที่ห้องทำงานของนายอำเภอเมือง
นายพิพัฒน์กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นการตกลงกันเองของชาวบ้านภายในหมู่บ้าน ซึ่งทางอำเภอไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ตนก็พร้อมจะติดต่อนายวรศักดิ์ และนายสุวรรณ สองพ่อลูก เพื่อมาพูดคุยทำความเข้าใจกันอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกของคนในหมู่บ้าน ซึ่งทางกฎหมายแล้วไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าจะผิดก็ผิดทางด้านคุณธรรม จริยธรรมเท่านั้น ซึ่งตนจะทำให้ดีที่สุด