xs
xsm
sm
md
lg

สนง.ปรมาณูว่าจ้างมหาลัยฯจุฬาฯวางแผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานปรมาณูของประเทศ ครั้งแรกของประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักงานปรมาณู ว่าจ้างศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วางแผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานปรมาณูของประเทศ เพื่อกำหนดเป็นแผนแห่งชาติในอนาคตต่อไป

วันนี้ (25 ก.ย.52) ที่ ห้องจันทร์สุดา โรงแรมสตาร์พลาซ่าระยอง รองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ วัฒนา หัวหน้าโครงการ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมแผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานปรมาณูของประเทศ โดยมีข้าราชการ ,ประชาชน ,นักวิชาการ ,เอ็นจีโอ จากหลายพื้นที่ประมาณ 100 คน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

การประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการมารับทราบปัญหา และข้อเสนอแนะ และตอบข้อซักถามจากผู้เข้าร่วมประชุม โดยข้อมูลต่างๆที่รับฟังในครั้งนี้ จะนำไปรวบรวม กำหนดเป็นแผนงานในการแก้ไขปรับปรุงแผนงานที่ทางมหาวิทยาลัยจุฬาฯได้ ศึกษาและวางแผนงานไว้แล้วในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามแผนงานดังกล่าวก็จะต้องรับฟังเสียงของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อรวมรวมเป็นแผนงานที่ชัดเจนและถูกต้องต่อไป

สำหรับการประชุมพิจารณ์ในครั้งนี้ ที่จังหวัดระยอง ถือว่าเป็นครั้งแรกที่จัดประชุมแผนยุทธศาสตร์ด้านพลังงานปรมาณูของประเทศ โดยจะต้องมีการจัดประชุมรูปแบบนี้รวมทั้งสิ้น 5 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 2 ที่เชียงใหม่ ,ครั้งที่ 3 ภาคอีสานที่จังหวัดอุบลราชธานี ,ครั้งที่ 4 ภาคใตที่จังหวัดสงขลา และครั้งสุดท้าย ที่กรุงเทพฯ เพื่อนำข้อมูลทุกภาคส่วนมาจัดทำเป็นแผนงาน เพื่อเสนอคณะกรรมการปรมาณูเพื่อสันติต่อไป

รองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ กล่าวต่อไปว่า ระยะเวลาในการประชุมพิจารณ์นั้น คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการไม่เกิน 3 เดือน หลังจากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณาต่อไป โดยในขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลาอีกนานเท่าไรไม่ทราบ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ครม. แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากครม.พิจารณาให้ดำเนินการก่อสร้าง การจะลงในรายละเอียดต่างๆ เช่น พื้นที่ในการก่อสร้าง ,รูปแบบโครงการ ก็ต้องไปศึกษาและวางแผนงานอีกครั้ง โดยจะต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปี ถึงจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

โครงการยุทธศาสตร์ด้านพลังงานปรมาณูนั้น มีการพูดจากันมานานหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร และในวันนี้เริ่มมีความชัดเจน เมื่อให้ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นผู้วางแผนงานดังกล่าวขึ้น ซึ่งถือว่าล่าช้ามากทั้งๆมีโครงการนี้ มีมานานกว่า 30-40 ปีแล้ว ที่มีแผนจะก่อสร้างโครงการดังกล่าว แต่ไม่เคยชี้แจงหรือทำความเข้าใจให้ประชาชนได้รับทราบ

ศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในวันนี้ ที่ประชุมได้เสนอแนะให้เร่งประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนเพิ่มมากขึ้น เพราะหากโครงการใดที่ประชาชนไม่ได้รับทราบข้อมูล หรือข้อมูลไม่ชัดเจน ประชาชนก็จะออกมาต่อต้านและคัดค้านอย่างแน่นอน ดังนั้น เรื่องนี้ทางคณะทำงานจะต้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น

“โครงการนี้ ในอนาคตจะต้องเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบัน พลังงานต่างๆลดน้อยและหมดไป โดยคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าหากไม่มีโครงการด้านพลังงานมารองรับ ประเทศไทยจะเกิดวิกฤตอย่างแน่นอน ดังนั้น โครงการนี้ ควรจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 3,5 หรือ 10 ปี ถึงจะเหมาะสม หากนานกว่านี้จะเกิดผลกระทบอย่างแน่นอน” ศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น