xs
xsm
sm
md
lg

ที่ดินฯ ย้ำ “แม่ฟ้าหลวง” มีเอกสารสิทธิแค่ 13 แปลงที่เหลือเป็นป่า-ชี้ทุนยักษ์ฮุบป่าแม่จันอิทธิพลล้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – ที่ดินจังหวัดฯ ย้ำชัด พื้นที่ “แม่ฟ้าหลวง” มีที่ดินออกเอกสารสิทธิได้ 11 แปลงเท่านั้น ที่เหลือเป็นเขตป่าเขา ไม่มีพื้นที่ออกโฉนดได้ รับไม่มั่นใจเอกสารสิทธิบนยอดเขาเป็นของจริงหรือปลอม และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 39 แต่ไร้การแก้ไข ส่วนกรณีรุกป่าแม่จันของกลุ่มทุนยักษ์ มี ขรก.ถูกเด้งระนาวมาแล้ว หลังพยายามเข้าตรวจสอบ

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ได้บินสำรวจพื้นที่ป่าบริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง เนื้อที่รวมกันประมาณ 6,650 ไร่ และสวนป่ากิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน ซึ่งพบว่ามีกลุ่มทุนเข้าบุกรุกถือครองเป็นบริเวณกว้าง และมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างอ้างว่ามีการออกโฉนดไปแล้วด้วย จนทำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องรายงานสถานการณ์ไปยังส่วนกลาง เพื่อรอคำสั่งในการดำเนินการต่อไป และเป็นที่น่าสังเกตว่ากรณีดังกล่าวไม่มีหน่วยงานใดอ้างเป็นผู้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเข้าไปดำเนินคดีกับนายทุนดังกล่าวแต่อย่างใด

นายเกียรติก้อง สุวรรณสาร เจ้าพนักงานที่ดิน จ.เชียงราย กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องที่ดินและออกโฉนดที่ดิน เห็นว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของ อ.แม่ฟ้าหลวง ไม่มีพื้นที่ที่จะสามารถออกโฉนดได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งตนคิดว่าน่าจะจบไปนานแล้วแต่กลับเป็นปัญหาที่เรื้อรังและมาเป็นข่าวอีกครั้งหนึ่ง เหตุก็เพราะยังไม่มีการแก้ไข

สำหรับพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ถือว่าเป็นเขตป่าเขาจะมีเพียงพื้นที่ราบบริเวณเชิงเขาเล็กน้อยเท่านั้น ที่สามารถออกเอกสารสิทธิประเภท น.ส.3 ก.ได้เพียงแค่ 11 แปลง ดังนั้นการเข้าไปถือครองและออกโฉนดบนสวนป่าแม่สลองจึงดูขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ซึ่งจะเป็นโฉนดจริงหรือปลอมนั้นตนไม่อาจทราบได้

นายเกียรติก้องกล่าวอีกว่า สวนป่าดอยแม่สลองเป็นผืนป่า ขั้นตอนการดำเนินการในการเดินสำรวจเพื่อการออกโฉนดก็ไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ในส่วนของความถูกต้องในการออกโฉนดอาจมีจริงหรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ในสำนักงานที่ดิน อ.แม่จัน ไปแล้วหลายราย ซึ่งแต่ละรายก็มีโทษแยกเป็นเรื่องๆ ไปอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าปัญหาการบุกรุกเข้าไปในผืนป่าของหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง แม้จะเกิดขึ้นมานาน โดยการสำรวจทางอากาศพบว่า พื้นที่ที่ถูกนายทุนบุกรุกนอกเหนือไปจากที่ชาวบ้านเข้าไปทำการเกษตรมีมากถึง 10% ของเนื้อที่ทั้งหมด นอกจากนี้ ในพื้นที่ป่าเขต ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน ยังพบมีการแผ้วถางยอดเขาจนโล่งเตียนกว่า 468 ไร่ แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเข้าไปพิสูจน์ว่า นายทุนดังกล่าวมีการออกโฉนดอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร

สาเหตุมาจากความเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน รวมทั้งมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการขุดคุ้ยเรื่องโฉนดจนถึงขั้นเพิกถอนสิทธิการได้มาซึ่งโฉนดในเขตป่าเขาดังกล่าวก็จะสามารถรู้ตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการให้อนุญาตทั้งหมดด้วย จึงทำให้แต่ละฝ่ายยังไม่กล้าดำเนินการเรื่องนี้ให้รวดเร็ว

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับพื้นที่ อ.แม่จัน นั้นเคยมีกลุ่มทุนใหญ่รายหนึ่งที่ประกอบธุรกิจด้านการปลูกยางพาราเข้าไปกว๊านซื้อที่ดินจากชาวบ้านรวมทั้งเข้าไปแผ้วถางพื้นที่ที่เคยเป็นป่าเขาเขต ต.จอมสวรรค์ ต.ท่าข้าวเปลือก ฯลฯ กว่า 10,000 ไร่ โดยเป็นผลมาจากการเข้าไปถือครองที่ดินด้วยการใช้อิทธิพลของอดีตกำนันชื่อดังคนหนึ่งในพื้นที่ และเมื่อมีการขายที่ดินดังกล่าวให้กับกลุ่มทุนแล้วพบว่า มีบางหน่วยพยายามเข้าไปตรวจสอบการเข้าไปถือครองที่ดินแต่ปรากฏว่าไม่ประสบความสำเร็จ

โดยหลายคนโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ถูกย้ายออกไปจากพื้นที่ ขณะที่ทางผู้ตรวจการรัฐสภาที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านก็เคยเข้าไปตรวจสอบแต่กลับถูกพาไปตรวจสอบไม่ถูกสถานที่อีกด้วย ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะมีรายงานว่าที่ปรึกษาของเอกชนรายนี้เป็นถึงอดีตนายทหารระดับสูงที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งนั่นเอง

กำลังโหลดความคิดเห็น