xs
xsm
sm
md
lg

กำลังผสมกระบี่บุกตรวจยึดไม้เถื่อนถูกมอดไม้ลอบตัดในเขตป่าอุทยานฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดไม้เถื่อนของกลางจำนวนมาก
กระบี่- เจ้าหน้าที่อุทยานเขาพนมเบญจา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่ป่าไม้ ตชด.426 กระบี่ และกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 เข้าตรวจยึดไม้จำปาแปรรูปขนาดใหญ่ภายในเขตอุทยานฯ จำนวน 14 แผ่น และไม้ซุงอีกจำนวนมาก คาดเตรียมนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ตามใบสั่งนายทุน ในราคาแผ่นละ 20,000-30,000 บาท เผยคนมีสีในพื้นที่มีเอี่ยว

วันนี้ (4 ก.ย.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา สนธิกำลังร่วมกับ ทหาร กองพันทหารราบที่1 กรมทหารราบที่ 15 เจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 426 กระบี่ หน่วยประสานงานป้องกัน และปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ จังหวัดกระบี่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.1 (เหนือคลอง)

พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเทือกเขาพนมเบญจา หมู่ 7 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ได้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้เข้าไปทำการบุกรุกตัดไม้ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมากโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเขาระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ระหว่างทางพบไม้แปรรูปขนาดต่างๆ วางอยู่ตลอดสองข้างทาง มีร่องรอยชักลากด้วยช้างลงมาจากยอดเขาเป็นระยะ และเมื่อไปถึงกลางยอดเขาเนื้อที่ 1 ไร่ พบตอไม้จำปาขนาดต่างๆ จำนวน 7 ตอ ตั้งแต่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ไปจนถึงขนาดผ่าศูนย์กลาง 2.7 เมตร

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบไม้ที่แปรรูปแล้วขนาด 4x100 จำนวน 14 แผ่น และท่อนซุงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร ยาว 12 เมตร 1 ท่อน และเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร ขนาดยาว 20 เมตร อีกจำนวน 2 ท่อน รวมมูลค่าทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท

นายสนชัย ลาชโรจน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา กล่าวว่า การตรวจยึดครั้งนี้ไม่ตัวพบผู้กระทำผิดแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการตรวจยึดไม้ของกลางไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ฐานแผ้วถางนำออกด้วยประการใดๆ และทำให้ป่าเสื่อมสภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต กระทำผิดผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 แผ้วถางแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้

สำหรับไม้แปรูปทั้งหมดทราบว่า ได้รับใบสั่งจากนายทุน เตรียมนำไปแปรรูปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ในราคาแผ่นละ 25,000-30,000 บาท ซึ่งจะได้สืบสวน เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนกรณีที่มีการแจ้งว่า

มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ สำหรับกลุ่มผู้กระทำผิดถือว่า มีอิทธิพลพอสมควร ลำพังเจ้าหน้าที่อุทยานเพียงหน่วยงานเดียวคงไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนในเชิงลึกต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น