เชียงราย - กรมอุทยานฯบินตรวจป่าแม่สลอง จังหวัดเชียงราย พบถูกรุกเพียบ เหลือป่าสมบูรณ์เพียง 20-30% ที่เหลือถูกถางเรียบวุธ แถมมีรีสอร์ทใหม่โผล่ 2 แห่ง แถมมีโฉนดโผล่อีก พบป่ากิ่วทัพยั้งแม่จันถูกรุกอีก แต่ไร้หน่วยงานเจ้าทุกข์แจ้งความจับ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ช่วงต้นสัปดาห์นี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ได้นำเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ป่าบริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งมีเนื้อที่รวมกันประมาณ 6,650 ไร่ เพื่อสำรวจสภาพว่ามีการบุกรุกหรือไม่อย่างไร ซึ่งจากการบินสำรวจพบว่านอกจากพื้นที่ทางการเกษตรที่ชาวบ้านเข้าไปบุกรุกเพื่อปลูกพืชเกษตรมานานแล้ว ยังมีพื้นที่บางส่วนมีลักษณะถูกเอกชนบางรายเข้าไปบุกรุกถือครองที่ดินรวมทั้งมีการสร้างรีสอร์ทกลางป่า
การสำรวจครั้งนี้พบว่า ป่าแม่สลอง มีสภาพของผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์เหลือเพียงประมาณ 20-30% ที่เหลือเป็นพื้นที่ทางการเกษตรไปแล้ว 70%
สำหรับพื้นที่ที่ถูกนายทุนบุกรุกเข้าไปสร้างเป็นรีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ พบมีอยู่สองแห่งใหม่ๆ รวมเนื้อที่ประมาณ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด
หลังการบินสำรวจ นายวรวิทย์ เชื้อสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ได้จัดทำเป็นรายงานส่งให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเพื่อรับทราบและมีคำสั่งดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว
เนื่องจากพื้นที่ที่เอกชนบุกรุกมีรายงานว่ามีการออกโฉนดทับซ้อนพื้นที่ป่าด้วย จึงอาจจะมีการตรวจสอบที่ต้องใช้ขั้นตอนสลับซับซ้อน เช่น พื้นที่บริเวณบ้านดงสุวรรณ ต.จอมสวรรค์ อ.แม่จัน พบว่า มีการแผ้วถางยอดเขาจนโล่งเตียน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ไปตรวจสอบก็ปรากฏว่ามีการออกโฉนดบนเนื้อที่กว่า 468 ไร่ ซึ่งต้องพิสูจน์สิทธิกันว่าได้มาได้อย่างไรต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่าที่สวนป่ากิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน พบว่า มีการบุกรุกเข้าไปในผืนป่าประมาณ 50 ไร่ ซึ่งจะได้สำรวจว่าการบุกรุกดังกล่าวมีการอ้างสิทธิการถือครองในลักษณะเดียวกันหรือไม่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ระบุว่า จากการมองทางอากาศพื้นที่ดังกล่าวถือว่าอยู่ในเขตสวนป่าอย่างชัดเจน แต่ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานหรือบุคคลในพื้นที่กล้าเป็นเจ้าทุกข์เข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกดังกล่าวมาก่อน
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) กล่าวว่า ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดและได้จัดส่งเป็นรายงานไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้ว และกำลังรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการจัดการกับปัญหาดังกล่าวต่อไป เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและต้องมีการตรวจสอบกันหลายส่วนด้วย หากมีคำสั่งลงมาอย่างไรก็ตามปฏิบัติตามอย่างเข้มงวดต่อไป