xs
xsm
sm
md
lg

อันซีน“ป่าภูเก็ต” ดงปาล์มหลังขาวแห่งแรกของโลก/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
ป่าเขาพระแทว ป่าใหญ่ผืนสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในภูเก็ต
บ่อยครั้งที่ไปภูเก็ต กิจกรรมท่องเที่ยวที่ผมมักพึงกระทำก็คือการ “เที่ยวป่า” เดินทอดน่องดูสีสันเมืองท่องเที่ยวทั้งยามกลางวันและยามราตรี

บอกอย่างนี้ เพื่อนผมที่นั่งดื่มด้วยกันมันถามแบบงงๆว่า “ส่วนใหญ่คนไปภูเก็ตเขาไปเที่ยวทะเลกัน แต่มึงดันไปเที่ยวป่า เออป่าไหนวะ ไปเที่ยวตอนกลางคืนได้ด้วย???”

ผมยิ้มเล็กน้อยถึงปานกลางตอบมันว่า “ก็ ‘ป่าตอง’ไง หาดชายทรายทะเลและย่านราตรีที่คึกคักที่สุดในภูเก็ต” ก่อนกระดกแก้วน้ำสีอำพันลงคอไป 1 อึกใหญ่

นั่นเป็นเรื่องก่อนหน้านั้น แต่ในทริปนี้ผมไปเดินป่าจริงๆ(ไม่ใช่ป่าแค่ชื่อ)ในภูเก็ตมา แถมยังเหนื่อยจริง หอบจริง แต่ไม่เจ็บจริง(เพราะไม่ใช่จีจ้า) ป่าที่ว่านั้นก็คือ “ป่า(ควน)เขาพระแทว” อ.ถลาง ที่อยู่ในความดูแลของ “สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว”

ชื่อของป่าแห่งนี้ ตั้งตามชื่อขุนเขาที่มีเรื่องเล่าว่า แต่ก่อนมีผู้ทรงศีลชื่อ“แทว”มาปักกลด ภาวนาศีล ในขุนเขาแห่งนี้ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันเรียกว่า “เขาพระแทว”

ป่าเขาพระแทว เป็นผืนป่าใหญ่ที่สุดในภูเก็ต มีเนื้อที่กว่า 13,925 ไร่ หรือ 22.28 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ราว 12,000 ไร่ ที่เหลือเป็นแนวป่ากันชน ลักษณะของป่าเขาพระแทวเป็นป่าดิบชื้นอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่น เขียวครึ้ม

ทันทีที่เดินทางมาถึงผืนป่าแห่งนี้ รังสีแห่งพงไพรได้แผ่พลังกระตุ้นอารมณ์อยากเดินป่าของผมที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในป่าคอนกรีตให้ปะทุคุโชนขึ้นมาอีกครั้ง
น้ำตกโตนไทร
สำหรับเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาพระแทว มี 2 เส้นทางด้วยกัน คือเส้นทางน้ำตกโตนไทร ที่มีทั้งวงรอบสั้น 600 เมตร วงรอบยาว 2 กม. และเส้นทางจากน้ำตกโตนไทรสู่น้ำตกบางแป ระยะระยะทางประมาณ 4.5 กม. ใช้เวลาเดินป่า 3-4 ชม. เป็นเส้นทางเดินป่าที่ยาวที่สุดในเขาพระแทว ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เคยเสด็จฯมาแล้ว

งานนี้ผมเลือกเดินเส้นทางน้ำตกโตนไทร(2 กม.) เพราะทางสายยาว(4.5 กม.)เคยไปเดินมาแล้ว อีกอย่างวันนั้นฟ้าฝนแปรปรวน เดี๋ยวแดดจ้า เดี๋ยวฝนตกซู่ เดี๋ยวฝนตกปรอยๆ เดาทางไม่ถูกจริงๆ

“หนุ่มภูเก็ตหลายคนเขาบอกว่า อย่าเชื่อใจสาวพังงา อย่าเชื่อใจฟ้าภูเก็ต”

พี่หนุ่มเจ้าหน้าที่พาเดินป่าบอกกับผมอย่างนั้น ส่วนทำไมสาวพังงาเชื่อใจไม่ได้ เรื่องนี้คงต้องไปถามคนที่มีประสบการณ์เอาเอง ขณะที่อย่าเชื่อใจฟ้าภูเก็ตนั้นไม่ต้องไปถามใคร เพราะวันนั้นมีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เรื่องฝนตกมันไม่ทำให้ใจผมหวั่นไหวแต่อย่างใด เพราะเราเป็นคนอยู่ใต้ฟ้าไม่กลัวฝน แต่ว่าที่กลัวนะกลัวกล้องเปียกฝนเจ๊งมากกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เลือกเดินในเส้นทางสายสั้น โดยฉวยจังหวะขณะที่ฝนหยุดพัก แดดบด ออกตะลุยเดินป่าศึกษาธรรมชาติชมเสน่ห์ของผืนป่าแห่งนี้

เส้นทางเดินป่าน้ำตกโตนไทร เป็นเส้นทางไม่ลำบากยากเย็น แต่ก็มีทางเดินชันๆให้เหงื่อตก ลิ้นห้อยกันในบางช่วง แถมเวลาเดินเหงื่อยังออกค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษอีกต่างหาก เรื่องนี้พี่หนุ่มบอกว่า มันเป็นไปตามลักษณะของป่าดิบชื้นที่ไม่ค่อยมีลมพัดผ่านมาถึงตัว รวมไปถึงพื้นดินที่คายความร้อนออกมาใส่ร่างกายเรา
เห็ดมีดอก
เส้นทางสายนี้แบ่งเป็นสถานีต่างๆ อาทิ ปลวก พูพอน ป่าดิบชื้น ไทร รวม 14 สถานี ตลอดเส้นทางนอกจากจุดชมตามสถานีต่างๆยังมี ต้นไม้ พันธุ์ไม้ และสิ่งละอันพันละน้อยให้ชมกันเป็นที่เพลิดเพลิน โดยเฉพาะกับเห็ดที่ดูเหมือนมีดอก ซึ่งพี่หนุ่มบอกว่าเพิ่งเคยเจอที่ป่าแห่งนี้เป็นครั้งแรก นับเป็นโชคดีของเราไม่น้อยเลย

ส่วนที่โชคดียิ่งขึ้นไปอีกก็คือวันนั้น ผมได้เจอกับ“ปูน้ำตก”หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า”ปูมดแดง”เป็นปูขนาดเล็ก มีสีแดงสดสวยงาม เป็นปูเฉพาะถิ่นประจำน้ำตกที่หาชมได้ยากมากแต่วันนั้นมันมาปรากฏโฉมให้ผมเจอะเจอแบบจังๆถึง 2 จุดด้วยกัน คือบนถนนสู่ทางเดินป่าและในเส้นทางเดินป่า

นอกจากนี้เส้นทางเดินป่าน้ำตกโตนไทร ยังมีอีก 2 สถานี(ใน 14 สถานี) เป็นไฮไลท์ไฟท์บังคับที่ผมไม่พูดถึงไม่ได้

ไฮไลท์แรกคือน้ำตกโตนไทร น้ำตกขนาดเล็กที่มีสายน้ำชุ่มฉ่ำตลอดทั้งปีไหลลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ชั้นหลักสูง 10 กว่าเมตร เป็นสายน้ำเล็กแคบ ชื่อน้ำตกมีที่มาจากธารน้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกันที่โคนต้นไทร ชาวบ้านจึงเรียกว่า “น้ำตกโตนไทร”
ปาล์มหลังขาวที่ถูกค้นพบแห่งแรกของโลกที่เขาพระแทว
ไฮท์ไลท์ลำดับที่สองคือ “ปาล์มหลังขาว”ไม้เฉพาะถิ่นที่สำคัญมากชนิดหนึ่งของเมืองไทย เพราะเป็นปาล์มที่ถูกค้นพบแห่งแรกในโลกที่เขาพระแทว ก่อนจะมีการพบเพิ่มเติมภายหลังที่ เขาหลวง(นครศรีธรรมราช) เขาสก(สุราษฎร์ธานี)

โดยประวัติการค้นพบปาล์มหลังขาวนั้น เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 ดร. A.F.G. KERR นายแพทย์นักพฤษศาสตร์ชาวไอร์แลนด์ ได้สำรวจพบปาล์มชนิดใหม่ แต่ยังไม่สามารถจำแนกชื่อและสกุลได้ เนื่องจากยังไม่ปรากฏดอกให้เห็น จึงนำตัวอย่างของปาล์มแห้งไปเก็บรักษาไว้ที่หอพรรณไม้ สวนพฤษศาสตร์ KEW กรุงลอนดอน เพื่อรอการตรวจสอบ

จากนั้นในปี พ.ศ. 2520 ศ.ดร. เต็ม สมิตินันทน์ ผู้เชี่ยวชาญพฤษศาสตร์ป่าไม้ และนายจรัญ บุญแนบ หัวหน้าสวนพฤษศาสตร์เขาช่อง ตรัง ได้ชักชวนให้ ดร.John Dransfield นักพฤษศาสตร์ผู้เชียวชาญพันธ์ไม้วงปาล์ม มาสำรวจตรวจสอบหาชื่อที่แท้จริงของปาล์มชนิดนี้ ผลปรากฏว่านี่คือปาล์มสกุลใหม่ของโลก จึงตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารพฤษศาสตร์ PRINCIPES เล่ม 27 ปี พ.ศ. 2526 และตั้งชื่อสกุล Kerriodoxa เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร. A.F.G. KERR
ปูน้ำตกหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าปูมดแดง
สำหรับปาล์มหลังขาว,ทังหลังขาว หรือ ปาล์มเจ้าเมืองถลาง (Kerriodoxa elegans Dransfield วงศ์ PALMAE) เป็นพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติในป่าดิบชื้น ชอบขึ้นบริเวณริมลำธาร และบริเวณที่มีลำแสงแดดไม่มากนัก ใบเป็นรูปพัดคล้ายใบตาล ขอบใบเป็นแฉก ที่สำคัญคือหลังใบเป็นสีขาวขุ่นซึ่งแตกต่างจากปาล์มชนิดอื่น จึงเป็นที่มาของชื่อไม้ชนิดนี้นั่นเอง

ปาล์มหลังขาวเป็นพืชโตช้า เห็นต้นสูงแค่ 2-3 เมตร นี่ใช้เวลาเติบโตร่วมร้อยปี แต่ก็เป็นที่น่ายินดีว่า ทางสถานีฯเขาพระแทวสามารถวิจัยขยายพันธุ์พืชชนิดนี้ได้แล้ว และก็เป็นที่น่ายินดีอีกว่า ด้วยความโดดเด่นของปาล์มหลังขาว ทำให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คัดเลือกดงปาล์มหลังขาวเขาพระแทวเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์

และนั่นก็คือเสน่ห์ของป่าเขาพระแทว ที่หากใครไปภูเก็ตแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศคืบก็ทะเลศอกก็ทะเล ด้วยการสอดแทรกกิจกรรมท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างป่ากับทะเลด้วยการไปเดินป่าดูปาล์มหลังขาวอันซีนไทยแลนด์ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย

เพราะการที่ภูเก็ตยังมีป่าผืนใหญ่ให้เดินยังไงๆย่อมดีกว่าการที่ภูเก็ตหมดสิ้นป่าให้เดินเป็นไหนๆ เนื่องจากยุคนี้ พ.ศ.นี้ เป็นที่รู้กันดีว่า ภูเก็ตถูกบรรดานายทุนต่างบุกรุกป่า บุกรุกที่ดินริมทะเล บุกรุกไล่ชุมชนชาวประมงริมทะเล เพื่อเอาที่ไปสร้าง โรงแรม รีสอร์ท และอีกสารพัดโครงการอสังหาฯ จนป่าเขาเหี้ยนเตียนหดหาย ชายทะเลมีเข้าของ เป็นที่น่าหวั่นใจยิ่งนักว่า ในอนาคตภูเก็ตจะมีพื้นที่ป่าเขาและชายทะเลสาธารณะหลงเหลือให้เราๆท่านๆได้ไปสัมผัสกันอีกสักกี่มากน้อย
*****************************************

สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 20 กิโลเมตร สำหรับเส้นทางเดินป่า น้ำตกโตนไทร-น้ำตกบางแป (หรือน้ำตกบางแป –น้ำตกโตนไทร) เหมาะสำหรับผู้รักการเดินป่าที่มีร่างกายแข็งแรง และจำเป็นที่จะต้องมียานพาหนะไปรอรับจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง รวมถึงต้องมีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่านำทางไปด้วย ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาพระแทว โทร.0-7631-1998 หรือที่ ททท. สำนักงานภูเก็ต โทร.0-7621- 1036 , 0-7621-2213

กำลังโหลดความคิดเห็น