xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับม็อบเถื่อน “ภูมิซรอล” - “มทภ.2” ยัน ปชช.ทวง “เขาวิหาร” ไม่กระทบสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวีระ สมความคิด นำทัพปชช.อ่านแถลงการณ์ทวงคืนแผ่นดินไทยลั่นเขาพระวิหาร ประกาศก้องโลก 4.6 ตร.กม.รอบปราสาทพระวิหารเป็นของราชอาณาจักรไทย วันนี้ (20 ก.ย.)
ศรีสะเกษ - “วีระ” นำ ปชช.ทวงคืนเขาวิหารบาดเจ็บแจ้งจับม็อบจัดตั้งป่าเถื่อน “ภูมิซรอล” หลังกลับจากนำทัพอ่านแถลงการณ์ ปชช.ทวงคืนแผ่นดินไทยลั่นผามออีแดง ประกาศก้องโลก 4.6 ตร.กม. เป็นของราชอาณาจักรไทย พร้อมประณามรบ.เขมรเหิมนำ ปชช.-ทหารรุกล้ำเขตแดน สร้างชุมชน ถนน วัด และจวกมรดกโลกลำเอียงไร้จริยธรรมยางอาย ด้าน “มทภ.2” ระบุ คนไทยทวงคืนแผ่นดินเขาวิหารไม่กระทบสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ขณะ “ผบ.ทบ.” ส่งตัวแทนเยี่ยม ปชช.บาดเจ็บจากการปะทะกัน ด้าน กำนันตัวแสบหัวโจกม็อบเถื่อนไร้สำนึก แจ้งความกลับ ปชช.ผู้รักชาติ ล่าสุดยกทัพกลับภูมิลำเนาแล้ว

วันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.15 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าหมู่บ้านศีรษะอโศก ต.กระแชงใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหาร ได้นำตัวแทนประชาชนจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 33 คน เดินทางโดยรถบัสของทหารพร้อมกำลังทหารคุ้มกันอย่างเข้มงวด ขึ้นไปยังบริเวณ ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

โดยมี พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร เสนาธิการกองกำลังสุรนารี และ พ.ท.วิชิต มัคการุณ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารี นำกำลังทหารมาประสานงานและร่วมเดินทางกับคณะของนายวีระ ซึ่งกลุ่มประชาชนที่เป็นตัวแทนเดินทางไปร่วมกับ นายวีระ ส่วนมากจะเป็นกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปะทะกับผู้ชุมนุมต่อต้านกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ (19 ก.ย.) ที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 09.50 น.นายวีระ และคณะ ได้เดินทางมาถึงบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย ซึ่งปรากฏว่ามีด่านของ ตำรวจตระเวนชายาแดน (ตชด.) และ ทหารตั้งด่านสกัดกั้นอยู่ถึง 3 ด่าน ซึ่ง พล.ต.ชวลิต ชุณประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ได้นำนายวีระและคณะ เดินผ่าด่านทหารเข้าไปเพื่อไปขึ้นรถบัสจำนวน 2 คันที่จอดรออยู่หน้าด่านอุทยานแห่งชาติ

จากนั้น คณะ นายวีระ พร้อมด้วยสื่อมวลชนทุกแขนงได้เดินทางขึ้นไปที่บริเวณหน้าผามออีแดง ซึ่ง นายวีระ ได้ชี้ให้สื่อมวลชนได้เห็นถึงพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารที่กลุ่มชาวกัมพูชาเข้ามาบุกรุกยึดครองเขตแดนไทยในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.โดยชาวกัมพูชาได้ทำการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งบ้านเรือน วัด ถนน ซึ่งพื้นที่ที่ถูกฝ่ายกัมพูชายึดครองสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า

ปชช.ทวงคืนแผ่นดินไทยลั่นเขาพระวิหาร

ต่อมาเวลา 10.15 น.นายวีระ ได้ทำการอ่านแถลงการณ์ภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหาร ฉบับที่ 1/2552 เรื่อง “ประกาศเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนไทย”

โดยข้อความในแถลงการณ์ ระบุว่า อาศัยบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 70 และมาตรา 71 ที่ชนชาวไทยมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ และมีหน้าที่ป้องกันประเทศ ตลอดจนรักษาผลประโยชน์ของชาติ เพื่อบรรลุภารกิจของคนไทยทั้งประเทศ จึงจะดำเนินการในทุกวิถีทางตามกรอบของกฎหมายเพื่อทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทพระวิหารกลับคืนมา ให้กลับมาเป็นของราชอาณาจักรไทยดังเดิมทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย และดำเนินการเอาผู้กระทำความผิดในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือสมรู้ร่วมคิดในการทำให้ดินแดนไทยต้องถูกรุกล้ำหรือเสียดินแดนมาลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด

ประกาศก้องโลก แผ่นดิน 4.6 ตร.กม. ของไทย

จากนั้น นายวีระ ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2552 เรื่อง “ดินแดนรอบปราสาทพระวิหารเป็นของราชอาณาจักรไทย” ระบุว่า เราในฐานะประชาชนชาวไทยขอประกาศให้ประชาชนทั่วโลกได้ทราบว่า ปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตอำนาจอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย ตามแนวสันปันน้ำ ซึ่งเป็นการปักปันเขตแดนเอาไว้ระหว่างคณะทำงานร่วมของประเทศฝรั่งเศสและสยามประเทศ เมื่อ พ.ศ.2447 หรือ ค.ศ.1904 อันเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

ดังนั้น เราในฐานะประชาชนชาวไทย จึงยังคงยึดถือแนวเขตปักปันสันน้ำดังกล่าวว่า เป็นการกำหนดพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาตลอดมา โดยถือว่า ปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบทั้งหมด เป็นของราชอาณาจักรไทยแต่เพียงฝ่ายเดียว ไม่มีพื้นที่ทับซ้อนไม่มีพื้นที่กันชนใด ๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าจะมีคำพิพากษาของศาลโลกอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ว่า ตัวปราสาทพระวิหารเป็นของประเทศกัมพูชาเมื่อปี 2505 ก็ตาม

แต่สำหรับรัฐบาลและประชาชนชาวไทยไม่ได้เห็นชอบด้วยกับคำตัดสินดังกล่าวตั้งแต่นั้นมา โดยรัฐบาลไทยได้ประกาศคัดค้านพร้อมสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารเอาไว้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. 2505 จวบจนถึงปัจจุบัน

ประณามเขมรเหิมนำ ปชช.-ทหารรุกล้ำเขตแดนไทย

นายวีระ อ่านแถลงการณ์ต่อไปว่า เราขอประท้วงและประณามรัฐบาลกัมพูชาที่ได้บังอาจนำประชาชนและทหารรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย แล้วยังเหิมเกริมเข้ามาก่อสร้างสิ่งปลุกสร้าง ถนน วัด ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ ไม่ว่าจะเป็นวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ภูมะเขือ ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดอธิปไตยของราชอาณาจักรอย่างร้ายแรง

จวกมรดกโลกลำเอียงไร้จริยธรรม-ยางอาย

อีกทั้งเราในฐานะประชาชนชาวไทยขอประกาศอย่างหนักแน่นว่า เราคัดค้านไม่ยอมรับและต่อต้านมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่เห็นชอบให้ประเทศกัมพูชาได้สิทธิ์ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบปราสาทเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว

และขอประณามคณะกรรมการมรดกโลกที่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย ยอมรับการบิดเบือนข้อมูลของประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ตลอดจนพยายามละเมิดระเบียบของคณะกรรมการมรดกโลกเสียเองที่จะพยายามขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลก โดยไม่มีบรรทัดฐานที่ถูกต้องชอบธรรมถือว่าเป็นความลำเอียงอย่างไร้จริยธรรมและไร้ยางอายเป็นอย่างยิ่ง

เราจึงขอประกาศต่อต้านการแทรกแซงทุกรูปแบบของประเทศใดก็ตามที่จะเข้ามาลิดรอนและละเมิดอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย เพื่อดำเนินการให้ปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบซึ่งเป็นดินแดนของราชอาณาจักรไทยให้ตกเป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว

ลงนามโดย ภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหาร

แจ้งจับม็อบป่าเถื่อน “ภูมิซรอล”

ต่อมาเวลา 11.30 น.วันเดียวกันนี้ นายวีระ และคณะ ได้เดินทางไปที่ สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์และได้นำกลุ่มประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยฯ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับม็อบต่อต้านกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอล รวมทั้งนำรถทัวร์และรถยนต์ส่วนตัวที่ได้รับความเสียหายไปแจ้งความกับ พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหา “ทำร้ายร่างกายและทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย” กับกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลที่กระทำผิดกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ได้รับแจ้งความไว้แล้ว และ จะได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ต่อไป

“มทภ.2” ระบุไม่กระทบสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ต่อเวลา 12.30 น.วันเดียวกันนี้ ( 20 ก.ย.) ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ได้เดินทางมาตรวจติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวบริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากช่วงเช้าของวันนี้ นายวีระ สมความคิด และคณะ กลุ่มประชาชนทวงคืนแผ่นดินไทยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ได้ขึ้นไปอ่านแถลงการณ์ที่บริเวณผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาแต่อย่างใด เนื่องจากทาง กองทัพภาคที่ 2 ได้มีการพูดคุยกับผู้นำทางทหารของกัมพูชา และมีความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งตนขอร้องไม่ให้ประชาชนขึ้นไปบริเวณพื้นที่พิพาท เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นการยั่วยุให้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย และตนขอขอบคุณทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่ได้ให้ความร่วมมือแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

กำนันตัวแสบแกนนำม็อบเถื่อน
ไร้สำนึกจับกลับ ปชช.ผู้รักชาติ

ต่อมาเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ทางด้านนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้านภูมิซรอล และชาวบ้านในพื้นที่ ต.เสาธงชัย ชุมนุมต่อต้านกลุ่มประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหารจนเกิดปะทะกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่ายหลายรายว่า การที่กลุ่มประชาชนทวงคืนดินแดนไทยฯ ได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ให้ดำเนินคดีกับตนและกลุ่มชาวบ้าน ก็เป็นสิทธิที่สามารถจะดำเนินการได้

นายวีระยุทธ กล่าวต่อว่า ในส่วนของชาวบ้านที่ต่อต้านและได้รับบาดเจ็บนั้น ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 4 ราย มีทั้งได้รับบาดเจ็บหัวแตก ปากแตก รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายหลายรายการ ซึ่งตนจะนำกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความที่ สภ.บึงมะลู ในวันนี้เช่นกัน เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มกลุ่มประชาชนทวงคืนดินแดนไทย ต่อไป

“พล.อ.อนุพงษ์” ส่ง ผบ.กกล.สุรนารี
เยี่ยม ปชช.บาดเจ็บจากการปะทะกัน

ต่อมาเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ชวลิต ชุณประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสรุนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ได้เป็นผู้แทนของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) นำเอากระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันระหว่างกลุ่มประชาชนทวงคืนดินแดนไทยฯ กับชาวบ้านภูมิซรอล โดยได้ไปที่ตึกศัลยกรรม-อุบัติเหตุ เข้าไปเยี่ยม นายประเสริฐ ผิวขาว อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้รับบาดเจ็บโดนทำร้ายขณะชุลมุน ฟันบนหัก 3 ซี่ และได้ไปเยี่ยม นายชำนาญ ชาแพง อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 322 หมู่ 10 ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้รับบาดเจ็บถูกตีด้วยไม้ สลบประมาณ 10 นาที มีอาการปวดท้ายทอย และปวดที่ข้อศอกขวา

จากนั้นได้ไปเยี่ยม น.ส.สุวนันท์ คำวันดี อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 2 บ้านหนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งได้ปวดท้องน้อยด้านขวา เป็นไส้ติ่ง ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว สรุปผู้บาดเจ็บมีจำนวนทั้งสิ้น 6 ราย โดยนายสุทธิศักดิ์ แก้วแกมจันทร์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 / 62 หมู่ 15 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งถูกยิงด้วยปืนที่ขาข้างซ้าย 5 รู อาการสาหัส ขณะนี้แพทย์ได้ส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อทำการรักษาพยาบาลต่อไปแล้ว

พล.ต.ชวลิต ชุณประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสรุนารี กล่าวว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงได้มอบหมายให้ตนนำเอากระเช้าผลไม้มาเยี่ยมให้กำลังใจ

ส่วนการตั้งด่านทหารสกัดบริเวณหน้าด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารนั้น เนื่องจากเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้วจะสั่งการให้ลดกำลังทหารลงบางส่วน และให้ทหารที่ปรับลดกำลังลงไปปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจเดิมต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะนี้กลุ่มภาคีเครือข่ายประชาชนทวงคืนดินแดนไทยรอบปราสาทพระวิหาร ที่พักอยู่ที่หมู่บ้านศีรษะอโศก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 1,000 คน ได้เริ่มทยอยเดินทางออกจากหมู่บ้านศีรษะอโศกโดยรถทัวร์ รถตู้และรถปิกอัพเพื่อเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาแล้ว โดย พ.ต.อ.ชัชวาลย์ แก้วจันดี ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างเต็มที่
















กำลังโหลดความคิดเห็น