พันธมิตรฯภูมิภาคบุกกรุง ให้กำลังใจ”สนธิ”-ทวงคืนปตท.

ศูนย์ข่าวภูมิภาค –พันธมิตรฯทั่วประเทศ บุกกรุง ให้กำลังใจ”สนธิ” ต่อสู้กับ”รัฐตำรวจทรราช “และรัฐบาลหุ่นเชิด ให้ถึงที่สุด พร้อมปักหลักทวงคืนปตท. กลับมาเป็นสมบัติของชาติด้วย ขณะที่หลายจังหวัดยังเปิดเวทีคู่ขนานกับเวทีใหญ่ที่สะพานมัฆวานฯ แต่ก็ไม่วายโดนกลุ่มม็อบถ่อยป่วน พังเวที ทำร้ายร่างกาย

คนตะวันออกครึ่งหมื่นให้กำลังใจสนธิ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วานนี้( 24 ก.ค.) กลุ่มพลังมวลชน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศจำนวนมาก ได้พร้อมใจกันเดินทางเข้ากรุง เพื่อให้กำลังใจ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ทั้งนี้ พันธมิตรฯทั่วภาคตะวันออก ได้เดินทางมาร่วมให้กำลังใจมากถึง 5,000 คน โดยแกนนำหลักของพันธมิตรฯ ชลบุรีซึ่งทั้งหมดมีประมาณ 15 กลุ่ม เห็นตรงกันว่า พร้อมยืนเคียงข้างนายสนธิ และแกนนำพันธมิตรฯ ต่อสู้กับรัฐตำรวจทรราช และพร้อมยืนหยัดในอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด ของคนหน้าเหลี่ยมอย่างไม่ย่อท้อ

ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ จังหวัดจันทบุรี ตราด ,สระแก้ว, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา ก็เดินทางเข้าสมทบจำนวนมากเช่นกัน

ทัพพันธมิตรฯสงขลา ควบม้าเหล็กทวงคืน ปตท.

ด้านพันธมิตรฯจากภาคใต้ วานนี้ (24 ก.ค.) เวลา 14.20 น.กองทัพพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย กว่า 200 คน ยึดรถไฟขบวน 170 ยะลา-กรุงเทพฯ สมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ ที่สะพานมัฆวานฯ และจะไปร่วมชุมนุมเพื่อทวงคืน ปตท.กลับมาเป็นสมบัติของชาติด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรณีศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น พี่น้องประชาชน อ.หาดใหญ่ และอำเภอใกล้เคียงเมื่อทราบข่าวก็ได้มาแจ้งความจำนง เพื่อจะเดินทางไปกรุงเทพมหานคร เพื่อไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่นายสนธิ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

แต่หลังจากพี่น้องประชาชนที่มาร่วมลงชื่อทราบว่า นายสนธิ ได้รับการประกันตัวแล้ว พี่น้องประชาชนก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพราะยังมีอีกหนึ่งภารกิจ นั่นคือ เพื่อไปร่วมทวงคืน ปตท.ให้กลับมาเป็นสมบัติชาติให้ได้ ได้แสดงอารยะขัดขืนต่อต้านด้วยการยึดขบวนรถไฟดังกล่าว เพราะรถไฟเป็นของประชาชน

พธม.กระบี่เหมารถบัสเข้า กทม.

ด้านพันธมิตรฯกระบี่ มีรายงานว่า ค่ำวันที่ 23 กรกฎาคม กลุ่มพันธมิตรฯกระบี่ ได้เช่าเหมารถบัส 1 คัน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้กำลังใจ นายสนธิ ต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม เพื่อสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯที่เดินทางเข้ากรุงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนอกจากร่วมให้กำลังใจนายสนธิแล้ว ยังจะไปร่วมทวงคืน ปตท.กับพันธมิตรฯส่วนกลางและทั่วประเทศด้วย

นายจเร แก้วสม ผู้ประสานงานพันธมิตรฯกระบี่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ นายสนธิ ถูกจับ ไม่ได้ทำให้พันธมิตรฯกระบี่ ท้อถอยแต่อย่างใด แต่เป็นการเพิ่มพลังให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯได้มีการรวมตัวกันมากขึ้น เปรียบเสมือนกับการราดน้ำมันปลุกกระแสให้กลุ่มพันธมิตรฯลุกขึ้นมาต่อสู้กันมากขึ้น และจะร่วมต่อสู้กันต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะ และจะไม่ย่อท้ออย่างเด็ดขาด

พธม.เหนือล่างประกาศพร้อมรบ

ด้านกลุ่มพันธมิตรฯภาคเหนือ นายอดิศักดิ์ จันทวิชานุวงษ์ แกนนำพันธมิตรฯนครสรรค์ เปิดเผยว่า กรณีคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ล่าสุดตำรวจได้อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนแล้ว จริงๆแล้วนายสนธิ ต้องการพูดปกป้องสถาบัน และรู้ดีอยู่ว่าหากพูดไปก็เท่ากับเป็นการเผยแพร่ซ้ำ แต่ตำรวจไทยจงใจจับผิด เพื่อหาช่องทางเล่นงาน เป็นเกมการเมืองรัฐบาลสมัครและลิ่วล้อ ที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมือง เพราะรู้ดีว่าหากจับนายสนธิแล้วจะเกิดผลอย่างไรตามมา แน่นอนว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะชุมนุมใหญ่ ซึ่งขอเตือนรัฐบาลว่าอย่าฉวยจังหวะบ้านเมืองวุ่นวายเพื่อส่งคนเข้ามาป่วนและคุมเกมปฏิวัติเพื่อล้มล้าง ป.ป.ช.-คตส.เพื่อล้มคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปิดเกมเริ่มต้นใหม่

นายประเสริฐศักดิ์ สิงหชงค์ แกนนำพันธมิตรฯสุโขทัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คดีหมิ่นพระบรมฯ ที่รัฐตำรวจจับกุม นายสนธิ ลิ้มทองกุล นั้นก็เป็นเพราะว่ามีผู้ร้อง ทั้งที่จริงนั้นเป็นคดีเดียวกับ “นังดา” ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และนายสนธิ ควรเป็นจำเลยที่ 2 ในฐานะผู้เผยแพร่ แต่ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะตำรวจเป็นทาสรับใช้นักการเมืองเป็นไปตามใบสั่ง ไม่ได้ดูเจตนาอันบริสุทธิ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ก็เชื่อว่าทนายมีแนวทางต่อสู้ เพราะคนทำหนังสือพิมพ์เจอคดีแบบนี้นับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเจอตำรวจแบบนี้ ซึ่งคืนที่ผ่านมาก็แห่เข้ากรุงเพื่อให้กำลังใจนายสนธิ

ตร. 200 นายรับมือม็อบถ่อย
ป่วนเวทีใหญ่พันธมิตรฯสุรินทร์

สำหรับการจัดเวทีคู่ขนานของพันธมิตรฯในจังหวัดต่างๆ วานนี้ ( 24 ก.ค.) ได้มีการจัดหลายแห่ง เช่น ที่ จ.อุดรธานี สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยที่ จ.สุรินทร์ กลุ่มสมัชชาประชาชนจังหวัดสุรินทร์ และ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสุรินทร์ นำโดย นายสามารถ อาญาเมือง นายดำเกิง โถทอง และประชาชนชาวสุรินทร์ ได้กำหนด จัดเวทีปราศรัยใหญ่ “เวทีประชาชนคนสุรินทร์ โค่นรัฐบาลขายชาติ ทรราชของแผ่นดิน” ที่ หลังสถานีรถไฟสุรินทร์

โดยมีแกนนำระดับประเทศขึ้นเวทีปราศรัยหลายคน นำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ซึ่งมีประชาชนชาวสุรินทร์เข้าร่วมฟังการปราศรัยพร้อมชมการถ่ายทอดสดการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ) จากสะพานมัฆวานฯ ผ่านสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี จำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 200 นาย และสกัดกั้นกลุ่มม็อบ นปก. เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ม็อบนปก.เคยมาป่วนเวทีปราศรัย จนหวิดเกิดการปะทะกันมาแล้ว

ล่าสุด มีรายงานว่า มีการว่จ้างเกณฑ์กำลังชาวบ้านกลุ่มวัยทำงานในเขต อ.สังขะ, อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ให้เดินทางมาสมทบกับกลุ่ม นปก. ที่เดินสายมาจากจังหวัดภาคกลางและภาคอีสานหลายจังหวัด ในการเข้าก่อกวนการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรฯสุรินทร์ด้วย

นปก.ถ่อยป่วนเวทีพันธมิตรฯอุดร

ส่วนที่จ.อุดรธานี กลุ่มพันธมิตรฯ อุดรธานี เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม โดยปรากฏว่า ก็มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายต่อต้านจากชมรมคนรักษ์อุดรที่สนับสนุนรัฐบาล นำโดย นายขวัญชัย ไพรพนา ดีเจชื่อดัง ที่ต่อต้านพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงครั้งนี้เช่นกัน โดยชมรมคนรักษ์อุดร ได้จัดชุมนุมที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อต่อต้านการจัดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯอุดรธานี

สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยในการจัดเวที นายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งตำรวจภูธร, ตชด., อส. และ อปพร.กว่า 600 นาย กระจายกำลังเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย

บุรีรัมย์สนธิกำลัง 800 นายคุมเข้มเวทีพันธมิตรฯ

ขณะที่จ.บุรีรัมย์ มีเวทีปราศรัยของกลุ่มพิทักษ์เมืองบุรีรัมย์ และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดบุรีรัมย์ ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ โดยมี นายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส. บุรีรัมย์และ อดีต รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นแกนนำ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย ตำรวจจาก สภ.เมืองบุรีรัมย์อีกกว่า 170 นาย และตชด. จำนวนหนึ่ง รวมทั้งได้ประสานสนธิกำลังกับจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และฝ่ายปกครองรวมกว่า 800 นาย เพื่อคุมเข้มรักษาความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ กลุ่มพิทักษ์เมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับองค์กรเครือข่ายพันธมิตรฯ บุรีรัมย์ ได้เคยจัดเวทีปราศรัยดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม แต่ต้องยกเลิกกลางคัน เพราะนักการเมืองแก๊ง “ยี้ห้อย” ได้ระดมจ้างชาวบ้านจากหลายอำเภอเข้ามาก่อกวนสร้างความวุ่นวายข่มขู่ให้รื้อเวทียกเลิกการปราศรัย จนทั้ง 2 ฝ่ายเกิดปะทะกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่เหตุการณ์จะยุติลง

พันธมิตรฯ มหาสารคามฟ้องแพ่ง/อาญา ส.ส.พปช.

ด้านความคืบหน้า กรณีพันธมิตรฯมหาสารคาม จัดเวทีปราศรัยใหญ่เชิญแกนนำพันธมิตรฯจากส่วนกลางมาให้ความรู้เรื่องเขาพระวิหารและปมเหตุที่รัฐบาลมุ่งแก้รัฐธรรมนูญเร่งด่วน ที่บริเวณตลาดไนท์บาร์ซ่า อ.เมืองมหาสารคาม เมื่อคืนวันที่ 24 กรกฎาคม และถูกก่อกวนจากกลุ่มต่อต้านอย่างหนัก

จนแกนนำพันธมิตร ฯรวมถึงประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บนับสิบราย โดยเฉพาะนายการุณ ใสงาม อดีตส.ว.บุรีรัมย์ ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กเข้าที่ศีรษะขณะกำลังปราศรัย จนศีรษะแตกต้องเย็บถึง 4 เข็ม และนางวชิราภรณ์ โคตรสาร แกนนำพันธมิตรฯ ถูกกลุ่มต่อต้านขว้างอิฐตัวหนอนถูกบริเวณใบหน้าอย่างจัง จนล้มทั้งยืน ได้รับบาดเจ็บสาหัสกะโหลกศีรษะแตก บริเวณหน้าผากแตกต้องเย็บถึง 5 เข็ม ทั้งกระดูกไหปลาร้าด้านขวาหัก เนื่องจากล้มลงฟาดกับพื้นถนน

ล่าสุดวานนี้( 24 ก.ค.)พันธมิตรฯมหาสารคามได้ส่งตัวแทนนำกระเช้าผลไม้ เยี่ยมให้กำลังใจนางวชิราภรณ์ ที่ชั้น 3 ตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น พร้อมกับมอบเงินจำนวน 5,000 บาท โดยนางวชิราภรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่รักษาตัวจนหายแล้ว ตนและแกนนำพันธมิตรฯมหาสารคาม ยืนยันว่าจะมีการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญา ต่อกลุ่มก่อกวนพันธมิตรฯ โดยเฉพาะบรรดาส.ส.พรรคพลังประชาชนทั้ง 4 คน ที่อยู่เบื้องหลังการจ้างม็อบเข้ามารุมทำร้ายพันธมิตรฯให้ถึงที่สุด เชื่อมั่นว่าหลักฐานต่างๆที่รวบรวมได้จะสามารถโยงเอาผิดส.ส.เหล่านี้ได้