ทสจ.พะเยาระดม จนท.-ผู้นำชุมชน-อปท.ถกทางแก้ปัญหาทำลายป่า

พะเยา - สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิงแวดล้อม ระดมเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมแก้ไขปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าสงวนแห่งชาติ

นายประธาน ดวงพัตรา ปลัดจังหวัดพะเยา ได้เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าสงวนแห่ชาติป่าแม่ยม เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง แก่เจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง, เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พะเยา, ตชด. 326, ตร.สภ.ปง, เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จำนวนกว่า 200 คนที่หอประชุมโรงเรียนขุนควรวิทยาคม อ.ปง จ.พะเยา เมื่อ 19 ก.ย.52

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พะเยา จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตการณ์ต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม ภัยแล้ง ปัญหาการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด

นายอนุสิทธิ์ เมธาวรารักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.พะเยา (ทสจ.พะเยา) กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์การตัดไม้ทำลายป่าในพะเยา โดยเฉพาะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง ยังคงมีความรุนแรงอยู่ สังเกตได้จากการที่มีประชาชนร้องเรียนการลอบตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ เข้ามาอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่การแก้ไขปัญหายังไม่ประสบความสำเร็วเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้การลักลอบตัดไม่จึงยังคงมีอยู่ และพบว่ามีการสนับสนุนบุคคลภายนอกพื้นที่เข้ามาสั่งไม้ท่อน และไม้แปรรูป ออกไปจำหน่ายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมการมีการส่งข่าวทำให้ผู้กระทำผิดไหวตัวหลบหนีทัน จึงได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาโดยใช้ข้อมูลที่เป็นจริง และความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ โดยการรับฟังปัญหาข้อเท็จจริง ข้อเสนอแนะต่างๆ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนต่อไป

ด้านปลัดจังหวัดพะเยากล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว คณะกรรมการด้านความมั่นคงจังหวัด ซึ่งตนในฐานะหัวหน้านายอำเภอ ได้กำชับนายอำเภอทุกแห่งให้เข้มงวดดำเนินการกับผู้กระทำผิด เพื่อลดการตัดไม้ทำลายป่า

ขณะนี้ทราบว่าพื้นที่ป่า จ.พะเยา เหลืออยู่ประมาณร้อยละ 50 ของพื้นที่ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการที่รัดกุมต่อเนื่อง และจริงจัง โดยการทำงานแบบบูรณาการ จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ สำหรับการที่มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น เรื่องนี้จะต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน หากพบก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด