ยะลา - เจ้าหน้าที่ ตชด.44 ค่ายพญาลิไทยยะลาสนธิกำลังในพื้นที่ จับกุมไม้เถื่อนที่ป่าฮาลา-บาลา ได้ของกลางเป็นจำนวนมาก พร้อมพบเป็นแหล่งเพาะปลูกกัญชา มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
วันนี้ (12 ก.ย.) ด.ต.อรุณ กุลกัลยา ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 ปฎิบัติหน้าที่ รอง หน.ชปข.ฉก.ตชด.44 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว รายงานมาว่าในพื้นที่ ต. ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส และเขตรอยต่อจังหวัดยะลา ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา พื้นที่ในโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ ได้มีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ลักลอบแปรรูปไม้ เป็นบริเวณกว้าง
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทานธรรม ผกก.ตชด.ที่ 44 ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. กก.ตชด. 44 ฉก.ตชด 44 ร้อย ตชด.446 ร้อย ร.1743 และทหาร ฉก.นราธิวาส 37 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา ได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับจัดกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา เกรงว่าจะมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบดักซุ่มยิงระหว่างการเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่บริเวณเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา จนท.ได้แยกย้ายกันตรวจสอบ ที่บริเวณบนเขากูนุงจอนอง บ้านสกูปา หมู่ที่ 8 ต.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่พบพื้นที่ป่าถูกทำลาย 5 จุด ป่าถูกโค่นเป็นบริเวณกว้าง ได้รับความเสียหายประมาณ 52 ไร่ ป่าถูกเผาทำลายเสียหายทั้งหมด ต้นไม้ถูกตัดโค่นล้ม พร้อมทั้งได้มีการลักลอบปลูกต้นกัญชาจำนวนมาก และพบร่องรอยการเก็บ
นอกจากนี้ยังพบการลักลอบแปรรูปไม้ขนาดใหญ่ ที่ตัดแล้วบางส่วน เพื่อเตรียมที่จะขนย้าย เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยไม้สยา ไม้หลุมพอ ซึ่งเป็นไม้สำคัญทางเศรษฐกิจ ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา และที่บริเวณใกล้ที่ลักลอบแปรรูปไม้ เจ้าหน้าที่ยังได้พบเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการลักลอบตัดไม้จำนวนหนึ่ง สำหรับผู้กระทำความผิดในการลักลอบตัดไม้ ได้ไหวตัวทัน หลบหนี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ กำลังสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน พร้อมกับตรวจสอบว่ากลุ่มผู้ตัดไม้ทำลายป่าในบริเวณดังกล่าว มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหรือไม่ ส่วนของกลางที่ตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้ จนท.ได้นำเป็นหลักฐานเพื่อปรปะกอบคดี และได้ตั้งข้อหาผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ 2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีความเสียหาย กว่าสิบล้านบาท
วันนี้ (12 ก.ย.) ด.ต.อรุณ กุลกัลยา ผบ.หมู่ กก.ตชด.41 ปฎิบัติหน้าที่ รอง หน.ชปข.ฉก.ตชด.44 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว รายงานมาว่าในพื้นที่ ต. ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส และเขตรอยต่อจังหวัดยะลา ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา พื้นที่ในโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ ได้มีกลุ่มบุคคลเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ลักลอบแปรรูปไม้ เป็นบริเวณกว้าง
หลังได้รับแจ้ง พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทานธรรม ผกก.ตชด.ที่ 44 ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. กก.ตชด. 44 ฉก.ตชด 44 ร้อย ตชด.446 ร้อย ร.1743 และทหาร ฉก.นราธิวาส 37 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา ได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับจัดกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา เกรงว่าจะมีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบดักซุ่มยิงระหว่างการเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่บริเวณเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา จนท.ได้แยกย้ายกันตรวจสอบ ที่บริเวณบนเขากูนุงจอนอง บ้านสกูปา หมู่ที่ 8 ต.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่พบพื้นที่ป่าถูกทำลาย 5 จุด ป่าถูกโค่นเป็นบริเวณกว้าง ได้รับความเสียหายประมาณ 52 ไร่ ป่าถูกเผาทำลายเสียหายทั้งหมด ต้นไม้ถูกตัดโค่นล้ม พร้อมทั้งได้มีการลักลอบปลูกต้นกัญชาจำนวนมาก และพบร่องรอยการเก็บ
นอกจากนี้ยังพบการลักลอบแปรรูปไม้ขนาดใหญ่ ที่ตัดแล้วบางส่วน เพื่อเตรียมที่จะขนย้าย เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วยไม้สยา ไม้หลุมพอ ซึ่งเป็นไม้สำคัญทางเศรษฐกิจ ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา และที่บริเวณใกล้ที่ลักลอบแปรรูปไม้ เจ้าหน้าที่ยังได้พบเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการลักลอบตัดไม้จำนวนหนึ่ง สำหรับผู้กระทำความผิดในการลักลอบตัดไม้ ได้ไหวตัวทัน หลบหนี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ กำลังสืบสวนหาผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน พร้อมกับตรวจสอบว่ากลุ่มผู้ตัดไม้ทำลายป่าในบริเวณดังกล่าว มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหรือไม่ ส่วนของกลางที่ตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้ จนท.ได้นำเป็นหลักฐานเพื่อปรปะกอบคดี และได้ตั้งข้อหาผู้ที่กระทำความผิดดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ 2484, พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้น มีความเสียหาย กว่าสิบล้านบาท