เชียงราย - โผล่อีก 7 โสมแดง ลอบเข้าไทยผ่านน้ำโขง หวังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหาทางไปเกาหลีใต้ แต่ถูกจับได้คาขนส่งเชียงรายก่อน ตำรวจเชื่อมีนายหน้าคนไทย ทำหน้าที่ประสานงาน แจ้งจุดนัดหมายถูกที่
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (15 ก.ย.) พ.ต.ท.อนันตเดชา ยาวิชัย รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งว่ามีคนพบชาวต่างประเทศจำนวนมากกำลังเดินทางอยู่ระหว่างสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 2 ต.สันทราย อ.เมือง จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.เด็ดดวง พรมตัน สวป.นำกำลังสายตรวจไปตรวจสอบบริเวณชานชาลาของสถานีก็พบชาวเกาหลีจำนวน 7 คน กำลังนั่งรอรถเพื่อจะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ อยู่บนที่นั่งในสถานีจึงเข้าไปขอดูเอกสารหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต แต่ปรากฏว่าทั้ง 7 คนไม่มีให้เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเอาไว้และนำตัวไปยัง สภ.เมืองเชียงราย
จากการตรวจสอบทราบว่า ทั้งหมดเป็นชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีเข้าเมืองมา โดยมีชื่อว่านายเชา ซันฮู อายุ 52 ปี, น.ส.คิม เฮรัน อายุ 42 ปี, นางโจ โมสัน อายุ 40 ปี ,นายกอง ดีโอค อายุ 32 ปี, นายเดอ อาโอค อายุ 26 ปี, นายคำ ชะเลียง อายุ 18 ปี และนางจอ มันยอค อายุ 21 ปี ทั้งหมดมีสัญญาชาติเกาหลีเหนือ เมื่อสอบสวนก็ให้การรับสารภาพแต่โดยดีว่าได้ลักลอบเดินทางออกจากประเทศเกาหลีเหนือด้านชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ผ่านประเทศจีนกระทั่งถึงเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน จีนตอนใต้ แล้วนั่งเรือในแม่น้ำโขงเข้ามายัง อ.เชียงแสน ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร
เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็ไม่พบเจ้าหน้าที่จึงลักลอบหนีเรื่อยมาเพื่อหวังจะไปยังกรุงเทพฯ และเดินทางต่อยังประเทศที่สามหรือประเทศเกาหลีใต้ที่มีความเป็นอยู่ที่ดีกว่า โดยเดินทางจากเชียงแสนลึกเข้ามาในเขตประเทศไทยกว่า 60 กิโลเมตร จนถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 2 จึงรอรถเพื่อเข้ากรุงเทพฯ แต่ก็ถูกตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
ทาง พ.ต.ต.เด็ดดวง จึงนำชาวเกาหลีเหนือทั้งหมดส่ง พ.ต.ท.สงกรานต์ สันวงศ์ สารวัตรเวร สภ.เมือง ดำเนินคดีตามกฎมาย รวมทั้งขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้องหรือคอยช่วยเหลือการลักลอบเข้าเมืองดังกล่าวด้วย เนื่องจากโดยปกติชาวเกาหลีเหนือซึ่งไม่เคยมาประเทศไทยย่อมไม่ทราบที่ตั้งของสถานที่ต่างๆ รวมทั้ง จ.เชียงราย เพื่อเปิดสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ แต่ชาวเกาหลีเหนือเหล่านี้กลับไปรอขึ้นรถยังสถานีแห่งใหม่ได้อย่างถูกต้องแสดงว่ามีคนคอยช่วยเหลืออยู่เป็นระยะๆ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในปัจจุบันชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากมักจะหลบหนีออกจากประเทศตัวเองทางชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ ด้าน จ.ฮัมยุงปุดโต จากนั้นหลบหนีเข้ามายังประเทศจีนวยรถยนต์เรื่อยมาจนถึงจีนตอนใต้ ก่อนที่บางคนจะนั่งเรือมาจนถึง อ.เชียงแสน และบางส่วนเดินทางด้วยรถยนต์ต่อผ่าน สปป.ลาว เพื่อไปนั่งเรือเร็วในแม่น้ำโขงและขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงแสน เหมือนกัน
ทั้งนี้ ชาวเกาหลีเหนือที่ถูกจับกุมได้หลายคนมักจะระบุตรงกันว่า ยังมีชาวเกาหลีเหนือจำนวนมากที่หลบหนีอยู่ในประเทศจีน และกำลังจะลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยตามมาด้วยเส้นทางเดียวกันด้วย
