“อลงกรณ์” บุกขึ้นเหนือแก้ปัญหาลำไย สั่งชะลอการทำลายทิ้ง

รมช.พาณิชย์ บุกขึ้นเหนือแก้ปัญหาลำไย พร้อมเตรียมแผนรับมือผลผลิต 5 แสนตัน ทะลักสู่ตลาดในช่วงนี้ เตรียมเชิญ ส.ส.ในพื้นที่ ร่วมหารือแก้ปัญหา ก่อนนายกฯ บินเจรจาขายลำไยให้จีน ล่าสุด สั่งชะลอการทำลายลำไย หวั่นถูกปลอมปนขายให้จีน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการวางแผนแก้ไขปัญหาลำไยที่กำลังจะมีผลผลิตระบายออกสู่ตลาดในช่วงนี้ โดยระบุว่า จากการเจรจาพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนลำไย เกษตรกรกาแฟและชาวนาเมื่อคืนวันที่ 10 มิถุนายน 2552 (วานนี้) ตนเองได้มีการหารือเรื่องปัญหาลำไยเป็นพิเศษ เนื่องจากจะมีผลผลิตประมาณ 5 แสนตัน ในปีนี้ และกำลังทยอยออกสู่ตลาดแล้ว

“ผลผลิตปีนี้ ออกมาสูงมาก เกษตรกรเขาสะท้อนว่า การช่วยเหลืออาจไม่เพียงพอ เช่น เงินกู้ทุนหมุนเวียน 1 พันล้านบาท โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย 5% เหลือ 1% นั้นเป็นหลักการที่ดี แต่วงเงินอาจไม่เพียงพอ จึงขอให้เพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ จะเดินทางไปพบปะกับ เกษตรกรที่ จ.ลำพูน”

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตนจะเชิญ ส.ส.ภาคเหนือ มาหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2552 นี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังประเทศจีน ซึ่งจะมีการเจรจาในการให้จีนนำเข้าลำไยจากไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ยืนยันว่า จะเพิ่มปริมาณการนำเข้าลำไยเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าส่งออกลำไยสดปีละ 5 หมื่นตัน และลำไยอบแห้ง 70-80% ของปริมาณลำไยทั้งหมด และจะมีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายที่มากขึ้นไม่ใช่เฉพาะที่กวางโจวอย่างเดียว จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังเทียนสิน สิบสองปันนา และ คุนหมิง เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งก็จะสามารถระบายลำไยได้ส่วนหนึ่ง

ส่วนความไม่มั่นใจในลำไยค้างเก่าจำนวนกว่า 4.6 หมื่นตัน ที่รับจำนำเมื่อปี 2546/2547 นั้น ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ทำลายทิ้งนั้น รมช.พาณิชย์ เตรียมที่จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้นำออกมาทำลายในช่วงนี้ เพราะอาจจะมีการปลอมปน และสร้างความไม่มั่นใจให้กับประเทศจีนได้

“สิ่งที่ต้องดูแลในตอนนี้ คือ ต้องป้องกันการรั่วไหล และกระทบกับความเชื่อมมั่น โดยเฉพาะเรื่องการปลอมปนสินค้า ดังนี้น อาจจะต้องมีการทำหลายหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวไปแล้ว เป็นการการมัดตราสังไม่ให้สินค้าเก่าที่ด้อยคุณภาพ หรือผีออกมาปลอมปนได้อีก ส่วนการทำลายลำไยอบแห้งดังกล่าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเป็นผู้ดำเนินการอาจจะเป็นการฝังกลบและเผา”