ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เครือข่ายกลุ่มทุนจีนรุกเข้ายึดสัมปทานทำเหมืองแร่สารพัดในเขตรัฐฉานตะวันออก ผ่านนายหน้าชาวพม่า ที่ขายต่อใบอนุญาต ขณะที่ทางการจีนเริ่มเปิดชายแดนตรงข้ามเมืองลา ประเทศพม่า อีกครั้ง หลังสั่งปิดตั้งแต่ปี 2006 ทำให้เส้นทางทัวร์ “แม่สาย – ท่าขี้เหล็ก – เชียงตุง – เมืองลา”กลับมาคึกคักอีกครั้ง
“ตั้งแต่ 2 เดือนผ่านมาแล้ว ที่ทางการจีนเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าออก ผ่านด่านชายแดนท่าล้อ เมืองไฮ เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา ที่เชื่อมกับเมืองลา เขตปกครองพิเศษที่ 4 ของประเทศ จุดเริ่มต้นของเส้นทาง R3b ที่เชื่อมจีนตอนใต้ ผ่านพม่า เข้าไทยทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย อีกเส้นทางหนึ่ง หลังจากที่สั่งปิดตั้งปี 2006 ที่ผ่านมา” โซมิน นักธุรกิจพม่า เชื้อสายไทยใหญ่ ในท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการ”
เขาบอกว่า การเปิดชายแดนของจีนครั้งนี้ แม้ว่าทางเขตปกครองตนเองที่ 4 ของพม่า จะยังไม่ตอบรับที่จะเปิดด่านให้นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ 3 เดินทางผ่านเข้าไปในจีน แล้วย้อนกลับทางเดิมเหมือนช่วงก่อนก็ตาม แต่ก็ทำให้การท่องเที่ยวบนเส้นทาง R3b ทั้งจากท่าขี้เหล็ก ขึ้นไปถึงเชียงตุง – เมืองลา หรือจากเมืองลา ลงมาถึงท่าขี้เหล็กเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะทัวร์ไทย ที่เริ่มหันมาให้บริการนำเที่ยวผ่านเส้นทางสายนี้มากขึ้น มีจุดหมายปลายทางที่ “เมืองลา” ซึ่งมีกาสิโนขนาดใหญ่ รวมถึงธุรกิจบริการอื่น ๆ รองรับอยู่
“มีหลายบริษัทที่ใช้รถบัส 2 ชั้นเข้ามาให้บริการ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ทั้งเจริญทัวร์ น้ำผึ้งทัวร์ แม่โขงเดลต้าทราเวล และจีพีทัวร์ จากประเทศไทย”โซมิน กล่าว และว่า
ทั้งนี้ เนื่องจากเส้นทางสายนี้มีระยะทางเพียง 220 กว่ากิโลเมตร( กม.) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.เท่านั้น โดยมีการขายโปรแกรมทัวร์กันที่ 4-5 พันกว่าบาท/หัว/โปรแกรม 2 วัน 2 คืนหรือหากนักท่องเที่ยวจะนำรถเข้าไปเองก็ทำได้ แต่อาจต้องเสียค่านำรถเข้าพื้นที่เขตปกครองพิเศษที่ 4 ของพม่าในราคา 50 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับรถ 4 ล้อ และ 100 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรถบัส รวมทั้งค่าหัวเข้าพื้นที่อีก 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ไม่รวมค่าผ่านทางจากท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง (160 กม.) อีก 3 ด่าน
ส่วนค่าโรงแรม หากพักค้างคืนที่เชียงตุง ค่าห้องพักจะอยู่ในระดับ 500 กว่าบาท/คืน ที่เมืองลา อยู่ในระดับประมาณ 60-100 หยวนต่อคืน (ตั้งแต่ 300 – 500 กว่าบาท/คืนขึ้นไป) ทั้งนี้ไม่รวมค่าทำ Border Pass เข้าพม่า และบัตรผ่านเข้า-ออกเขตปกครอง ที่เรียกกันว่า “EP” ในพม่า
ไม่เพียงธุรกิจท่องเที่ยวตามเส้นทาง R3b โดยมีกาสิโน – ธุรกิจบริการ ณ หัวเมืองชายแดนพม่า และวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนเชียงตุง เป็นจุดขายหลักจะเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งเท่านั้น ระยะที่ผ่านมามีกลุ่มทุนจีนเข้ามาลงหลักปักฐาน - ลงทุนในพม่า โดยเฉพาะพื้นที่รัฐฉานตะวันออก ชายแดนพม่า – ไทยหนาตามากขึ้นด้วย ทั้งในกลุ่มชาวจีนที่เข้ามารับจ้างสอนภาษาที่ท่าขี้เหล็ก – วิศวกรเหมืองแร่ – นายทุนทำเหมือง ฯลฯ
ในกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่ ระยะที่ผ่านมามีบริษัทเอกชนพม่า อย่างน้อย 17 ราย ที่วิ่งขอสัมปทานทำเหมืองจากแม่ทัพ และรัฐบาลพม่า เมื่อได้มาแล้ว ก็จะขายสิทธิ์ในการทำเหมืองต่อให้แก่นักธุรกิจจีน ไม่ว่าจะเป็นเหมืองแร่แมงกานีส – เหมืองมอง – เหมืองแร่พลวง ที่เชียงตุง , เมืองแพรก รวมถึงเหมืองลิกไนต์ที่รัฐบาลพม่าห้ามส่งออกผ่านชายแดนด้วย
“การทำเหมืองแร่ในรัฐฉานตะวันออกของพม่านั้น มีบริษัทเอกชนของพม่าเป็นเจ้าของแต่ชื่อเท่านั้น แต่คนที่ลงทุน – ดำเนินการ ล้วนแต่เป็นกลุ่มทุนจากจีนทั้งสิ้น รวมถึงกลุ่มวิศวกรเหมืองแร่ ก็ล้วนเป็นคนจีนเช่นกัน ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ปัจจุบันมีนักธุรกิจชาวจีนเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่รัฐฉานตะวันออกเป็นจำนวนมากขึ้นอย่างผิดหูผิดตาทีเดียว ทำให้เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ เส้นทางR3b จะสามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวจากชาติที่ 3 เดินทางผ่านทะลุขึ้นไปถึงเชียงรุ่ง หรือจิ่งหง เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาแน่นอน”
