ศรีสะเกษ – ชายแดนศรีสะเกษฝนหนักต่อเนื่อง น้ำล้นเขื่อนห้วยติ๊กชู ไหลทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎร ไร่นา 3 ตำบล อ.ขุนหาญ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เตือน ปชช.ระวังน้ำท่วมฉับพลันให้เก็บทรัพย์สินของมีค่าและต้อนสัตว์เลี้ยงไว้ที่สูง
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากภาวะที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องในระยะสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับปริมาณน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตามพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านตอนใต้ของ จ.ศรีสะเกษ ได้ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยตาจู ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 22 ล้านลูกบาศก์เมตร และ เอ่อล้นสปรินเวย์สูงกว่า 50 เซนติเมตร (ซม.) ไหลทะลักไปตามลำห้วยจันทร์ และ ลำห้วยตาจู ซึ่งกระแสน้ำที่ไหลแรงได้พัดทำลายทำนบดินป่าอ้อ ที่บริเวณสะพานข้ามลำห้วยขาดไหลเอ่อเข้าท่วม 4 หมู่บ้านในเขตพื้นที่ 3 ตำบล อ.ขุนหาญ
โดยเฉพาะที่บ้านกระเบา ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ น้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม.น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน วัด และนาข้าว เป็นบริเวณกว้างกว่า 500 ไร่ และ บริเวณติดกับแนวถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 ที่ขว้างกั้นทางน้ำทำให้น้ำเอ่อนาข้าวของเกษตรกรในระดับสูง
นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้นำคณะเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา วัดปริมาณน้ำได้ 20 มิลลิเมตรต่อวัน ได้สะสมและเอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้าน และพื้นที่ทำนาของชาวบ้าน ทางจังหวัดได้รับรายงานว่าในบางหมู่บ้านถนนถูกตัดขาด ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้ทางอำเภอเข้ามาตรวจสอบความเสียหายและเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชนโดยเร่งด่วนแล้ว
ส่วนปัญหาทำนบดินกั้นทางน้ำห้วยตาจูที่ขาดนั้น ทางจังหวัดได้ประสานงานกับกรมชลประทานเพื่อจัดสร้างฝายน้ำล้นเพื่อให้การระบายน้ำได้รวดเร็ว และป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่ามพื้นที่นา และบ้านเรือนของประชาชน
“อย่างไรก็ตาม ภาวะน้ำท่วมในระยะนี้ ยังไม่ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น ตามพื้นที่ที่มีภูเขาได้เตรียมการและระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเตรียมอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง รวมทั้งสัตว์เลี้ยงต่างๆ และบ่อเลี้ยงปลา ที่อาจเกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม ได้รับความเสียหายได้” นายระพี กล่าว