น้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เกษตรในกาฬสินธุ์แล้วกว่าพันไร่

กาฬสินธุ์ - ปภ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ระดมเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนออกนำสิ่งกีดขวางออกจากทางน้ำไหลเพื่อให้น้ำไหลอย่างสะดวก หลังจากฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆเอ่อล้น ด้านอุตุฯเตือนประชาชนพื้นที่ราบเชิงเขาระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นริมตลิ่ง ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ทางการเกษตรแล้ว 1 พันไร่

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (16 ก.ย.) นายวิทยา มากปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายวิระพงษ์ คลังบุญครอง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครออกติดตามสำรวจสถานการณ์น้ำตามแหล่งเก็บน้ำต่างๆภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมกับนำเรือท้องแบนร่องไปตามสายน้ำไหล เพื่อที่จะนำสิ่งกีดขวางออกจากทางน้ำไหล ให้น้ำได้ไหลออกจากเมืองกาฬสินธุ์อย่างสะดวกมากขึ้น

นายวิระพงษ์ คลังบุญครอง รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากปริมาณฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง และติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับมีปริมาณน้ำที่ไหลจากอ่างเก็บน้ำลำปาวจึงทำให้ปริมาณน้ำตามแหล่งเก็บน้ำสาธารณต่างๆ หลายแห่งในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เช่น อ่างเก็บน้ำแก่งดอนกลาง ห้วยสีทน มีปริมาณน้ำมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการเร่งระบายน้ำออกจากแหล่งเก็บน้ำเหล่านี้โดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้ ไม่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจัดการน้ำอย่างเป็นระบบแล้ว พื้นที่การเกษตร บ่อเลี้ยงปลารวมทั้งบ้านเรือนราษฏรในเขตเทศบาล ที่อยู่ในจุดเสี่ยงก็จะถูกน้ำท่วมได้

นอกจากนี้ เทศบาลยังได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดเจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนออกร่องเรือไปตามเส้นทางน้ำไหล เพื่อที่จะนำสิ่งกีดขวาง เช่น ผักตบ กิ่งไม้ ออกจาทางน้ำไหล เพื่อที่จะให้นำไหลออกจาแหล่งเก็บน้ำได้อย่างสะดวก

ด้าน นายวิทยา มากปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ยังไม่เข้าขั้นวิกฤต ปริมาณน้ำยังไม่น่าเป็นห่วงเท่าที่ควร เนื่องจากการระบายน้ำตามจุดต่างที่สำคัญยังทำได้สะดวก

อย่างไรก็ตาม หากฝนยังตกอย่างต่อเนื่องอีก 2-3 วัน คาดว่าจะมีพื้นที่ที่จัดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเกิดสภาวะน้ำท่วมได้หลายแห่ง ดังนั้น จึงได้วิทยุประสานไปยังหน่วยกู้ภัยประจำตำบล อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์ให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะมิสเตอร์เตือนภัยที่มีอยู่เกือบ 2 หมื่นคนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง

โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงตลอด 24 ชั่วโมงและหากปัญหาน้ำท่วมเป็นไปตามคำพยากรณ์ของ อุตุนิยมวิทยาฯ ก็จะดำเนินการใช้แผนสำรอง ด้วยการเตรียมการอพยพประชาชนเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที ส่วนในขณะนี้ได้เกิดปัญหาน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่นาของเกษตรกรใน เขตอำเภอเมือง อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย และอำเภอร่องคำ แล้วจำนวน 1 พันไร่

ขณะที่ นายสุพจน์ ปั้นทรัพย์ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปัญหาร่องมรสุมที่พาดผ่านในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จะยังคงเกิดขึ้นไปจนถึงวันที่ 21 กันยายนนี้ ในพื้นที่ภาคอีสาน ตั้งแต่จังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุดรธานีจะเกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักและตกต่อเนื่องจนกว่าร่องความกดอากาศสูงจะพาดผ่านที่จะทำให้สภาพอากาศในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนเริ่มเปลี่ยนฤดูเข้าสู่ฤดูหนาว

แต่เนื่องจากสภาพฝนที่ตกลงมาจะทำให้ ลำน้ำสายหลักทั้งลำน้ำปาว ลำน้ำพาน และลำน้ำชี ขยายวงกว้าง เชื่อว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 วันนี้พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จะประสบกับปัญหาน้ำท่วมที่นาที่ยังจะขยายผลไปสู่เส้นทางการเกษตร จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ราบลุ่มเชิงเขาด้านภูพาน ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากเนื่องจากปริมาณน้ำบนเชิงเขามีจำนวนมาก