ผู้จัดการรายวัน -- จนถึงเวลาบ่ายวันจันทร์ (3 พ.ย.) ที่ผ่านมา ทางการได้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 55 คน จากเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมเมืองหลวงกับอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเหลือคณานับ
จำนวนผู้เสียชีวิตในกรุงฮานอย ได้เพิ่มขึ้นเป็น 18 ราย ในวันเดียวกัน ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลาง รายงานว่า ฝนยังจะตกหนักติดต่อกันอีก 2-3 วัน ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าววีเอ็นเอ (VNA) ของรัฐบาล
คณะกรรมการแห่งชาติกำกับดูแลป้องกันและควบคุมภัยจากพายุ ได้เปิดประชุมฉุกเฉินในวันอาทิตย์ ได้เรียกร้องไปยังทางการจังหวัดต่างๆ ในเขตภัยพิบัติต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเคราะห์
สำหรับกรุงฮานอยฝนตกติดต่อกันมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ปริมาณน้ำฝนวัดได้มากที่สุดในรอบ 25 ปี ระดับน้ำท่วมสูง การสัญจรเป็นอัมพาตตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการขาดแคลนอาหาร ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดพุ่งขึ้นสูง
ในวันที่ 2 พ.ย.ระดับน้ำตามท้องถนนกรุงฮานอยได้เริ่มลดลงหลังจากในตกซาลง แต่น้ำก็ยังคงอยู่ในระดับสูง 63 พื้นที่ในเมืองหลวงยังจมน้ำ มีเพียง 2 เขตเท่านั้นที่ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 20-30 เซนติเมตร ทำให้รถเมล์โดยสารเปิดให้บริการได้อีก นายเหวียนก๊วกหุ่ง (Nguyen Quoc Hung) ผู้อำนวยการสำนักงานคมนาคมกรุงฮานอยกล่าวสำนักข่าวของทางการ
อย่างไรก็ตาม ถนนหลายสายของเมืองหลวง รวมทั้งในย่านธุรกิจสำคัญ รวมทั้งถนนเจิ่นก๊วกตวาน (Tran Quoc Toan) กวางจุ่ง (Quang Trung) เหวียนสือ (Nguyen Su) ฝ่ามหง็อกแถ็ก (Pham Ngoc Thach) ด่าวยวุยแอง (Dao Duy Anh) และถนนเลหย่วน (Le Duan) ในซีกตะวันตกและซีกใต้ของตัวเมืองระดับน้ำยังสูง
ตามรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเน็ต น้ำในแม่น้ำแดงที่ไหลผ่านกรุงฮานอยได้เอ่อล้นขึ้นท่วมสองฝั่งในเขตที่ลุ่ม รวมทั้งท่วมบริเวณสถานีสูบน้ำเพียงแห่งเดียวของนครใหญ่นี้จนไม่สามารถใช้การได้
นายเหวียนเถถาว (Nguyen The Thao) ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยได้มอบหมายให้รองประธานทั้งหกคนออกปฏิบัติการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน สำนักข่าวแห่งเดียวกัน กล่าว
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังมีรายงานราษฎรเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในหลายท้องถิ่น รวมทั้ง ใน จ.บั๊กซยาง (Bac Giang) ฮว่าบี่ง (Hao Binh) ถายเงวียน (Thai Nguyen) หวิงฟุก (Vinh Phuc) ฟุเถาะ (Phu Tho) และ จ.นีงบี่ง (Ninh Binh) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขตอู่ข้าวสำคัญของประเทศรอบๆ กรุงฮานอย
นอกจากนั้น ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตจำนวน 17 ราย ใน จ.ห่าตี๋ง (Ha Tinh) ซึ่งอยู่ในเขตภาคกลางตอนบน ทางใต้กรุงฮานอย วีเอ็นเอกล่าว
การสำรวจในชั้นต้นประมาณ ว่า อุทุกภัยครั้งรุนแรงนี้สร้างความเสียหายแก่เวียดนาม 200-300 ล้านดอลลาร์ บ้านเรือนราษฎรกว่า 55,000 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย นาข้าว 180,000 เฮกตาร์ (1.25 ล้านไร่) ถูกทำลาย พร้อมกับบ่อเลี้ยงปลาและกุ้งอีกราว 9,000 เฮกตาร์ (56,000 ไร่) ถนนหนทางถูกตัดความรวมเป็นระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร
วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้เป็นหัวหอกในการระดมส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบเคราะห์ในท้องที่ห่างไกลต่างๆ
สำหรับกรุงฮานอยฝนตกในช่วงนี้นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา และถ้าหากฝนหยุดตกก็จะต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการระบายน้ำ
นายเหวียนลานโจว์ (Nguyen Lan Chau) รองผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในปี 2527 ฝนตกติดต่อกันนาน 27 ชั่วโมง วัดปริมาณน้ำฝนได้ 561 มิลลิเมตรในเมืองหลวง แต่ในที่ตกในช่วงวันสองวันมานี้สัดได้ระหว่าง 200-520 มม.และยังจะมีฝนตกประปรายต่อไปอีก 2-3 วันข้างหน้า วันอังคารหรือวันพุธนี้จึงจะเริ่มมีแดดจ้า