อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษบุกอุบลราชธานี เรียกเกษตรกรผู้ปลูกมันกว่า 200 ราย ให้ปากคำเอาผิดลานมันที่เข้าข่ายทุจริตรับจำนำมันสำปะหลังฤดูกาลผลิต 2551/2552 อีก 5 แห่ง ระบุมี จนท.อคส.เข้าข่ายร่วมมือเอื้อประโยชน์ให้ลานมันทุจริตด้วย
จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ บุกจับ 3 ลานมันที่รับจำนำหัวมันสำปะหลังตามโครงการรับจำนำของรัฐบาลประจำฤดูกาลผลิต 2551/2552 จ.อุบลราชธานี ไปดำเนินคดีจำนวน 3 แห่ง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาที่องค์การบริหารส่วนตำบลสีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พ.ต.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน เดินทางมาสอบปากคำชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันในพื้นที่ อ.น้ำยืน และ อ.น้ำขุ่น และนำมันสำปะหลังเข้าร่วมโครงการรับจำนำมันสำปะหลังกับรัฐบาลจำนวนกว่า 200 ปาก มาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับนายวิชัย ศรีอรุณ เจ้าของลานมันชัยเจริญพืชผล อ.น้ำยืน นางธานี สะสมสวัสดิ์ เจ้าของลานมันเรืองศิริพืชผล อ.น้ำยืน นายพนมไพร และนายไกรศักดิ์ วงศ์คำ ลานมันไชยมงคล อ.น้ำขุ่น ซึ่งถูกจับกุมไปเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยอัยการมีความเห็นให้ดีเอสไอสอบสวนขยายผลทางคดีให้เกิดความชัดเจน และเอาผิดกับผู้ร่วมในขบวนการเพิ่มเติมอีก
พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ เปิดเผยว่า การสอบสวนวันนี้ ต้องการขยายผล เพราะพบมีลานมันเข้าข่ายทำผิดลักษณะเดียวกันกับลานมันที่ถูกดำเนินคดีแล้วอีก 5 แห่ง โดยใช้วิธีนำมันสำปะหลังนอกโควตาเข้าสวมสิทธิ มีการกดราคารับจำนำกับเกษตรกร บังคับใช้เกษตรกรยื่นใบประทวนเบิกเงินเท็จ และจากการสอบสวนของดีเอสไอยังพบเจ้าหน้าที่ อคส.เข้าข่ายต้องถูกดำเนินคดีด้วย 5-6 ราย เพราะใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับลานมัน โดยดีเอสไอเชิญตัวเจ้าหน้าที่ อคส.ที่สงสัยไปให้ปากคำแล้ว
สำหรับการสอบสวนจะเชื่อมโยงถึงเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ต้องดูจากสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมในวันนี้ แต่นอกจากรัฐเป็นผู้เสียหายแล้ว ขณะนี้ทำหนังสือแจ้งให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าร่วมเป็นเจ้าทุกข์เพิ่มเติม เพราะการทุจริตของลานมันมีขบวนการออกใบประทวนสินค้าใช้เบิกเงินจาก ธกส.โดยเป็นเท็จปรากฏชัดเจนด้วย