ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวมาบตาพุดและจังหวัดใกล้เคียงทยอยรวมตัวบริเวณสี่แยกเนินสำลี มาบตาพุด ประท้วงรัฐบาลอนุมัติการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมก่อมลพิษ โดยในช่วงบ่าย 14.00 น.จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้กับรัฐบาลโดยผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบ 300 นายดูแลรักษาความสงบ
วันนี้ (9 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจาก จ.ระยองถึงบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียงว่า ในช่วงเช้ากลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาชุมนุมบริเวณสีแยกเนินสำลี ใกล้ศูนย์ราชการจังหวัดระยอง โดยได้มีการตั้งเวทีปราศรัย บริเวณกลางถนนสายบายพาสเนินสำลี พร้อมมีแกนนำขึ้นปราศรัยถึงการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านไม่ต้องการให้มีการขยายโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยการชุมนุมในครั้งนี้คาดว่าจะยืดเยื้อ ถึง 3 วัน เพื่อรวบรวมรายชื่อ ยื่นคัดค้านดังกล่าว
นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก ซึ่งเป็นแกนนำ กล่าวย้ำถึงเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาจากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการออกใบอนุญาตแก่โรงงานที่ผ่านการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว (EIA.) ทั้งหมด 55 โครงการ เม็ดเงินการลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท โดยไม่ยึดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่า รัฐบาลส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ผลกฤษฎีกาตีความไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้
กรณีดังกล่าวในเรื่องกฎหมายนั้น ตามหลักกฎหมายต้องมีการถกเถียงต่อไป เพราะการตีความของกฤษฎีกา ไม่ใช่หน้าที่ ซึ่งหน้าที่ดังกล่าวต้องเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการอาจเอื้อมไปตีความแทนศาลรัฐธรรมนูญและกฤษฎีกาซึ่งเป็นนักกฎหมายของรัฐ ไปตีความแทนศาลรัฐธรรมนูญ ในทางที่ไม่ตรงกับเจตจำนงของมาตรา 67 อาจจะมีผลในทางปฏิบัติได้ เหตุผลในการชุมนุมเคลื่อนไหวในครั้งนี้คือต้องการให้รัฐบาลยึดหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนไม่ได้ขัดขวางการลงทุน แต่การลงทุนจะเกิดขึ้นได้ต้องผ่านขบวนการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 67 อย่างชัดเจน
“การชุมนุมครั้งนี้อาจยืดเยื้อแน่นอน หากรัฐบาลยังดื้อที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งอาจจะมีการปิดล้อมท่าเทียบเรือมาบตาพุด ปิดล้อมนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และปิดล้อมโรงงานแห่งใหม่ให้เป็นสัญลักษณ์ว่า นี่คือวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 และเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนเห็นว่า ปัญหามลพิษยังไม่ได้แก้ไข แต่มาเร่งเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อม อาจจะเป็นปัญหาในระยะยาว”
พ.ต.ท.สมศักย์ บุญประเสริฐนนท์ รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ระยอง รักษาการแทนผู้กำกับ สภ.ระยอง กล่าวถึงการรักษาความสงบในการชุมนุมในครั้งนี้ว่า ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสิ้นกว่า 300 นาย จากทุกอำเภอสนธิกำลังในการดูแลความสงบดังกล่าว ส่วนที่มีแสข่าวว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาบ่วนและสร้างความวุ่นวายในครั้งนี้นั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการตรวจตราอย่างเข้มงวด และคาดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงไม่น่าจะมีปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นด้วยแล้ว
