ศูนย์ข่าวศรีราชา- ผู้ประกอบการสถานบันเทิงนับพัน ยื่นหนังสือรองผู้ว่าฯเมืองชล ขอผ่อนผันระยะเวลาเปิดปิดสถานบริการ ชี้ ธุรกิจทรุดหลังเจอภาวะวิกฤตการท่องเที่ยว ขณะที่จังหวัดชลบุรียังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพียงรับลูกชงเรื่องเสนอมหาดไทยแก้กฎกระทรวงอีกรอบ
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายสุนทร รัตนวราหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เดินทางเข้าพบกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.สถานบริการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนโยบายมาตรการการจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะกรณีของการสั่งเปิดปิดสถานบริการ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยมี นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ท่ามกลางกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการจำนวนกว่า 500 ราย
นายสุนทรกล่าวว่า สำหรับกฎหมายสถานบริการฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ หัวข้อหลักสำคัญคงเป็นเรื่องของการกำหนดประเภทของสถานบริการ ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 400 แห่ง และการกำหนดระยะเวลาที่เปิดปิดที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ ปัจจุบันแม้จะได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากว่าเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง จากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่ท่อง เที่ยวอย่างเมืองพัทยา
เมื่อมีการประกาศใช้และมีผลบังคับ ก็ต้องมีการดำเนินการและปฏิบัติไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คือการให้ความร่วมมือในการเปิดปิดอย่างถูกต้อง รวมทั้งการปฏิบัติตนที่เข้มงวดต่อนโยบายการจัดระเบียบสังคม
ในส่วนของผลกระทบ ปัจจุบันองค์กรปกครองท้องถิ่น และตัวแทนฝ่ายการเมือง ก็ได้ประสานงานในการเร่งรัดเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้ผู้ประกอบการก็คงจะต้องรอคอยไปอีกสักระยะและให้ตัวแทนหรือผู้เกี่ยวข้อง ประสานงานกับภาครัฐเพื่อแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางชมรมสถานบริการเมืองพัทยา ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากมาตรการดังกล่าว โดยขอให้มีการผ่อนผันระยะเวลาเปิดปิดลดหย่อนจากเดิม เนื่องจากขณะนี้สภาพด้านการท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งต่อไปอาจก่อให้เกิดปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำและปัญหาแรงงานตามเป็นจำนวนมาก ขณะที่นโยบายในด้านอื่นๆ นั้น ทางผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ในการนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการได้มีการส่งมอบหนังสือต่อเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง และจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะได้มีการนำไปเสนอต่อกระทรวง มหาดไทย เพื่อขอผ่อนผันระยะเวลาเปิดปิดในพื้นที่ท่องเที่ยว และดำเนินการส่งเรื่องผ่านต่อไปยังผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร้องขอในการแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับการยกเว้นสำหรับเมืองท่องเที่ยวหลักต่อไป
วันนี้ (24 ส.ค.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายสุนทร รัตนวราหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เดินทางเข้าพบกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.สถานบริการ รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากนโยบายมาตรการการจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะกรณีของการสั่งเปิดปิดสถานบริการ ตามที่กฎหมายกำหนด โดยมี นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ท่ามกลางกลุ่มผู้ประกอบการสถานบริการจำนวนกว่า 500 ราย
นายสุนทรกล่าวว่า สำหรับกฎหมายสถานบริการฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่ หัวข้อหลักสำคัญคงเป็นเรื่องของการกำหนดประเภทของสถานบริการ ซึ่งมีอยู่จำนวนกว่า 400 แห่ง และการกำหนดระยะเวลาที่เปิดปิดที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ ปัจจุบันแม้จะได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเป็นจำนวนมากว่าเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง จากการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่ท่อง เที่ยวอย่างเมืองพัทยา
เมื่อมีการประกาศใช้และมีผลบังคับ ก็ต้องมีการดำเนินการและปฏิบัติไปตามขั้นตอนของกฎหมาย คือการให้ความร่วมมือในการเปิดปิดอย่างถูกต้อง รวมทั้งการปฏิบัติตนที่เข้มงวดต่อนโยบายการจัดระเบียบสังคม
ในส่วนของผลกระทบ ปัจจุบันองค์กรปกครองท้องถิ่น และตัวแทนฝ่ายการเมือง ก็ได้ประสานงานในการเร่งรัดเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยขณะนี้ผู้ประกอบการก็คงจะต้องรอคอยไปอีกสักระยะและให้ตัวแทนหรือผู้เกี่ยวข้อง ประสานงานกับภาครัฐเพื่อแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางชมรมสถานบริการเมืองพัทยา ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากมาตรการดังกล่าว โดยขอให้มีการผ่อนผันระยะเวลาเปิดปิดลดหย่อนจากเดิม เนื่องจากขณะนี้สภาพด้านการท่องเที่ยวกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ซึ่งต่อไปอาจก่อให้เกิดปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำและปัญหาแรงงานตามเป็นจำนวนมาก ขณะที่นโยบายในด้านอื่นๆ นั้น ทางผู้ประกอบการก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ในการนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการได้มีการส่งมอบหนังสือต่อเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง และจังหวัดชลบุรี ซึ่งจะได้มีการนำไปเสนอต่อกระทรวง มหาดไทย เพื่อขอผ่อนผันระยะเวลาเปิดปิดในพื้นที่ท่องเที่ยว และดำเนินการส่งเรื่องผ่านต่อไปยังผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร้องขอในการแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับการยกเว้นสำหรับเมืองท่องเที่ยวหลักต่อไป
