ลำปาง - รองผู้ว่าฯ ลำปางเตรียมขันนอตหน่วยงานที่ปล่อยปละละเลยบ้านเช่าหอพักให้เด็กมั่วสุม และพื้นที่ที่มีการพนัน หลังชุดทำงานจังหวัดบุกจับหอพักเถื่อนบ่อนพนัน
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง นำโดยนายสุทัศน์ สมคำ ปลัดอำเภอเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ชุดจัดระเบียบและสร้างความเข้มแข็งชุมชน (ชุดปฏิบัติการพิเศษทำทันที) ซึ่งดำเนินงานตามคำสั่งของนายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้นำกำลังบุกเข้าตรวจหอพักยิ่งเจริญ ถนนท่าคราวน้อย ซึ่งเปิดบริการให้เช่า พัก ทั้งรายวันรายเดือน เย็นวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อเข้าตรวจสอบพบมีเด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 15 ปี มั่วสุมดื่มสุราเถื่อนในห้องพัก พร้อมส่งเสียงร้องเพลงดังสนั่น นอกจากนั้นยังพบว่าหอพักดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตทั้งๆ ที่เปิดให้บริการกว่า 60 ห้อง มีนักเรียนเข้าพักเกือบ 30 ห้อง ทั้งหญิงและชายปะปนกัน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ดูแลหอพัก และเจ้าของหอพัก พร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.หอพัก
หลังจากนั้นได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 495 ม.11 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งมีนายสมศักดิ์ การะกัน อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของบ้าน หลังได้รับแจ้งว่าที่บ้านหลังดังกล่าวเปิดโต๊ะสนุ้ก และลักลอบเล่นการพนัน
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณหน้าบ้าน สังเกตเห็นชายไทยจำนวนหลายคนได้รีบวิ่งหลบหนี จึงได้แยกกำลังไล่ติดตาม สามารถจับกุมตัวไว้ได้จำนวน 3 คน เมื่อตรวจสอบบริเวณเพิงในสวนหลังบ้านพบมีการตั้งโต๊ะสนุกเกอร์จำนวนหนึ่งโต๊ะ และเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งผิดเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดให้เล่นเพียงคนในครอบครัวเท่านั้น
นอกจากนั้นยังพบว่ามีการลักลอบเล่นการพนัน คือไพ่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบไพ่ จำนวน 14 ตลับ เงินสด 40 บาท จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน คือ นายสมศักดิ์ การะกัน เจ้าของบ้าน, นายสุทัศน์ ทาปัน, นายวัชระพงษ์ ศรีจันทร์วงศ์ พร้อมของกลาง นำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ทางจังหวัดเตรียมขันนอตเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หากชุดปฏิบัติการพิเศษทำทันทีตรวจพบและเข้าดำเนินการจับกุมได้ เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการควบคุมดูแลหอพักบ้านเช่า แต่ที่ผ่านมากลับไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร มีพนักงานข้าราชการเพียงหนึ่งคนที่ออกทำงานตรวจตราหอพักบ้านเช่าทั้งจังหวัด ซึ่งถือว่าไร้ประสิทธิภาพ ทั้งๆ ที่เรื่องการจัดระเบียบสังคมและการดูแลปัญหาวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงเป็นเรื่องที่สำคัญแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบกลับไม่เห็นความสำคัญ