xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายสวมหน้ากากอนามัยบุกเดี่ยววิ่งราวทอง 2 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี- คนร้ายวัยรุ่นอายุประมาณ 30-35 ปี สวมหน้ากากอนามัยป้องกันไข้หวัด 2009 ปิดบังใบหน้าทำท่าไปขอซื้อสร้อยข้อมือรูปพรรณหนัก 2 บาท จากร้านทองหน้าตลาดสดกลางเมืองอุบลราชธานี ก่อนคว้าวิ่งหลบหนีออกจากร้านไปขึ้น จยย.ที่จอดรอท่าไว้หลบหนีไป

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (24 ส.ค.) พ.ต.ท.วีระยุทธ กุระนามสารวัตรเวร สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งทางวิทยุจาก ด.ต.อรุณ บุญอุ้ม เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยร้านทองบริเวณตลาดสดเทศบาลหนองบัว ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี เกิดเหตุคนร้ายบุกวิ่งราวทองคำรูปพรรณ จากร้านทองธงชัยไทยเจริญ ตั้งอยู่เลขที่ 741-743 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง จึงรีบไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.ท.ศรัญ นิลวรรณ รอง ผกก.สส.และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ

ร้านทองเกิดเหตุขนาด 2 คูหา ภายในร้านได้ติดลูกกรงเหล็กดัดสเตนเลสป้องกันบุกปล้นไว้รอบตู้โชว์ทองรูปพรรณ จากการสอบสวน นายวิษณุ ปึ่งเจริญกุล อายุ 51 ปี เจ้าของร้านให้การว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วมอายุประมาณ 30-35 ปี สูง 165-170 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดคอวีสีแดง ใส่กางเกงขาสั้นลายทหาร ตัดผมรองทรงยาว และปิดบังใบหน้าด้วยการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไข้หวัด 2009 ทำทีเข้าไปเลือกซื้อสร้อยข้อมือ โดยบอกว่าจะเอาไปให้แฟนสาวใส่

ระหว่างนั้นคนร้ายยังใจเย็นทำทีโทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับแฟนสาวว่า ชอบสร้อยข้อมือลวดลายแบบไหน จะเอาทั้งหมดกี่เส้น พร้อมขอให้ทางร้านนำออกมาให้เลือกหลายเส้น แต่ทางร้านระมัดระวัง โดยหยิบมาให้คนร้ายเลือกดูทีละเส้น จนเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที คนร้ายเริ่มสบโอกาสเพราะปลอดคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินตรวจไปมาในบริเวณนั้นได้เดินไปตรวจดูความเรียบร้อยร้านทองที่อยู่ใกล้กันอีกแห่ง

คนร้ายจึงคว้าเอาสร้อยข้อมือลายกระดูกงู ต้นสร้อยแกะเป็นรูปหัวมังกร น้ำหนัก 2 บาท วิ่งออกไปจากร้าน ตรงไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องทิ้งไว้ขับหลบหนีออกจากตัวเมืองไปอย่างรวดเร็ว ส่วนเจ้าของร้านทองหลังหายจากอาการตกใจได้ไขกุญแจลูกกรงเหล็กดัดออกมาดู คนร้ายก็หลบหนีไปแล้ว

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายไว้มาตรวจสอบ พร้อมพรินต์ภาพรูปพรรณสัณฐานคนร้ายแจกจ่ายไปตามร้านทองและโรงรับจำนำ เพื่อช่วยกันตรวจสอบ หากพบผู้ต้องสงสัยนำทองรูปพรรณที่ได้จากการวิ่งราวมาขาย จะได้จับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น