หนุ่มกำแพงเพชร ตกอับควงมีดจี้ร้านทองกลางห้างดังย่านหลักสี่ กวาดสร้อยทองหนักกว่า 126 บาท พร้อมเงินสดอีก 152,000 บาท ไปไม่รอด รปภ.ห้างกับพนักงานร้านทองช่วยกันจับได้ส่ง ตร.ดำเนินคดี สารภาพ ทำเป็นครั้งแรกจะเอาเงินไปใช้หนี้และรักษาตัว
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.พ.ต.ท.ปรีชา เอี่ยมพ่อค้า พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางเขน ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทอง ออโรร่า ภายในห้างโลตัส สาขาหลักสี่ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน
ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณทางออกของห้าง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ก็พบว่า รปภ.ของห้างสามารถจับตัวคนร้ายไว้ได้ทราบชื่อต่อมา คือ นายราเชล ขันดอนกลอย อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 9 ต.วังไทร อ.คลองขุน จ.กำแพงเพชร จากการตรวจค้นในกระเป๋าสะพายของคนร้ายพบของกลางเป็นทองสร้อยข้อมือหนัก 3 บาท 5 เส้น สร้อยข้อมือหนัก 2 บาท 3 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 15 เส้น และสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 3 เส้น รวม 126 บาท และยังพบเงินสดอีก 152,000 บาท นอกจากนี้ ยังพบอาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม ปืนปลอม และรถยนต์ นิสสัน สีแดง หมายเลขทะเบียน กจ 6698 สมุทรปราการ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.
จากการสอบสวน นางสาวจิตตรา ดาษิกร พนักงานประจำร้านทอง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนปฏิบัติงานกับเพื่อน ได้เห็นคนร้ายเดินไปเดินมาอยู่หน้าร้าน ก่อนที่จะเดินเข้ามาในร้านเหมือนลูกค้าทั่วไป จากนั้นได้เดินเข้ามาหาตนและบอกให้อยู่นิ่งๆ แล้วคนร้ายก็เข้าไปกวาดทองที่เคาน์เตอร์ เมื่อมีคนมามุงดู คนร้ายจึงควักมีดขึ้นมาขู่ ก่อนจะวิ่งหนีไปที่ชั้นใต้ดิน จนเจ้าหน้าที่ รปภ.ของห้างและพนักงานในร้านจะช่วยสกัดจับไว้ได้ ก่อนที่ ตร.จะมาควบคุมตัวไป
ด้าน นายราเชล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยประกอบอาชีพขับรถแบ็กโฮมาก่อน แต่ต่อนนี้ไม่ได้ทำแล้ว จึงวางแผนตั้งใจมาปล้น เพื่อที่จะนำเงินไปรักษาตัวเอง เนื่องจากประสบบอุบัติเหตุจนนิ้วก้อยเท้าขวาขาด และจะนำเงินไปใช้หนี้ให้ภรรยาที่กู้เงินมา 10,000 บาท เพื่อเป็นค่ารักษาก่อนหน้านี้ ส่วนรถยนต์ของกลางนั้นเป็นรถของตัวเองซื้อมาเพื่อใช้ก่อเหตุและนำกระดาษมาปิดแผ่นป้ายทะเบียนเพื่ออำพราง
พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 กล่าวว่า ให้การรับสารภาพว่าทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้และรักษาตัว เบื้องต้นจะนำตัวให้พนักงานสอบสวนสอบสวนก่อนนำไปตัวฝากขังที่ศาลอาญาวันพุธนี้(6 ส.ค.)