แม่หม้ายวัย 65 ปี ถูกคนร้ายฆ่าโหดปาดคอ แทงพรุน ก่อนใช้ถุงพลาสติกและผ้าห่มห่อศพ 3 ชั้น พันทับด้วยเทปกาว คาดว่าคนร้ายหวังชิงทรัพย์และน่าจะรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 22.00 น. พ.ต.ท.ธนภัทร สุขมี สารวัตรเวร สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีกลิ่นต้องสงสัยคล้ายซากศพภายในห้องพักรุ่งทรัพย์คอนโดทาวน์ พหลโยธิน 54/1 แขวงอนุเสารีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ภูดิท จิตตธรรม สว.สส.สน.บางเขน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียม สูง 7 ชั้น จากการตรวจสอบห้องเลขที่ 28/4 ชั้น 3 พบว่ามีน้ำเหลืองไหลออกมาจากใต้เตียงนอน พร้อมกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายซากศพ เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยก้มดูที่บริเวณใต้เตียงนอนพบถุงขยะใบใหญ่สีดำ จึงยกออกมาตรวจสอบ เมื่อทำการตัดถุงภายนอกออกพบว่าด้านในถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มซ้อนทับกับถุงอีก 3 ชั้น โดยมีเทปกาวสีขาวเป็นเครื่องพันธนาการ เมื่อเปิดออกมาตรวจสอบภายในพบศพ นางจิระพันธ์ แอมสแตน อายุ 65 ปี เจ้าของห้องพัก สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กระโปรงสีดำ มีบาดแผลถูกเชือดที่ลำคอ ถูกแทงที่หน้าอกและต้นแขนซ้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
จากการสอบถามนางรัตนา สิงหา อายุ 56 ปี น้องสาวผู้ตาย พักอยู่บ้านเลขที่ 190 ซอยลาดพร้าว 91 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ทราบว่าผู้ตายเคยอยู่กินกับสามีชาวต่างชาติแต่ได้เสียชีวิตไปจึงทำให้ผู้ตายมาเช่าห้องอยู่เพียงลำพัง ปกติผู้ตายเป็นคนชอบดื่มเหล้าและชอบใส่เครื่องประดับติดตัวจำนวนมาก แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงเสียชีวิตเช่นนี้
“ก่อนเกิดเหตุมีคนโทรศัพท์ไปบอกว่าไม่เจอหน้าพี่สาวหลายวันแล้ว ประกอบกับมีกลิ่นโชยออกมาจากในห้องเมื่อเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับทั้งๆที่ประตูถูกล๊อคจากด้านในห้อง จึงให้ฉันรีบมาดู เมื่อมาถึงก็ไขกุญแจเข้าไปและพบว่ามีน้ำเหลืองไหลออกมา พร้อมกับกลิ่นเหม็นคล้ายซากศพจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นางรัตนา กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พัฒนา กล่าวว่า คนร้ายน่าจะรู้จักและสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดี ส่วนมูลเหตุการณ์เสียชีวิตครั้งนี้คนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ แต่จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้และร่องรอยการรื้อค้น คาดว่าคนร้ายเห็นว่าผู้ตายอยู่เพียงคนเดียว จึงมีเวลาในการคิดอำพรางศพเพื่อไม่ให้มีกลิ่น เบื้องต้นจะต้องสอบปากคำญาติของผู้ตายอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่ามีทรัพย์สินใดหายไปบ้าง และจะสอบปากคำพยานแวดล้อมว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายติดต่อหรืออยู่กับใครบ้าง เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป