การค้าระหว่างประเทศจัดสัมมนาโอกาสลู่ทางการค้า-การลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน‏

ระยอง - กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัด สัมมนาโอกาสลู่ทางการค้า การลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนในประเทศ เตรียมปรับตัวเป็นนักลงทุนอาเซียน จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุนของประเทศ

วันนี้ (21 ส.ค.52) กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัด สัมมนาโอกาสลู่ทางการค้า การลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่ ห้องสร้อยสุวรรณ โรงแรมสตาร์ อ.เมืองระยอง โดยนายเกริกไกร จิระแพทย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “ทำไมอาเซียน ทำอย่างไรอาเซียน” นายเถลิงศักดิ์ วงศ์สามศร นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ สำนักอาเซียนนางสาว จณัญญา บัณฑุกูล นักวิชการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ และนายณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผอ.ส่วนการค้าบริการอาเซียน ร่วมอภิปราย มีนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ผู้ลงทุนในธุรกิจต่างๆ เข้าร่วมรับฟังบางตา

นายนภดล สระวาสี รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวโดยสรุปว่า การค้าการลงทุนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นโครงการหนึ่งในหลายโครงการ ที่จะนำผลการเจรจามาเผยแพร่ ให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ นำไปใช้ประโยชน์การค้าเสรี ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ผลการเจรจาข้อตกลงได้ขยายผลว่า ใน 6 ปีข้างหน้า 2558 อาเซียนที่ไทยเป็นสมาชิกจะปรับเปลี่ยนเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ไทยควรกระตุ้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนโดยเฉพาะนักลงทุน ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ มีความเข้าใจในแนวทางการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และจะได้รับประโยชน์ต่อข้อตกลงต่างๆได้อย่างไร

การจัดสัมมนาต้องทำให้ประชาชนนักลงทุนทั่วประเทศทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้วางแผนจัดสัมมนาอย่างต่อเนื่องทุกปี ให้เข้าถึงกลุ่มนักธุรกิจทุกกลุ่ม ปีนี้เน้นที่จะเข้าถึงนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนในประเทศ เตรียมปรับตัวเป็นนักลงทุนอาเซียน จะเป็นการเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุนของประเทศ เรามีการลงทุนภายใต้กฎบัตรอาเซียน จะทำให้การค้าการลงทุนในเขตอาเซียน มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุ้มครองการลงทุน การส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งอำนวยการความสะดวก ในด้านการลงทุนต่างๆ ที่เรามีข้อตกลงไว้เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งมีการตกลงการลงทุนกับประเทศคู่เจรจาหลายประเทศ คาดว่าการลงทุนจะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ในอีก 6 ปีข้างหน้า จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเคลื่อนย้ายการลงทุน เรื่องการบริการสินค้ารวมทั้งเงินทุน แรงงานที่มีฝีมือจะมีการเคลื่อนย้าย มั่นใจว่าการลงทุนในอนาคต โดยเฉพาะในอาเซียน จะมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ได้รับผลประโยชน์ จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มที่

นายนพดล กล่าวว่า ในภาคตะวันออกโดยเฉพาะจังหวัดระยองมีศักยภาพ ด้านการลงทุน มีท่าเรือน้ำลึก มีเขตประกอบการอุตสาหกรรม เป็นประตูสู่อาเซียนภาคตะวันออก ซึ่งมีมูลค่าทางการค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจังหวัดระยองน่าจะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มมากกว่านี้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเกษตร การแปรรูปสินค้าเกษตร เป็นแหล่งผลไม้ที่มีชื่อเสียง เชื่อมั่นว่าโอกาสจะมีโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตร ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

รวมทั้งอุตสาหกรรม วัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ จะมีโอกาสขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมามีการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน มีการลงนามการลงทุนกับประเทศจีน และการลงทุนการค้าสินค้าร่วมกับประเทศอินเดีย ซึ่งจะเป็นตัวที่จะขยายการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศคู่เจรจา

นายเกริกไกร จีระแพทย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เราจะต้องเดินไปข้างหน้าในทิศทางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ด้วยความมั่นใจไม่พอ ต้องมุ่งมั่น หมายมั่นจะทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยให้มากที่สุด อาเซียนมีอายุ 42 ปี เกิดเมื่อปี 2510 มีสมาชิกอาเซียนเพียง 5 ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

เสียดายเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้ทำงานเท่าที่ควร อาเซียนเกิดขึ้นเพราะต้องการที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาภายในของอาเซียนเอง กรณีพิพาทดินแดน เกาะแก่ง ของ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและมาเลเซีย 4 ปีก่อน พ.ศ. 2510 ประเทศไทยมีการส่งออกแค่ ไม่ถึง 10,000 ล้านบาท ขณะนั้นประเทศอาเซียน 5 ประเทศไม่มีบทบาทในเรื่องของการค้าเท่าไหร่นักแต่จะมีความรู้สึกเรื่องการเมืองมากกว่า จึงรวมตัวกันเพื่อที่จะปกป้องตนเองจากภัยคุกคาม และแก้ไขปัญหาภายในเท่านั้น