xs
xsm
sm
md
lg

เวทีแก้ปัญหาชุมชน-พื้นที่เกษตร “แก่งเสือเต้น” ล่ม-กมธ.หนุนเขื่อนทำชาวบ้านวอล์กเอาต์เกลี้ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เวทีแก้ปัญหาพื้นที่เกษตร-ชุมชนผู้ประสบภัย “แก่งเสือเต้น” ล่ม “ชาวสะเอียบ” วอล์กเอาต์เกลี้ยงศาลาวัด หลังกรรมาธิการฯ แสดงท่าทีหนุนเขื่อนแก่งเสือเต้นเต็มตัว ขณะที่ 2 แกนนำต่อต้านเขื่อนยักษ์ย้ำ “หยุดได้แล้ว เขื่อนแก่งเสือเต้น ให้เลิกพูด หลังให้โอกาสรัฐมานานเกือบ 20 ปี ยังเคลียร์ไม่ได้”

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษามาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาพื้นที่การเกษตรและชุมชนผู้ประสบภัย ได้ลงพื้นที่รับฟังความเห็นชาวบ้าน กรณีภัยธรรมชาติ ที่วัดบ้านดอนชัย ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษามาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาพื้นที่การเกษตรและชุมชนผู้ประสบภัย, กรมทรัพยากรน้ำ จ.แพร่, กรมพัฒนาที่ดิน จ.แพร่, กรมป่าไม้ จ.แพร่, รองผู้ว่าฯ จ.แพร่, นายอำเภอสอง, สำนักงานเกษตรอำเภอ, สำนักงานอวกาศสารสนเทศ และชาวบ้านกลุ่มราษฎรรักป่า ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เข้าร่วมจาก 4 หมู่บ้าน ประมาณ 800 คน

คณะกรรมการลุ่มน้ำยม ที่ได้รับเงินอุดหนุนจาก ADB ปีละ 1 ล้านบาท เพื่อศึกษาการจัดการลุ่มน้ำยม ได้ชี้แจงถึงแผนดำเนินงานที่ผ่านมาว่า มีความสนใจในเรื่องของโครงการขนาดเล็กและกลาง ซึ่งกระจายอยู่ทั่วลุ่มน้ำยม ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมได้ และได้กล่าวถึงการจัดตั้งสถานีวัดน้ำในแต่ละจังหวัดตั้งแต่ต้นน้ำที่พะเยา และปลายน้ำที่ จ.พิจิตร

ขณะที่ตัวแทนจากสำนักงานงานวิจัยอวกาศสารสนเทศ ได้นำเสนอเรื่องโครงการแก่งเสือเต้น โดยได้ชี้ให้เห็นว่า ปริมาณป่าไม้ในเขตจังหวัดแพร่มีพื้นที่ลดลง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก

ด้าน กำนันเส็ง ขวัญยืน กำนัน ต.สะเอียบ แกนนำกลุ่มต่อต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น ถามย้อยกับไปทันทีว่าข้อมูลที่นำมาเสนอยังเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม เพราะทางสำนักงานอวกาศฯได้เอาข้อมูลมาจากกรมชลฯ และเสนอให้ไปศึกษาใหม่

“ไปรับงานเขามาแล้วมาพูดอย่างนี้ชาวบ้านรับไม่ได้แน่นอน” กำนันเส็งกล่าว

จนในที่สุด กรรมาธิการฯ ได้ให้ข้อเสนอว่าให้กลับไปศึกษาว่า ทำข้อมูลให้ตรงกันเสียก่อน หลังจากนั้นหนึ่งในกรรมาธิการฯ ได้พูดว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ถ้าชาวบ้านจะพูดก็ควรจะมีหลักฐานมารองรับโดยใช้วิทยาศาสตร์ และให้ทำใจให้เป็นกลาง และยอมรับถ้ามีโครงการแก่งเสือเต้นเกิดขึ้นจริง ทำให้ชาวบ้านทั้งหมดได้ลุกออกจากที่ประชุมทันที จนการประชุมต้องยุติลงโดยปริยาย

กำนันเส็งกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 32 ว่าช่วงนั้นมีการสัมปทานป่าไม้ และปี 34 เกิดกลุ่มราษฎรรักป่าเกิดขึ้น โดยได้ทำหน้าที่ปกป้อง พิทักษ์ รักษาป่า มาจนเป็นที่ประจักษ์ จนถึงปัจจุบัน เมื่อเทียบกับกรมป่าไม้รักษาป่ามา 100 กว่าปี รับรองว่าชาวบ้านรักษาได้ดีกว่าแน่นอน

นายชุม สะเอียบคง อดีตกำนัน ต.สะเอียบ กล่าวว่า เราให้โอกาสรัฐตั้งแต่ปี 32 หรือเกือบ 20 ปี โดยคำถามเดียวว่าเราจะย้ายไปอยู่ที่ไหน จนถึงปัจจุบัน คำถามที่ถามยังไม่มีคำตอบ และวันนี้จะต้องมาเก็บข้อมูลใหม่อีกมาสำรวจอีก มันสายไปแล้ว และได้เสนอแนวทางการจัดการป่าไม้ว่า ต้องทำโฉนดชุมชนและให้ชาวบ้านมีเอกสารสิทธิ และกันเขตระหว่างป่ากับชุมชน จะเป็นวิธีการหนึ่งในการจัดการป่าทั้งหมด

“ให้เลิกพูดโครงการแก่งเสือเต้น และเสนอทางออกเรื่องการจัดการขนาดเล็กขนาดกลาง และขอให้จบได้แล้วกับโครงการขนาดใหญ่อย่างแก่งเสือเต้น”




กำลังโหลดความคิดเห็น