เมืองแพร่เร่งใช้งบหลังเบิกจ่ายอืด แต่ทำแผนแปลกทุ่มทำโรงเหล้า-ไม่สนอบายมุขล้นเมือง

แพร่ - ผู้ว่าฯ คนใหม่ไฟเขียวเดินหน้าจัดงบพัฒนาจังหวัดมอบหมายวิทยาลัยชุมชนจัดตั้งโรงเหล้า ไม่สนเมืองแพร่มีโรงเหล้าล้นเมืองอยู่แล้วกว่า 200 โรงงาน

นายวัลลพ พริ้งพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ประชุมข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวของกับการใช้งบประมาณปี 2552ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแพร่ เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2552 ล่าช้า โดยจังหวัดแพร่ได้ดำเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดในปี 2552 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551มาจนปัจจุบันเข้าสู่เดือนที่ 8 แล้ว การใช้งบประมาณในการพัฒนาจังหวัดแพร่คืบหน้าไปเพียง ร้อยละ 7.22 เท่านั้น ซึ่งมาจากสาเหตุการทำโครงการที่ส่อเค้าว่าจะไม่โปร่งใสและไม่เหมาะสมกับยุทธศาสตร์จังหวัด

ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้ให้เร่งดำเนินการ ถ้าดำเนินการล่าช้าอาจต้องมีการปรับลดงบประมาณ ซึ่งจะกระทบงบประมาณในปี 2553 เบื้องต้นเชื่อว่าจังหวัดแพร่จะได้รับเพียง 36 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่งบประมาณปี 2552 อยู่ที่ 246 ล้านบาท ในการเร่งดำเนินการครั้งนี้ มีโครงการชุบชีวิตโอท็อป ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท

ในงบประมาณส่วนนี้เป็นเงินก่อสร้างโรงงานผลิตสุราจำนวน 11 ล้านบาท ที่เป็นโครงการของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโครงการดังกล่าวประสบปัญหาไม่มีพื้นที่ดำเนินการและแบบแปลนยังไม่พร้อม โดยมีเป้าหมายจะตั้งโรงงานใน อ.สอง จ.แพร่

นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ประชาชนโดยทั่วไปในจังหวัดแพร่เริ่มมีแนวคิดต่อต้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตสุรากลั่นชุมชนในจังหวัดแพร่ มีอยู่แล้วกว่า 200 โรงงานกำลังประสบกับสภาวะขาดทุนเนื่องจากหาตลาดยากเกิดการแข่งขันสูง โรงงานที่ทางราชการจัดสร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบตามมา

นอกจากนั้นยังไม่สอดคล้องกับกระแสสังคม ที่มีการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาลดการดื่มสุรา แต่ทางราชการกลับดำเนินงานตั้งโรงงานผลิตเสียเอง โดยมอบหมายให้วิทยาลัยชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบโครงการแทน

นายชุม สะเอียบคง ประธานกลุ่มเกษตรกรทำสวน ต.สะเอียบ ผู้ประกอบการสุราแก่งเสือเต้น กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำสุราของ ต.สะเอียบ ล้มลุกคลุกคลานแต่ระยะหลังเข้าสู่ระบบทั้งหมดไม่จำหน่ายแบบใต้ดินอีกต่อไป ซึ่งส่งผลให้มีการจัดเก็บภาษีใน ต.สะเอียบ ปี 2551ได้มากถึง 143 ล้านบาท ขณะที่ภาษีรวมทั้งจังหวัดจัดเก็บได้ 229 ล้านบาท

แม้ตำบลห้วยหม้าย มีการผลิตสุรากลั่นมานานแต่เก็บภาษีได้เพียง 50 ล้านบาทเศษเท่านั้น ถึงแม้การประเมินของสรรพสามิตมองว่าเศรษฐกิจทรุดตัว จะทำให้การเก็บภาษีสุราลดลง โดยภาพรวมแล้วเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2552 น่าจะสามารถจัดเก็บภาษีได้ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธุรกิจสุราในจังหวัดแพร่มีปัญหาการแข่งขันสูง มีโรงงานเกิดขึ้นมากและทางราชการไม่ได้ให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง ในขณะที่เก็บภาษีเป็นจำนวนมาก ทางออกทีดีที่หน่วยงานของรัฐจะเข้ามาหนุนช่วยผู้ประกอบการ คือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ปัจจุบันใช้ขวดของเบียร์ลีโอ ถ้ามีการหวงห้ามผู้ผลิตสุราในจังหวัดแพร่จะไม่สามารถบรรจุขวดได้ เพราะแต่ละขวดจะมีลิขสิทธิ์ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเข้ามาช่วยส่งเสริม มากกว่าการตั้งโรงงานผลิตสุรา เพราะปัญหาการแข่งขันจะสูงขึ้นไปอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แม้การจำหน่ายสุราในจังหวัดแพร่ จะมียอดการจำหน่ายที่สูงติดอันดับประเทศแต่ก็พบว่าประชาชนเป็นโรคอันเกี่ยวกับการดื่มสุรามีอัตราเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. กำลังรณรงค์ให้ประชาชนลดการดื่มสุรา ในขณะที่จังหวัดแพร่ กำลังใช้งบประมาณของรัฐตั้งโรงเหล้า

นางสิริกัลยา เจริญดี องค์กรพัฒนาเอกชนทางด้านหมอพื้นบ้านและสมุนไพรกล่าวว่า หลายฝ่ายกำลังให้ความสนใจการรณรงค์ลดการดื่มสุราในจังหวัดแพร่ แต่จังหวัดกลับทำงานสวนทางโดยใช้งบประมาณพัฒนาจังหวัดตั้งโรงงานผลิตสุราเสียเอง ก็ไม่ทราบว่าการรณรงค์ของประชาชนจะทำกันไปทำไมไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เมื่อรัฐหันมาตั้งโรงงานผลิตสุราเสียเอง ปัจจุบันรัฐมีโรงงานผลิตสุราอยู่แล้วที่ลำพูน และอุตรดิตถ์ ซึ่งน่าจะเพียงพอไม่สมควรตั้งโรงงานเพิ่มขึ้นอีกและที่ร้ายไปกว่านั้น ยังมอบหมายให้วิทยาลัยชุมชนจังหวัดแพร่ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการใช้สถานศึกษามาทำการผลิตสุรากลั่นชุมชน