เชียงราย – “เชษฐา” ดอดขึ้นเหนือ ดูชายแดนไทย-พม่า ด้านแม่สาย พบมูลค่าการค้าพุ่ง แต่เตือนพ่อค้าไทยอย่ามุ่งโกง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (17 ส.ค.) พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-พม่า ได้นำคณะไปสำรวจและรับทราบปัญหาการค้าชายแดนที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปที่ห้องประชุมด่านศุลกากรแม่สายตั้งอยู่สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ต.แม่สาย
โดยมี นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายชูชัย อุดมโภชน์ นายด่านศุลกากรแม่สาย, พ.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ เสธ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง, นายสัตวแพทย์ถนอมศักดิ์ เสรีวิชยสวัสดิ์ ประธานสมาคม สาขา จ.เชียงราย นำคณะภาครัฐและเอกชนให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์
นายชูชัย ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-พม่า ผ่านด่านถาวรแม่สาย ถือว่ามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2551 มีการส่งออก 3,705.5 ล้านบาท และนำเข้า 245.5 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2552 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2551-มิ.ย.2552 พบว่า มีการส่งออกแล้วกว่า 3,257.19 ล้านบาท และนำเข้า 339.48 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ 2552 นี้ ตัวเลขการค้าจะโตขึ้นอีก 15% และคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 4,000-4,500 ล้านบาท
โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สุรา ยางรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นไม้ซุงสัก ผลไม้สด เครื่องแต่งกาย ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาอุปสรรคบ้าง เช่น ถนน R3b เชื่อมไทย-พม่า-จีนตอนใต้ ยังไม่มีการเปิดด่านที่เมืองลา-ต้าลั๊ว ตรงชายแดนพม่า-จีน อย่างเป็นทางการ ทำให้ด่านศุลกากรแม่สายตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งรัฐบาลทุ่มทุนก่อสร้างไปกว่า 1,000 ล้านบาท ยังไม่ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ ตลอดชายแดน 120 กม.ยังคงเกิดปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ทั้ง ยาเสพติด สินค้าต้องห้ามในประเทศไทย ฯลฯ ยังไม่มีระบบการซื้อขายสินค้าที่เป็นสากล เช่น ไม่มีระบบแอลซี ไม่มีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร แต่ใช้เงินสดซื้อขายกันแทน เป็นต้น
ด้านกองกำลังผาเมืองได้รายงานสถานการณ์ต่อ พล.อ.เชษฐา ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนด้านนี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยชนกลุ่มน้อยพยายามขายยาเสพติดเพื่อนำเงินไปซื้อ และสะสมอาวุธคึกคักที่สุดในรอบ 5 ปี
กลุ่มที่มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นถัดจากกลุ่มว้าแดง-มูเซอ ซึ่งมีฐานที่มั่นตลอดแนวชายแดนและมีอิทธิพลในดินแดนตอนในของพม่าแถบนี้แล้ว ยังมีชาวเขาเผ่าม้ง ที่มาจากตะเข็บชายแดนไทย และม้งจาก ส.ป.ป.ลาว อพยพเข้าไปตั้งรกรากในเขตใกล้เมืองยอนตรงกันข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่จัน จ.เชียงราย มากขึ้นเรื่อยๆ
โดยปัจจุบันมีชาวม้ง ตั้งบ้านเรือนอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน มีประชากรกว่า 600-700 คน ซึ่งคนเหล่านี้มีเครือข่ายกับชาวม้ง ในประเทศไทย จึงคาดว่า ในอนาคตจะมีบทบาทในการลักลอบขนยาเสพติดมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตยาเสพติดก็มีปัญหาเรื่องสารตั้งต้นที่ขาดแคลนจึงทำให้ราคายาเสพติดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแพง โดยในพม่ามีราคาเม็ดละ 45-50 บาท ใน ส.ป.ป.ลาว เม็ดละ 60-70 บาท ส่วนยาเสพติดประเภทอื่น เช่น เฮโรอีน ฯลฯ คาดว่าจะมีปริมาณมากขึ้นเพราะปีนี้พบมีการปลูกฝิ่นมากกว่าทุกปี ฯลฯ
นายสัตวแพทย์ ถนอมศักดิ์ กล่าวว่า สมาคมมีทั้งหมด 7 สาขาทั่วประเทศแต่ พล.อ.เชษฐา ในฐานะที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ก็เลือกที่จะเดินทางไปเยือนชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ก่อนเป็นแห่งแรก ดังนั้นจึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีอย่างยิ่ง
ด้าน พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับพม่าเพราะมีชายแดนติดกันกว่า 2,801 กิโลเมตร และพม่ามีประชากรกว่า 55 ล้านคน ประเทศไทยมีกว่า 64 ล้านคน รวมทั้งพม่ามีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในโลกส่วนประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ดังนั้น หากร่วมมือกันก็จะมีพลังในระดับนานาชาติมหาศาล แต่สภาพปัจจุบันก็ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างตามที่ทุกคนได้รับทราบ ซึ่งตนเห็นว่า ต้องใช้ความจริงใจในการพูดคุยหารือกันและจากประสบการณ์ตั้งแต่ตนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็รู้ว่าความจริงใจนั้นสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศราบรื่นและสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้จริงๆ
“ตามประสาทหารก็อยากรบอยู่ แต่รบไปก็ไม่มีประโยชน์ เป็นพันธมิตรสร้างความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันดีที่สุด” พล.อ.เชษฐา กล่าว และว่า
แต่การลงทุนในพม่า อย่าหวังเข้าไปหาผลประโยชน์ โกงกิน ฝ่ายเดียว เพราะความลับไม่มีในโลกต้องอาศัยความจริงใจต่อกันด้วย
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (17 ส.ค.) พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-พม่า ได้นำคณะไปสำรวจและรับทราบปัญหาการค้าชายแดนที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปที่ห้องประชุมด่านศุลกากรแม่สายตั้งอยู่สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ต.แม่สาย
โดยมี นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายชูชัย อุดมโภชน์ นายด่านศุลกากรแม่สาย, พ.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ เสธ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง, นายสัตวแพทย์ถนอมศักดิ์ เสรีวิชยสวัสดิ์ ประธานสมาคม สาขา จ.เชียงราย นำคณะภาครัฐและเอกชนให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์
นายชูชัย ระบุว่า การค้าชายแดนไทย-พม่า ผ่านด่านถาวรแม่สาย ถือว่ามีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2551 มีการส่งออก 3,705.5 ล้านบาท และนำเข้า 245.5 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2552 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2551-มิ.ย.2552 พบว่า มีการส่งออกแล้วกว่า 3,257.19 ล้านบาท และนำเข้า 339.48 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีงบประมาณ 2552 นี้ ตัวเลขการค้าจะโตขึ้นอีก 15% และคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 4,000-4,500 ล้านบาท
โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สุรา ยางรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นไม้ซุงสัก ผลไม้สด เครื่องแต่งกาย ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาอุปสรรคบ้าง เช่น ถนน R3b เชื่อมไทย-พม่า-จีนตอนใต้ ยังไม่มีการเปิดด่านที่เมืองลา-ต้าลั๊ว ตรงชายแดนพม่า-จีน อย่างเป็นทางการ ทำให้ด่านศุลกากรแม่สายตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งรัฐบาลทุ่มทุนก่อสร้างไปกว่า 1,000 ล้านบาท ยังไม่ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ ตลอดชายแดน 120 กม.ยังคงเกิดปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย ทั้ง ยาเสพติด สินค้าต้องห้ามในประเทศไทย ฯลฯ ยังไม่มีระบบการซื้อขายสินค้าที่เป็นสากล เช่น ไม่มีระบบแอลซี ไม่มีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร แต่ใช้เงินสดซื้อขายกันแทน เป็นต้น
ด้านกองกำลังผาเมืองได้รายงานสถานการณ์ต่อ พล.อ.เชษฐา ว่า ปัจจุบันสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนด้านนี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยชนกลุ่มน้อยพยายามขายยาเสพติดเพื่อนำเงินไปซื้อ และสะสมอาวุธคึกคักที่สุดในรอบ 5 ปี
กลุ่มที่มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นถัดจากกลุ่มว้าแดง-มูเซอ ซึ่งมีฐานที่มั่นตลอดแนวชายแดนและมีอิทธิพลในดินแดนตอนในของพม่าแถบนี้แล้ว ยังมีชาวเขาเผ่าม้ง ที่มาจากตะเข็บชายแดนไทย และม้งจาก ส.ป.ป.ลาว อพยพเข้าไปตั้งรกรากในเขตใกล้เมืองยอนตรงกันข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่จัน จ.เชียงราย มากขึ้นเรื่อยๆ
โดยปัจจุบันมีชาวม้ง ตั้งบ้านเรือนอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน มีประชากรกว่า 600-700 คน ซึ่งคนเหล่านี้มีเครือข่ายกับชาวม้ง ในประเทศไทย จึงคาดว่า ในอนาคตจะมีบทบาทในการลักลอบขนยาเสพติดมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตยาเสพติดก็มีปัญหาเรื่องสารตั้งต้นที่ขาดแคลนจึงทำให้ราคายาเสพติดในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแพง โดยในพม่ามีราคาเม็ดละ 45-50 บาท ใน ส.ป.ป.ลาว เม็ดละ 60-70 บาท ส่วนยาเสพติดประเภทอื่น เช่น เฮโรอีน ฯลฯ คาดว่าจะมีปริมาณมากขึ้นเพราะปีนี้พบมีการปลูกฝิ่นมากกว่าทุกปี ฯลฯ
นายสัตวแพทย์ ถนอมศักดิ์ กล่าวว่า สมาคมมีทั้งหมด 7 สาขาทั่วประเทศแต่ พล.อ.เชษฐา ในฐานะที่เข้ารับตำแหน่งใหม่ก็เลือกที่จะเดินทางไปเยือนชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ก่อนเป็นแห่งแรก ดังนั้นจึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีอย่างยิ่ง
ด้าน พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับพม่าเพราะมีชายแดนติดกันกว่า 2,801 กิโลเมตร และพม่ามีประชากรกว่า 55 ล้านคน ประเทศไทยมีกว่า 64 ล้านคน รวมทั้งพม่ามีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในโลกส่วนประเทศไทยมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ดังนั้น หากร่วมมือกันก็จะมีพลังในระดับนานาชาติมหาศาล แต่สภาพปัจจุบันก็ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างตามที่ทุกคนได้รับทราบ ซึ่งตนเห็นว่า ต้องใช้ความจริงใจในการพูดคุยหารือกันและจากประสบการณ์ตั้งแต่ตนเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ก็รู้ว่าความจริงใจนั้นสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศราบรื่นและสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้จริงๆ
“ตามประสาทหารก็อยากรบอยู่ แต่รบไปก็ไม่มีประโยชน์ เป็นพันธมิตรสร้างความสัมพันธ์ต่อกันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันดีที่สุด” พล.อ.เชษฐา กล่าว และว่า
แต่การลงทุนในพม่า อย่าหวังเข้าไปหาผลประโยชน์ โกงกิน ฝ่ายเดียว เพราะความลับไม่มีในโลกต้องอาศัยความจริงใจต่อกันด้วย