พะเยา – “ส.ส.เพื่อไทย” เมืองกว๊าน ถือโอกาสรุมเฉ่งมาตรการแก้ปัญหาลำไยรัฐบาล ปชป.ในเวทีติดตามการบริหารงบประมาณ ระหว่าง “ชูวิทย์” นำคณะกรรมาธิการ ลงพื้นที่พะเยา อ้างรัฐบาลแก้ปัญหาสินค้าการเกษตรไร้ประสิทธิภาพ มีผลประโยชน์แอบแฝง พร้อมเตือนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไร้ผล ชี้ ชาวบ้านบางส่วนไม่มีเอกสารสิทธิ อาจทำให้แก้ปัญหาไม่ทั่วถึงและไร้ประสิทธิภาพ
รายงานข่าวจากจังหวัดพะเยา แจ้งว่า ในการเดินทางมาติดตามการบริหารงบประมาณพยุงราคาสินค้าเกษตรในจังหวัดพะเยา ของ นายชูวิทย์ พรพิทักษ์พัลลภ ประธานคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงานงบประมาณ และคณะ เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2552 ที่ผ่านมานั้น ได้ประชุมร่วมกับ นางสาว เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ, นางสาวอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.พะเยา, นายอำเภอเชียงคำ, เกษตรจังหวัด ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสหกรณ์ และเกษตรกรในพื้นที่ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา
ตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานผลการดำเนินการช่วยเกษตรกร โดยเฉพาะลำไย ตาม 5 มาตรการหลัก และงบประมาณบริหารจัดการที่ได้รับจากรัฐบาล จำนวน 176 ล้านบาทเศษ ประกอบด้วย มาตรการสนับสนุนการซื้อลำไยสดช่อและแปรรูปลำไยเนื้อสีทอง วงเงิน 5 ล้านบาท, มาตรการชดเชยค่าขนส่งเหมาจ่ายและค่าบริหารจัดการ เป้า 8,200 ตัน, มาตรการผลัดดันการส่งออกลำไยสดไปต่างประเทศ เป้า 2,000 ตัน, มาตรการสนับสนุนเงินทุนลำไยอบแห้งทั้งเปลือก เป้า 12,792 ตัน วงเงิน 100 ล้านบาท และมาตรการส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ
การจัดงานเทศกาลลำไยเพื่อเป็นช่องทางการระบายผลผลิตออกสู่ตลาด ที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ระดับหนึ่งหลังประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ แต่ที่ผ่านมายังมีการประท้วงของเกษตรกร เนื่องราคารับซื้อไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนด
นายเขียน วรรณคำ ผู้แทนเกษตรกร อ.เชียงคำ ระบุว่า การแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรของรัฐบาล ยังไม่ถูกจุดนัก โดยเฉพาะ ลำไย ตามมาตรการต่างๆ ของรัฐในขณะนี้ เพราะยังขาดความต่อเนื่องของการรับซื้อ และสหกรณ์ไม่สามารถรับซื้อตามราคาที่รัฐกำหนดได้ เพราะจะทำให้สหกรณ์ประสบปัญหาการเงินได้ ไม่ต่างจากเกษตรกร แต่อยากแนะให้รัฐบาล ใช้วิธีการประกันราคาเหมือนข้าว
นอกจากนี้ ยังควรที่จะมีการตั้งกองทุน เช่นเดียวกับยางพารา พร้อมทั้งขอความจริงใจในการแก้ไขโดยการลงพื้นที่มารับทราบปัญหาของเกษตรกร นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ถูต้อง และตรงความต้องการของเกษตรกรมากที่สุด
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.พะเยา กล่าวว่าตนในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ทราบปัญหาของเกษตรกรดี แต่การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ไร้ประสิทธิภาพ แก้ไม่ตรงจุด ทำให้เกิดปัญหาประท้วงของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพราะไม่ตรงความต้องการของเกษตรกร แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะทำงานอย่างเต็มที่ ทั้ง ผวจ.-เจ้าหน้าที่เกษตร ตนรู้ดี เพราะทุกครั้งที่มีการประท้วงตนจะร่วมกับ ผวจ.และเจ้าที่เกษตร มาโดยตลอดในการรับทราบปัญหาและประสานกับรัฐขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่เป็นผลนัก โดยตนเชื่อว่าคนในรัฐบาลน่าจะมีส่วนได้เสียกับมาตรการของรัฐโดยเฉพาะเงิน 2,000 ล้านบาท และเชื่อด้วยว่าเงินหายไปมากก่อนจะถึงมือเกษตร
ด้าน นายชูวิทย์ กล่าวว่า การแก้ไขหาสินค้าทางการเกษตรของรัฐบาล ขณะนี้เหมือน “เกาไม่ถูกที่คัน” มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่เป็นที่ต้องการของเกษตรกร ทำให้มาตรการการช่วยเหลือไร้ผล โดยตนเองเห็นว่าเงิน จำนวน 2,000 ล้านบาท น่าจะนำมาใช้ในการประกันราคาผลผลิตทางการเกษตรมากกว่า
พร้อมทั้งเตือนรัฐบาลว่า การขึ้นทะเบียนการเกษตรกรเพื่อใช้ฐานข้อมูลให้ความช่วยเหลือของรัฐบาลนั้น ระวังเจอปัญหาราษฎรไม่มีเอกสารสิทธิ์เนื่องจากมีราษฎรไม่น้อยที่ทำการเกษตรกรบนดอย เพราะคนเหล่านี้จะไม่เข้าเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือของรัฐบาล จะทำให้การแก้ไขปัญหาตามมาตรการนี้ไร้ประโยชน์ ทั้งนี้ ปัญหาที่เกษตรกรเสนอทั้งหมดก็จะสะท้อนปัญหาให้รัฐบาลทราบต่อไป
สำหรับผลผลิตลำไย จ.พะเยา ปีนี้ มีทั้งสิ้น 29,881 ตัน มากสุดที่ อ.เชียงคำ 13,278 ตัน ผลผลิตที่รอเก็บเกี่ยวประมาณ 7,191 ตัน ราคารับซื้อล่าสุด เกรด AA กิโลกรัมละ 9 บาท, เกรด A 5 บาท และเกรด B 3 บาท
