พะเยา – เกษตรกรเกษตรกรผู้ปลูกลำไยพะเยา ลั่นหากรัฐบาลไม่อนุมัติซื้อราคา 12-8-4 และประกันราคาลำไยแห้งตามข้อเสนอ พร้อมยกพลยึดที่ว่าการอำเภอ-ศาลากลางจังหวัดทันทีตั้งแต่ 28 ก.ค.นี้ ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทย ขู่สำทับต่อ ม็อบลำไยลุกฮือพร้อมกัน 8 จังหวัดภาคเหนือแน่ ยันเกษตรกรมีมติร่วมแล้ว
วันนี้ (24 ก.ค.) นายสุนทร คำภูมี แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย บ้านไร่แสนสุข และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ทุ่งผาสุก อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหลังจากที่ตนพร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรใน อ.เชียงคำ ส่วนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอรัฐบาลดำเนินการประกันราคาลำไยให้กับเกษตรกรในอัตรา กก.ละ 12-8-4 เรียงเกรดจากเอเอ, เอ และบี ตามลำดับ
ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล พวกตนจึงได้หารือกันและมีมติว่าจะนัดรวมตัวเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่จังหวัดพะเยาทั้งหมด 9 อำเภอ รวมตัวกัน ณ ที่ว่าการ อ.เชียงคำ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 52 ซึ่งจะมีตัวแทนกลุ่มเกษตรกร เกษตรกรจำนวนไม่น้อยกว่า 3,000 คน มาแสดงพลังกดดันรัฐบาล ด้วยปิดทางเข้า-ออกที่ว่าการ อ.เชียงคำ เพื่อกดดันรัฐบาลเป็นเวลา 2 วัน
“ข้อเสนอที่กลุ่มเกษตรกรต้องการ คือ 1.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการประกันราคาลำไยสดร่วง กก.ละ 12-8-4 จากเกรด เอเอ-เอ-บี ตามลำดับ และ 2.ให้รัฐบาลประกันราคาลำไยอบแห้ง กก.ละ 48-50 บาท หากไม่ดำเนินการนับจากนี้ไป วันที่ 28 กรกฎาคม เกษตรกรจากทั่วพื้นที่ จ.พะเยา 3,000 คน จะปิดล้อมที่ว่าการ อ.เชียงคำ ทันที และหากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรอีก ในวันที่ 30 กลุ่มผู้ชุมนุมจะขยับไปปิดทางเข้า-ออก ศูนย์ราชการจังหวัดพะเยา ต่อไป” นายสุนทร กล่าว
แกนนำเกษตรกรบ้านไร่แสนสุข กล่าวและย้ำว่า การกดดันครั้งนี้พวกตนไม่เรียกร้องให้นายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ออกมารับหน้า เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ต้องการพบเพียง 3 คน เท่านั้น คือ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 2.นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 3.นางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หากพ้นจากสามคนนี้พวกตนจะไม่รับฟังผู้ใดทั้งสิ้น
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนทราบว่าว่ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่มีเครือข่ายทั่ว 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้มีมติกดดันรัฐบาลพร้อมกันในวันที่ 28 กรกฎาคม ด้วยการยึดที่ว่าการอำเภอซึ่งเป็นจุดใหญ่ๆ ในพื้นที่แต่ละจังหวัด แต่จะไม่ปิดถนนเพราะกลัวประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อน หากรัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหาต้องเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเกษตรกร
“ปัญหาลำไยไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ แต่เกิดมาเกือบทุกปี ทุกรัฐบาล ดังนั้น เมื่อมีแนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลควรเร่งมือ หากเกรงว่าในมาตรการประกันราคาต่างๆ จะเกิดช่องโหว่ในการคอรัปชั่นของข้าราชการหรือนักการเมือง ตรงนั้นรัฐบาลต้องมีมาตรการออกมาตรวจสอบอย่างเข้มงวดควบคู่กันไป”
วันนี้ (24 ก.ค.) นายสุนทร คำภูมี แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไย บ้านไร่แสนสุข และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.ทุ่งผาสุก อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหลังจากที่ตนพร้อมด้วยตัวแทนเกษตรกรใน อ.เชียงคำ ส่วนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอรัฐบาลดำเนินการประกันราคาลำไยให้กับเกษตรกรในอัตรา กก.ละ 12-8-4 เรียงเกรดจากเอเอ, เอ และบี ตามลำดับ
ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล พวกตนจึงได้หารือกันและมีมติว่าจะนัดรวมตัวเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่จังหวัดพะเยาทั้งหมด 9 อำเภอ รวมตัวกัน ณ ที่ว่าการ อ.เชียงคำ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 52 ซึ่งจะมีตัวแทนกลุ่มเกษตรกร เกษตรกรจำนวนไม่น้อยกว่า 3,000 คน มาแสดงพลังกดดันรัฐบาล ด้วยปิดทางเข้า-ออกที่ว่าการ อ.เชียงคำ เพื่อกดดันรัฐบาลเป็นเวลา 2 วัน
“ข้อเสนอที่กลุ่มเกษตรกรต้องการ คือ 1.ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการประกันราคาลำไยสดร่วง กก.ละ 12-8-4 จากเกรด เอเอ-เอ-บี ตามลำดับ และ 2.ให้รัฐบาลประกันราคาลำไยอบแห้ง กก.ละ 48-50 บาท หากไม่ดำเนินการนับจากนี้ไป วันที่ 28 กรกฎาคม เกษตรกรจากทั่วพื้นที่ จ.พะเยา 3,000 คน จะปิดล้อมที่ว่าการ อ.เชียงคำ ทันที และหากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรอีก ในวันที่ 30 กลุ่มผู้ชุมนุมจะขยับไปปิดทางเข้า-ออก ศูนย์ราชการจังหวัดพะเยา ต่อไป” นายสุนทร กล่าว
แกนนำเกษตรกรบ้านไร่แสนสุข กล่าวและย้ำว่า การกดดันครั้งนี้พวกตนไม่เรียกร้องให้นายอำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ออกมารับหน้า เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ต้องการพบเพียง 3 คน เท่านั้น คือ 1.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี 2.นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 3.นางพรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หากพ้นจากสามคนนี้พวกตนจะไม่รับฟังผู้ใดทั้งสิ้น
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนทราบว่าว่ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่มีเครือข่ายทั่ว 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้มีมติกดดันรัฐบาลพร้อมกันในวันที่ 28 กรกฎาคม ด้วยการยึดที่ว่าการอำเภอซึ่งเป็นจุดใหญ่ๆ ในพื้นที่แต่ละจังหวัด แต่จะไม่ปิดถนนเพราะกลัวประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อน หากรัฐบาลจริงใจในการแก้ปัญหาต้องเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเกษตรกร
“ปัญหาลำไยไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ แต่เกิดมาเกือบทุกปี ทุกรัฐบาล ดังนั้น เมื่อมีแนวทางการแก้ปัญหา รัฐบาลควรเร่งมือ หากเกรงว่าในมาตรการประกันราคาต่างๆ จะเกิดช่องโหว่ในการคอรัปชั่นของข้าราชการหรือนักการเมือง ตรงนั้นรัฐบาลต้องมีมาตรการออกมาตรวจสอบอย่างเข้มงวดควบคู่กันไป”
