พะเยา – “ส.ส.เพื่อไทยพะเยา” ขู่นำชาวสวนลำไยยึดที่ว่าการอำเภอ – ศาลากลางจังหวัด ภายในวันที่ 25 และ 28 ก.ค.นี้หากรัฐไม่ยอมแก้ปัญหาราคาตกต่ำ ลั่นคำประกาศสวยหรู “พร้อมติดคุกแทนชาวบ้าน” ขณะที่จังหวัดระดมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องหารือร่วมเกษตรกร วอนอย่ารีบเก็บลำไย รอออเดอร์จีนก่อน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือของ พท. ได้ร่วมกันแถลงข่าวกดดันรัฐบาลให้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในภาคเหนือที่กำลังประสบความเดือดร้อนราคาลำไยตกต่ำในขณะนี้ โดยแต่ละพื้นที่จะมีมาตรการในการกดดันที่แตกต่างกันไปนั้น
สำหรับจังหวัดพะเยาเบื้องต้นได้มีการหารือถึงรูปแบบการกดดันรัฐบาลแล้ว คือ ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 52 หากรัฐบาลไม่ดำเนินการช่วยเหลือประกันราคาลำไยตามที่เกษตรกรร้องขอคือ กก.ละ 12-8-4 โดยเรียงจากเกรด เอเอ , เอ และ บี ตามลำดับ เกษตรกรจะรวมตัวกันยึดที่ว่าการอำเภอแต่ละแห่ง จากนั้นหากไม่ได้รับคำตอบอีกภายในวันที่ 28 กรกฎาคม เกษตรกรจะเดินหน้ารวมตัวกดดันครั้งใหญ่โดยยึดศูนย์ราชการจังหวัดทันที
“สาเหตุที่ผมไม่ให้กลุ่มเกษตรกรปิดถนนประท้วงรัฐบาล เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้สัญจรมาพะเยา หากปิดถนนคนที่เดือดร้อนคือคนพะเยา ดังนั้นจึงเลือกการยึดที่ว่าการอำเภอและศูนย์ราชการจังหวัดแทน” ส.ส.พะเยา กล่าวและว่า
หากการปฏิบัติการครั้งนี้รัฐบาลมองว่าเกษตรกรผู้เดือดร้อนมีความผิดที่ยึดสถานที่ราชการ ตนพร้อมด้วย ส.ส.พะเยา ทั้งสามคน พร้อมที่จะติดคุกเพื่อประชาชนโดยไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ราคาลำไยที่ตกต่ำต่อเนื่อง น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้นำทีมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาลำไย ปี 2552 ประกอบด้วย เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์จังหวัด ประชุม ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เชียงบาน อ.เชียงคำ เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.)โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกลำไย และเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตร อ.เชียงคำ อ.ภูซาง ทั้งหมดประมาณ 200 คน เข้าร่วม เพื่อชี้แจงมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่สองอำเภอดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้ร้องขอให้เกษตรกรอย่ารีบเก็บลำไย ให้ทยอยเก็บเพราะจุดรับซื้อของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการซื้อในราคาประกันคือ กก.ละ 12-8-4 ได้เริ่มซื้อมาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมแล้ว แต่เนื่องจากบางแห่งปิดป้ายประกาศไม่ชัดเจนรวมถึงออเดอร์รับซื้อแต่ละวันไม่เพียงพอ ทำให้เกษตรกรไม่สามารถขายลำไยได้ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ จังหวัดกำลังประสานงานกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่ประกอบการส่งออกลำไยสดช่อไปยังประเทศจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดต่อประสานงาน เพื่อตกลงทำสัญญารับซื้อลำไยสดช่อในราคาสูงกว่าลำไยร่วงคาดว่า จะได้คำตอบภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 52
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือของ พท. ได้ร่วมกันแถลงข่าวกดดันรัฐบาลให้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในภาคเหนือที่กำลังประสบความเดือดร้อนราคาลำไยตกต่ำในขณะนี้ โดยแต่ละพื้นที่จะมีมาตรการในการกดดันที่แตกต่างกันไปนั้น
สำหรับจังหวัดพะเยาเบื้องต้นได้มีการหารือถึงรูปแบบการกดดันรัฐบาลแล้ว คือ ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 52 หากรัฐบาลไม่ดำเนินการช่วยเหลือประกันราคาลำไยตามที่เกษตรกรร้องขอคือ กก.ละ 12-8-4 โดยเรียงจากเกรด เอเอ , เอ และ บี ตามลำดับ เกษตรกรจะรวมตัวกันยึดที่ว่าการอำเภอแต่ละแห่ง จากนั้นหากไม่ได้รับคำตอบอีกภายในวันที่ 28 กรกฎาคม เกษตรกรจะเดินหน้ารวมตัวกดดันครั้งใหญ่โดยยึดศูนย์ราชการจังหวัดทันที
“สาเหตุที่ผมไม่ให้กลุ่มเกษตรกรปิดถนนประท้วงรัฐบาล เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้สัญจรมาพะเยา หากปิดถนนคนที่เดือดร้อนคือคนพะเยา ดังนั้นจึงเลือกการยึดที่ว่าการอำเภอและศูนย์ราชการจังหวัดแทน” ส.ส.พะเยา กล่าวและว่า
หากการปฏิบัติการครั้งนี้รัฐบาลมองว่าเกษตรกรผู้เดือดร้อนมีความผิดที่ยึดสถานที่ราชการ ตนพร้อมด้วย ส.ส.พะเยา ทั้งสามคน พร้อมที่จะติดคุกเพื่อประชาชนโดยไม่มีเงื่อนไข
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ราคาลำไยที่ตกต่ำต่อเนื่อง น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้นำทีมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาลำไย ปี 2552 ประกอบด้วย เกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์จังหวัด ประชุม ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เชียงบาน อ.เชียงคำ เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.)โดยมีเกษตรกรผู้ปลูกลำไย และเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตร อ.เชียงคำ อ.ภูซาง ทั้งหมดประมาณ 200 คน เข้าร่วม เพื่อชี้แจงมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ปลูกลำไยในพื้นที่สองอำเภอดังกล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้ร้องขอให้เกษตรกรอย่ารีบเก็บลำไย ให้ทยอยเก็บเพราะจุดรับซื้อของภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการซื้อในราคาประกันคือ กก.ละ 12-8-4 ได้เริ่มซื้อมาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคมแล้ว แต่เนื่องจากบางแห่งปิดป้ายประกาศไม่ชัดเจนรวมถึงออเดอร์รับซื้อแต่ละวันไม่เพียงพอ ทำให้เกษตรกรไม่สามารถขายลำไยได้ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้ จังหวัดกำลังประสานงานกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่ประกอบการส่งออกลำไยสดช่อไปยังประเทศจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดต่อประสานงาน เพื่อตกลงทำสัญญารับซื้อลำไยสดช่อในราคาสูงกว่าลำไยร่วงคาดว่า จะได้คำตอบภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 52