xs
xsm
sm
md
lg

ฉะเชิงเทราตั้ง คกก.ลงตรวจสอบพื้นที่ตะเข็บป่ารอยต่อ 5 จังหวัดหลังชาวบ้านร้องถูกแย่งที่ทำกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่งตั้งคณะกรรมการลงตรวจสอบปัญหาพื้นที่ป่าตะเข็บรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออกแล้ว หลังชาวบ้านยื่นหนังสือร้องเรียนพ่อเมือง ถูกกรมป่าไม้กลั่นแกล้ง บุกยึดแย่งที่ทำกินปลูกป่าทับซ้อน พร้อมลงตรวจสอบพื้นที่ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 คนเข้าร่วมสังเกตการณ์

วันนี้( 5 ส.ค.52) เวลา 15.00 น. คณะกรรมการแก้ไขปัญหาราษฎรร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปลูกป่าในที่ดินทำกินของราษฎร ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา นายอำเภอสนามชัยเขต สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 ปราจีนบุรี ปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ฉช.6(นายาว) หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ฉช.8(นาอิสาน) หัวหน้าโครงการฟื้นฟูป่าต้นน้ำลุ่มน้ำบางปะกง

ซึ่งมี นายชูเกียรติ วงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานกรรมการ ได้เดินทางเข้าไปดูปัญหาที่เกิดขึ้นตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ในพื้นที่จริง แนวตะเข็บป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก พื้นที่ ม.15 ม.16 ม.18 และ ม.19 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยกำนันผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้าน

หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่เดินทางมาชุมนุมเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิทำกิน บนพื้นที่ บริเวณแนวป่ากันชนป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดที่ผ่านมาว่า ได้ถูกเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ฉช.8 บ้านนาอิสาน ซึ่งมีนายปรีชา จุลฬา เป็นหัวหน้าชุด นำเจ้าหน้าที่พร้อมคนงานลูกจ้างเข้าทำการบุกยึดที่ดินทำกินของชาวบ้านที่ครอบครองมานานกว่า 25 ปี นำไปปลูกป่าทับซ้อนบนไร่-นา ของชาวบ้าน พร้อมสั่งห้ามไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินบนผืนแผ่นดินดังกล่าวอีกต่อไป

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ นายวัยชัย เหมือนประสงค์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหา กล่าวว่า การลงมาในพื้นที่วันนี้เพื่อเป็นการมาสำรวจข้อเท็จจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียนไป ว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะนำเสนอไปยังหน่วยเหนือ เพื่อหาทางแก้ไข จากการเข้าดูพื้นที่แล้วพบว่าน่าเชื่อว่าชาวบ้านเข้ามาครอบครองพื้นที่บริเวณนี้มานานหลายปีแล้ว ซึ่งจะต้องหาข้อมูลทั้งสองฝ่ายในการนำเสนอต่อไปยังจังหวัด


กำลังโหลดความคิดเห็น