ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแนวตะเข็บรอยต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา-สระแก้ว ใกล้แนวป่ากันชนเขตรอยต่อป่า 5 จังหวัดภาคตะวันออกเดินทางไกลนับร้อยกิโลเมตรบุกถึงหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา หวังพบพ่อเมืองให้ช่วยไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน หลังอ้างถูกเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้ง เข้ารื้อถอนหลักเขตไร่นายึดพื้นที่กลับไปปลูกป่า ทั้งที่ชาวบ้านอยู่อาศัยทำกินมานานหลายสิบปี พร้อมแฉขณะที่ดินถูกบุกรุกใหม่ในผืนป่าของพวกพ้องกลับทำเมินมองไม่เห็น
วันนี้ (3 ส.ค.) เวลา 13.00 น.ที่บริเวณสนามหญ้า หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้าน พื้นที่ (ม.15, 16, 18, 19) บ้านนายาว บ้านนางาม บ้านอิสาน บ้านคลองเตย ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และหมู่บ้านท่าเต้น จ.สระแก้ว จำนวนกว่า 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรม ต่อ นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมได้นำรถยนต์ติดเครื่องขยายเสียง กล่าวปราศรัยถึงความเดือดร้อนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของชาวบ้าน
โดย นายสาธิต ยืนสุข อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 434 ม.19 ต.ท่ากระดาน หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า การมาชุมนุมในครั้งนี้ เพื่อต้องการเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ 5 หมู่บ้านรวมกว่า 200 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้กลั่นแกล้ง ด้วยการยึดพื้นที่ดินทำกิน ซึ่งมีทั้งที่ดิน ส.ป.ก.และที่ดิน ทบ.5 ที่ใช้ทำกินมานานกว่า 25 ปี จำนวนกว่า 2,000 ไร่ ไปใช้ในการปลูกป่า หลังจากได้รับงบประมาณมา แต่หาที่ปลูกป่าแห่งใหม่ไม่ได้ จึงได้เข้ามายึดพื้นที่ทำไร่มัน และนาข้าว ของชาวบ้านไปใช้ในการปลูกป่าแทน
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ของกลุ่มนายทุน และพวกพ้อง ที่มีการใช้เครื่องจักรกลรถแทรกเตอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือทำการเกษตรอันทันสมัย บุกรุกเข้าทำลายและยึดครองผืนป่าแห่งใหม่ เจ้าหน้าที่ป่าไม้กลุ่มนี้กลับมองไม่เห็น และไม่กล้าเข้าไปทำอะไรกลับกลุ่มของนายทุนเหล่านี้ แต่กลับมารังแกชาวบ้านที่ไม่มีหนทางต่อสู้
การเดินทางมาในครั้งนี้ จึงต้องการเข้ามาเสนอปัญหาให้แก่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้ โดยจะขอเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย กับ นายปรีชา จุลฬา หัวหน้าป่าไม้บ้านนาอิสาน ซึ่งนำรถแทรกเตอร์เข้าไปไถต้นไม้ทำลายป่าซึ่งมีอยู่เดิม อยู่แล้วจำนวนมากทิ้ง แต่กลับใช้งบประมาณปลูกป่าที่ได้รับมา เข้าไปปลูกป่าทดแทนเพียงเล็กน้อยบางส่วน ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า โดยขอให้ทางราชการมีการตรวจสอบงบประมาณรายจ่ายรายรับในการปลูกป่าแห่งนี้ด้วย
และการกระทำของ นายปรีชา จุลฬา ถือว่าผิดรัฐธรรมนูญปี 50 หมวด 5 มาตรา 85 ข้อ 2 รัฐต้องกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม และขัดมติ ครม.ปี 2535 การให้ประชาชนออกจากพื้นที่ไม่ว่ากรณีใดๆ จะต้องมีค่าขนย้าย และต้องมีพื้นที่รองรับใช้ประชาชน และขอให้ผู้ว่าฯ แต่งตั้งกรรมการภาครัฐร่วมกับประชาชนสำรวจพื้นที่และปักปันเขตแดนให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการบุกรุกพื้นที่ตามแนวชายป่าระหว่างกัน ของเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน
สำหรับพื้นที่ทำกินของพวกตนทั้งหมดนี้ ซึ่งเป็นคนไทยที่อพยพมาจากทางภาคอีสาน ด้วยการขายที่ดินของบรรพบุรุษ ซึ่งแห้งแล้งกันดารในสมัยนั้น เพื่อนำเงินมาซื้อที่อยู่ที่ทำกินแห่งใหม่ ในบริเวณนี้ คนละ 15 -30 ไร่ เมื่อปี พ.ศ.2527 ในราคาไร่ละ 6,000 บาท แต่กลับมาถูกเจ้าหน้าที่รัฐกลั่นแกล้งยึดเอาที่ดินไปอย่างไม่เป็นธรรม ในวันนี้จึงต้องการให้ทางภาครัฐช่วยแก้ไขปัญหาให้