“นอภ.-รองผู้ว่าฯตาก” เรียงหน้าโต้ข่าวข้าวเปื้อนแคดเมียมทะลักตลาดต่างจังหวัด

ตาก- นายอำเภอแม่สอด-รองผู้ว่าฯ ออกโรงโต้ข่าวข้าวปนเปื้อน ยืนยันไม่มีข้าวเปื้อนแคดเมียมจากพื้นที่แม่ตาว ออกจำหน่ายต่างจังหวัด ตามที่เป็นข่าว ชี้ ในพื้นที่ยังต้องสั่งซื้อข้าวจากสุโขทัยและพม่ามาบริโภค แถมพบแคดเมียมปริมาณ 0.4 มิลลิกรัมต่อ กก.เท่านั้น


วันนี้ (4 ส.ค.) นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวชี้แจงถึงกรณีมีข่าว ว่า พบข้าวที่นำออกไปจำหน่ายในต่างจังหวัด-กรุงเทพฯ และต่างประเทศ ปนเปื้อนสารแคดเมียม มาจากแหล่งพื้นที่ปลูกที่ตำบลแม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวน 70,000-100,000 ตัน ว่า ไม่มีข้าวปนเปื้อนสารแคดเมียมจากพื้นที่ ต.แม่ตาว-พระธาตุผาแดง ต.แม่กุ อ.แม่สอด ไปจำหน่ายในต่างพื้นที่อย่างแน่นอน ข่าวที่ออกไปนั้นเชื่อว่ายังไม่ได้มีการตรวจสอบหรือกรองข่าวก่อน

ทั้งนี้ เนื่องจากข้อเท็จจริงแล้วในพื้นที่นั้น มีพื้นที่เพาะปลูกทำการเกษตรทุกชนิด 13,237 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว ปี 2551-2552 จำนวน 4,771 ไร่ หรือประมาณ 497 แปลง จำนวนผลผลิตประมาณ 1,500 ตัน และเป็นพื้นที่สำรวจพบสารปนเปื้อนแคดเมียมเพียง 1,583 ไร่ แยกเป็นตำบลแม่ตาว 760 ไร่ - แม่กุ 436 ไร่ และ ต.พระธาตุผาแดง 386 ไร่

จากการสำรวจพบข้าวปนเปื้อนเกินปริมาณ 0.4 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จำนวน 585 ตัน จาก 3 ตำบล และในจำนวนนี้บริษัทแม่สอดพลังงานสะอาด จำกัด ที่ดำเนินการให้เกษตรกรปลูกอ้อยผลิตเอทานอล ได้ซื้อเพื่อทำลายจำนวน 59 ตัน เป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท และส่วนที่เหลือนั้นประชาชนที่ปลูกได้นำไปบริโภคเอง และที่ผ่านมา เกษตรกรทำนาข้าวได้ผลผลิตน้อยเนื่องจากเกิดปัญหาปั่ว

“ในปี 2552 นี้ ประชาชนในพื้นที่ได้บริโภคข้าวสารที่ซื้อจากสุโขทัยและพม่า เนื่องจากข้าวมีปริมาณไม่พอบริโภคในพื้นที่ จึงต้องสั่งซื้อจากต่างพื้นที่ ซึ่งไม่ตรงกับข่าวที่ออกไปว่า พบข้าวปนเปื้อนแคดเมียม จาก ต.แม่ตาว-แม่กุ-ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปจำหน่ายต่างพื้นที่ และอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไปต่างประเทศ เกี่ยวกับปัญหาโรคกรวยไตอักเสบหรืออิไตอิไต” นายอำเภอแม่สอด กล่าวและว่า

นายอำเภอแม่สอด กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนทูตพาณิชย์จากประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาดูการทำงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนแคดเมียมในข้าว ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และพอใจต่อการบริหารจัดการการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี และทราบดีว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกกินเอง ไม่มีการส่งออกไปจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากจะมีการเปรียบเทียบปริมาณและสัดส่วนการปลูกข้าวทั่วประเทศกว่า 1 ล้านไร่ พบสารปนเปื้อนแคดเมียมเพียง 1,500 ไร่ หรือคิดเป็น 0.0002% เท่านั้น และเมื่อปีที่ผ่านมา บริษัท ผาแดง อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ได้มีการชดเชยเงินจำนวน 15 ล้านบาท ให้เกษตรกร และดำเนินยุทธศาสตร์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ไปใช้ในการปลูกข้าว ซึ่งจะส่งผลให้การดูดซึมน้อยลง และจะทำให้พบแคดเมียมลดลงหรืออาจจะไม่พบเลย

ในอนาคตหากการปลูกอ้อยทดแทนการปลูกข้าว ในปี 2553 ได้ผลดี โรงงานผลิตเอทานอลสามารถเดินเครื่องได้เต็มรูปแบบ จะทำให้เกษตรกรหันมาปลูกอ้อยทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาข้าวเปื้อนอีกต่อไป

ด้าน นายเชิดศักดิ์ ชูศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ที่ดูแลเรื่องปัญหาแคดเมียมปนเปื้อนในข้าวก็ได้ ออกมาปฏิเสธข่าว เรื่องการพบข้าวปนเปื้อนแคดเมียมในข้าวที่ อ.แม่สอด และชี้แจงว่า ไม่มีข้าวจากพื้นที่แม่สอด ไปจำหน่ายในต่างพื้นที่อย่างแน่นอน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบข่าวให้ดี เพราะข่าวที่ออกไปนั้นสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นเรื่องจริง