xs
xsm
sm
md
lg

เสื้อแดงเหนือแย่งผลงานกันออกนอกหน้ากลางเวทีเชียงราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - แกนนำเสื้อแดงแย่งผลงานกันอย่างออกนอกหน้ากลางเวทีที่เชียงราย เผยตัวแทนเสื้อแดงเมืองกว๊านฯ ชิงบทเสนอหน้าบนเวที หวั่นหลุดขบวนหลัง “แม้ว” โฟนอิน เผยผู้ปราศรัยส่วนใหญ่เลือกหยิบประเด็นเพียงบางเสี้ยวขึ้นกล่าวบนเวทีปลุกระดมชาวบ้าน โดยไม่ยอมอธิบายถึงที่มา ที่ไปแต่ละเรื่องให้ครบถ้วน

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ค่ำวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ลานหน้าโรงสีข้าวภายในบริเวณบ้านของนายสฤษฎ์ อึ้งอภินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย ได้จัดเวทีคอนเสิร์ต “ผู้รักประชาธิปไตยเชียงราย ทักษิณจะกลับมาพบกับท่านเร็วๆ นี้” ซึ่งจัดโดยกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยเชียงราย กลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตยและกลุ่มเสียงประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะที่กลุ่มอื่นๆ นำมวลชนเข้าไปสนับสนุน เช่น กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กลุ่มเสื้อแดงจาก อ.ฝาง และ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ กลุ่มพะเยา 51 กลุ่มพะเยารักประชาธิปไตย และกลุ่มพะเยาเพื่อประชาธิปไตย ฯล

ปรากฏว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจากพะเยาใช้เวทีนี้เปิดศึกแย่งผลงานกันอย่างรุนแรง เนื่องจากเวทีดังกล่าวมีการประชาสัมพันธ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินเข้ามา ทำให้บรรดา ส.ส.เชียงราย หลายคนรวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่มพยายามเข้าไปมีบทบาทบนเวที ไม่ว่าจะเป็นนายสฤษฎ์ เจ้าบ้าน น.ส.ละออง ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย เขต 3 พรรคเพื่อไทย น้องสาวนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย เขต 2 พรรคเพื่อไทย นายถาวร ตรีรัตน์ณรงค์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย 1 ในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 รวมทั้งแกนนำจากส่วนกลาง เช่น นายแพทย์เหวง โตจีราการ -นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ฯลฯ

แต่ละคนดังกล่าวได้ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอิน ซึ่งมีเนื้อหาส่วนใหญ่ในการโจมตีการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน พุ่งเป้าใหญ่ไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยและ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.รวมทั้ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และน่าสังเกตว่าการปราศรัยของทุกคนจะไม่ลงรายละเอียดทั้งหมดของเรื่องราว เลือกที่จะหยิบยกขึ้นมาพูดบางส่วนที่เป็นผลดีต่อฝ่ายตนเท่านั้น

นายสมชัย แสงทอง เลขาธิการกลุ่มเสียงประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ระบุในทำนองว่ากลุ่มมีปัญหาเรื่องเงินทุนในการขับเคลื่อน จึงจะตั้งศูนย์แต่ละอำเภอเพื่อการพบปะหารือกันคล้ายร้านกาแฟและขายสินค้าโอทอป เมื่อพรรคเพื่อไทย ได้กลับไปเป็นรัฐบาลก็อาจจะมีรัฐมนตรีแวะเวียนไปพบ

ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงจาก อ.ฝาง และ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ นำโดยหนานคำปัน ได้แต่งชุดสีดำขึ้นเวทีอ้างว่าไว้ทุกข์กับคนที่เกิดวันที่ 3 ส.ค.ซึ่งสื่อไปถึงนายอภสิทธิ์ จากนั้นได้ปราศรัยโจมตี ก่อนสรุปท้ายว่า “ค้นหาความถูกต้อง ปกป้องประชาธิปไตย เอานายใหญ่ของกูคืนมา” ซึ่งหมายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง

ด้านกลุ่มคนเสื้อแดงจาก จ.พะเยา ก็แสดงความแตกแยกบนเวทีกันอย่างหนัก โดยกลุ่มพะเยา 51 และกลุ่มพะเยาเพื่อประชาธิปไตย ได้ปราศรัยว่า ในพื้นที่พะเยามีเพียงคนเสื้อแดง 2 กลุ่มเท่านั้นที่ได้รับการรับรองและสนับสนุนจาก ส.ส.ทำให้นายจีรโรจน์ กีรติศักดิ์วรกุล ประธานกลุ่มพะเยารักประชาธิปไตย รีบเดินขึ้นไปเปิดตัวบนเวทีต่อทันที และประกาศว่าตนก็มาจากพะเยาเช่นกัน ขณะที่อีก 2 กลุ่มที่เหลือก็รีบลงจากเวทีไปในลักษณะที่แย่งผลงานกันอย่างชัดเจน

ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้าไปที่เวทีคนเสื้อแดงในช่วงค่ำ ว่าที่เชียงรายมีพวกคนที่กลัวนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน จึงทำให้ประชาชนยากลำบาก มีการกล่าวเป็นเท็จต่อนายยงยุทธ เพราะที่เชียงรายเลือกตั้ง ส.ส.จากพรรคเดียวกันทุกเขตมาตลอด รวมทั้งระบุว่า “บ้านเมืองยุ่งเพราะโรคขี้กลัว” โดยไม่ได้ระบุว่าข้อหาของนายยงยุทธ คือการพาคนไปซื้อเสียงเพื่อหวังผลการเลือกตั้งให้พรรคพลังประชาชนได้รับการเลือกตั้งเข้าไป

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงอีกว่า คนเหล่านี้กลัวว่าหากตนกลับจะไประเทศไทยจะถูกล้างแค้น ทั้งๆ ที่ตนได้อโหสิกรรมให้หมดแล้ว แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้เล่าว่าช่วงที่รัฐบาลนอมินีของตัวเองคือพรรคพลังประชาชนบริหารประเทศนั้นได้โยกย้ายข้าราชการฝ่ายตรงกันข้ามออกไปเป็นจำนวนมาก

พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุอีกว่า ตนอยากกลับประเทศไทยมากและขอบคุณผู้ที่ร่วมลงนามถวายฎีกา เมื่อได้ยินจากนายจตุพร พรมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งว่าได้รายชื่อกว่า 5 ล้านกว่ารายชื่อแล้วก็ทำให้หัวใจพองโต ส่วนกระทรวงมหาดไทยก็ไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตยกลับไปคัดค้านเพราะกลัวซึ่งน่ารำคาญมาก ดังนั้นขอให้ประชาชนเข้มแข็งไว้เพื่อให้ตนกลับประเทศไทยในเร็วๆ นี้

ช่วงหนึ่งนายแพทย์เหวง โตจิราการ ซึ่งอยู่บนเวทีด้วยได้ถามว่าจะกลับมาได้เมื่อไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบว่า “พยายามครับแต่ก็แล้วแต่ประชาชน” โดยเปรียบเทียบตัวเองเหมือนม้าในคอกที่อยากวิ่งเมื่อปล่อยออกมาก็จะวิ่งเต็มที่

จากนั้นได้โจมตีรัฐบาลด้วยการระบุว่าต้องแก้หนี้สินประชาชน แก้ปัญหาสาธารณสุขโดยเฉพาะหวัดหมูหรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งเป็นเรื่องหมูๆ แต่กลับทำให้แก้ไขยาก รวมทั้งระบุว่าปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำแต่รัฐบาลกลับไปขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นข้อผิดพลาด ขณะเดียวกันแนะนำให้ใช้วิธีจำนำข้าวแทนการประกันราคาและเร่งระบายข้าวก่อนที่นาปีจะออกมาเพราะจะทำให้ข้าวล้นสต็อค

ต่อมา นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทยคนบ้านเลขที่ 111 เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แจ้งบนเวทีว่ามีชาวนา อ.พาน จำนวน 3 คนถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือนเพราะปิดถนนช่วงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวนาปรังตกต่ำ สาเหตุมาจากการกลั่นแกล้งจากรัฐบาลชุดนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ตอบอย่างไม่รีรอแบบไม่ตรงประเด็นว่า ให้ครอบครัวของทั้ง 3 คนภูมิใจว่าเป็นประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแกนนำชาวนาที่เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวนาปรังทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วยนายอำพล เวียงสิมา อายุ 32 ปีบ้านเลขที่ 37 หมู่ 14 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย ส.ต.อ.ภูชิชย์ โสลา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.สันกลาง อ.พาน และนายมานิตย์ คำปุก อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 179 หมู่ 4 ต.สันติสุข อ.พาน ถูกศาล จ.เชียงราย พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาได้นำมวลชนปิดถนนสายเชียงราย-พาน บริเวณ ต.เจริญเมือง อ.พาน

ตำรวจจึงแจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.ทางหลวง และ พ.ร.บ.จราจรทางบก รวมทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มคนเสื้อแดงเลย ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้นายอำพล หนึ่งในแกนนำม็อบนาปรังดังกล่าว ก็เคยระบุว่าไม่อยากให้การเมืองมายุ่งเกี่ยวกับการเรียกร้องของพวกเขาด้วย

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังใช้มุขเดิมๆ ด้วยว่ากระบวนการยุติธรรมไทยยังมีสองมาตรฐาน “คนเสื้อแดงเราไม่มีเส้น เขามองว่าเราไม่ใช่คนไทย จึงให้เราเข้มแข็งไว้ไม่นานบ้านเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น” โดยไม่ได้ระบุว่า “เขา” ดังกล่าวหมายถึงใครและจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และในตอนท้ายระบุว่าเชื่อว่าจะได้กลับประเทศไทยในเร็วๆ นี้ ถ้าประชาชนต้องการก็ไม่น่าจะผิดหวัง

กำลังโหลดความคิดเห็น