พะเยา – เตรียมเปิดตลาดกลางยางพาราที่ “ภูซาง-เมืองกว๊าน” เร็ววันนี้ รองรับผลผลิตในพื้นที่ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังมีเกษตรกรเข้าระบบแล้วกว่า 12,000 ราย คาดอนาคตจะมีผลผลิตมากถึง 1.6 หมื่นตัน
รายงานข่าวจากจังหวัดพะเยา แจ้งว่า ระหว่างที่นายสุจินต์ สิทธิวนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร สำนักงานสงเคราะห์การทำสวนยาง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะฯได้เดินทางมาติดตามโครงการปลูกยางพาราสาธิต ที่โรงเรียนบ้านม่วงคำ อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ซึ่งสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.พะเยา สนับสนุนตั้งขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นแหล่งสาธิตและแหล่งเรียนรู้การปลูกยางพาราด้วยตนเอง แก่นักเรียน และชุมชน อีกทั้งนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายน้ำยางสนับสนุนกิจการของโรงเรียนเมื่อได้รับผลผลิตแล้ว
นายสุจินต์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำยางพารา (ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ) ปัจจุบัน (27 ก.ค.) อยู่ที่กิโลกรัมละ 58 บาทเศษ เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 26 ก.ค. ประมาณ 1 บาท เชื่อว่าเกษตรกรจะยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากต้นทุนการผลิตตกประมาณ 29 บาทต่อกิโลกรัม หากจ้างแรงงาน ก็จะเพิ่มสูงถึง 40 บาทต่อกิโลกรัม แต่อย่างไรก็ตาม หากราคาน้ำยางและยางแผ่นดิบต่างกันเกิน 2 บาท ควรทำเป็นยางแผ่นดิบ จะได้ราคาดีกว่า
ด้าน นายธงชัย รับพร ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.พะเยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในพื้นที่พะเยา ที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.พะเยาแล้ว ทั้ง 9 อำเภอ จำนวน 12,000 ราย มีพื้นที่ปลูกยางรวมทั้งสิ้น 70,000 ไร่ ส่วนใหญ่ปลูกมากที่ อ.เชียงคำ อ.ภูซาง ในจำนวนนี้สามารถกรีดน้ำยางได้แล้ว 2,200 ไร่ มีตลาดกลางประมูลยางตั้งอยู่ที่ บ้านทุ่งกล้วย อ.ภูซาง รับซื้อในราคาในกิโลกรัมละ 50 - 51 บาท ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยรับซื้อของระยอง และสงขลา หักค่าขนส่งแล้ว
ในอนาคตอันใกล้นี้องค์การสวนยาง (อสย.) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะเปิดตลาดกลางรับซื้อที่ ต.สบบง อ.ภูซาง เพื่อรองรับผลผลิตยางพารา ในอนาคตที่คาดว่าจะออกมาถึง 16,000 ตัน ซึ่งเกษตรกรจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากราคารับซื้อจะใกล้เคียงกับราคากลางมาก โดยราคาต่างกันเพียงไม่ถึง 1 บาท ล่าสุดได้รับแจ้งจาก อสย.ว่ารัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณดำเนินการแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเร็วๆนี้