บุรีรัมย์ - ชาวบ้านกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ฮือปิดล้อมหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 อ.โนนดินแดง อ้างเจ้าหน้าที่ป่าไม้ข่มขู่คุกคามพร้อมยึดจอบ เสียม และสิ่งของชาวบ้านเข้าทำกินในป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ กดดันนานกว่า 6 ชม.ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ทางอำเภอรับเรื่อง ขณะที่ป่าไม้ ยอมคืนทุกอย่างที่ยึดให้ชาวบ้าน ล่าสุดพอใจยอมสลายตัว
วันนี้ (27 ก.ค.) กลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินใน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ได้เดินทางไปรวมตัวปิดล้อมทางเข้า-ออก สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าไปข่มขู่ คุกคาม และยึดจอบ เสียม มีด และสิ่งของของชาวบ้านที่กำลังทำการแผ้วถางป่า และเพาะปลูกข้าวในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ บริเวณท้ายเขื่อนลำนางรอง ท่ามกลางการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอโนนดินแดง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจ กว่า 50 นาย คอยรักษาความปลอดภัย เกรงเกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลาย
ชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน อ้างว่า หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลงไปคุกคามข่มขู่ชาวบ้านกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าเขตปฏิรูปป่าดงใหญ่ เนื้อที่ 1,880 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันออก บ.ลำนางรอง และ บ.คลองหิน ม.4 และ ม.9 ที่ชาวบ้านได้เข้าไปทำกิน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2552 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้าน ไม่สามารถเข้าไปทำกินในพื้นที่ได้อย่างปกติ เพราะถูกรบกวนจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทั้งข่มขู่จะจับกุมชาวบ้าน พร้อมกับยึด จอบ เสียม และสิ่งของชาวบ้าน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 บอกกับชาวบ้าน ว่า ให้รอก่อนภายใน 60 วัน ทางราชการจะจัดสรรเรื่องเช่าที่ทำกินให้ชาวบ้าน อย่าเพิ่งเข้าไปดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ป่าเขตปฏิรูปป่าดงใหญ่ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าขัดกับเงื่อนไขที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แจ้งให้กับชาวบ้านเมื่อครั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงมา จ.บุรีรัมย์ บอกให้ชาวบ้านทำกินไปตามปกติ จนกว่าทางภาครัฐจะแก้ไขเรื่องการขอทำเป็นโฉนดชุมชนแล้วเสร็จ
แต่ทางสำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 กลับไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางจังหวัดแจ้งกับชาวบ้าน จนทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านลุกฮือ ปิดล้อม สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ดังกล่าว
ด้าน นายลุน สร้อยสด แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ขอให้ทางสำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 อย่าเข้าไปข่มขู่ คุกคามชาวบ้านที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าดงใหญ่
2.สิ่งของที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ยึดมาจากชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจอบ เสียม ย่าม มีด สมุดบันทึก ขอให้คืนแก่ชาวบ้านทั้งหมด และ 3.ถ้าหากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านเข้าไปทำกิน ขอให้เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 โดยตรงเท่านั้น เพราะมีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากจังหวัดอื่นหมุนเวียนกันมาลาดตระเวนตลอด เนื่องจากเกรงจะเกิดการกระทบกระทั่งกับชาวบ้าน เพราะมาจากที่อื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมวา ต่อมา นายดารา วิชัยศรี ปลัดอำเภอโนนดินแดง ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอโนนดินแดง เดินทางมา พร้อมกับ นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 เพื่อเจรจากับชาวบ้าน และรับข้อเรียกร้องของชาวบ้านทั้งหมด
นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะไม่ใช้อาวุธ และความรุนแรง เราจะเน้นสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกยึดป่าเป็นที่ทำกิน รวมทั้งกล่าวขอโทษชาวบ้าน ต่อเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กระทำลงไป พร้อมกับคืนอุปกรณ์ และสิ่งของทั้งหมดให้กับชาวบ้าน จึงทำให้ทางชาวบ้านที่รวมตัวปิดล้อม สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 นานกว่า 6 ชั่วโมง (ชม.) ต่างพอใจ และยอมสลายตัวกลับในเวลาประมาณ 13.30 น.
วันนี้ (27 ก.ค.) กลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินใน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ได้เดินทางไปรวมตัวปิดล้อมทางเข้า-ออก สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าไปข่มขู่ คุกคาม และยึดจอบ เสียม มีด และสิ่งของของชาวบ้านที่กำลังทำการแผ้วถางป่า และเพาะปลูกข้าวในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ บริเวณท้ายเขื่อนลำนางรอง ท่ามกลางการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอโนนดินแดง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และตำรวจ กว่า 50 นาย คอยรักษาความปลอดภัย เกรงเกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลาย
ชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน อ้างว่า หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลงไปคุกคามข่มขู่ชาวบ้านกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าเขตปฏิรูปป่าดงใหญ่ เนื้อที่ 1,880 ไร่ บริเวณด้านทิศตะวันออก บ.ลำนางรอง และ บ.คลองหิน ม.4 และ ม.9 ที่ชาวบ้านได้เข้าไปทำกิน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2552 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้าน ไม่สามารถเข้าไปทำกินในพื้นที่ได้อย่างปกติ เพราะถูกรบกวนจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทั้งข่มขู่จะจับกุมชาวบ้าน พร้อมกับยึด จอบ เสียม และสิ่งของชาวบ้าน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 บอกกับชาวบ้าน ว่า ให้รอก่อนภายใน 60 วัน ทางราชการจะจัดสรรเรื่องเช่าที่ทำกินให้ชาวบ้าน อย่าเพิ่งเข้าไปดำเนินการใดๆ ในพื้นที่ป่าเขตปฏิรูปป่าดงใหญ่ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าขัดกับเงื่อนไขที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แจ้งให้กับชาวบ้านเมื่อครั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงมา จ.บุรีรัมย์ บอกให้ชาวบ้านทำกินไปตามปกติ จนกว่าทางภาครัฐจะแก้ไขเรื่องการขอทำเป็นโฉนดชุมชนแล้วเสร็จ
แต่ทางสำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 กลับไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางจังหวัดแจ้งกับชาวบ้าน จนทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านลุกฮือ ปิดล้อม สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 ดังกล่าว
ด้าน นายลุน สร้อยสด แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ขอให้ทางสำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 อย่าเข้าไปข่มขู่ คุกคามชาวบ้านที่เข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าดงใหญ่
2.สิ่งของที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ยึดมาจากชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นจอบ เสียม ย่าม มีด สมุดบันทึก ขอให้คืนแก่ชาวบ้านทั้งหมด และ 3.ถ้าหากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านเข้าไปทำกิน ขอให้เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 โดยตรงเท่านั้น เพราะมีการสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากจังหวัดอื่นหมุนเวียนกันมาลาดตระเวนตลอด เนื่องจากเกรงจะเกิดการกระทบกระทั่งกับชาวบ้าน เพราะมาจากที่อื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมวา ต่อมา นายดารา วิชัยศรี ปลัดอำเภอโนนดินแดง ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายอำเภอโนนดินแดง เดินทางมา พร้อมกับ นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 เพื่อเจรจากับชาวบ้าน และรับข้อเรียกร้องของชาวบ้านทั้งหมด
นายสรรเพ็ชร เรืองรอง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 กล่าวว่า กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะไม่ใช้อาวุธ และความรุนแรง เราจะเน้นสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านที่เข้าไปบุกรุกยึดป่าเป็นที่ทำกิน รวมทั้งกล่าวขอโทษชาวบ้าน ต่อเหตุการณ์ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กระทำลงไป พร้อมกับคืนอุปกรณ์ และสิ่งของทั้งหมดให้กับชาวบ้าน จึงทำให้ทางชาวบ้านที่รวมตัวปิดล้อม สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บร.5 นานกว่า 6 ชั่วโมง (ชม.) ต่างพอใจ และยอมสลายตัวกลับในเวลาประมาณ 13.30 น.