รื้อกฎหนุนซื้อลำไยยกกระบิ-แก้ปัญหาราคาตก รองปลัด ก.เกษตรฯฟันธง “จันทร์-อังคาร” นี้ ราคาขึ้น

เชียงราย – รัฐรื้อเกณฑ์จ่ายเงินหนุนซื้อลำไยยกกระบิ ทั้งเปิดช่องจ่ายชดเชยค่าขนส่งออกต่างประเทศผ่านทางบกได้ แถมคลายเงื่อนไขปล่อยเงินกู้ให้กลุ่มเกษตรกรเร็วขึ้น โดยไม่ต้องมีบัญชี ธ.ก.ส.ไม่ต้องรอกระทรวงอนุมัติ แถมรองปลัดกระทรวงเกษตรฯเซ็นใบรับรองให้ล่วงหน้าลดขั้นตอนจุกจิก พร้อมขยายเวลาโครงการช่วยเหลือราคาลำไยไปถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 52 ล่าสุด บ่ายวันนี้ (24 ก.ค.) บอร์ด ธ.ก.ส.อนุมัติเงินกู้โครงการลำไยอบแห้งแล้ว 107 ราย เชื่อ “จันทร์-อังคาร” นี้ราคากระเตื้องแน่ ฟันธง! ตลาดลำไยเชียงราย ราคาขยับตั้งแต่เย็นนี้ (24)

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (24 ก.ค.) นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางไปประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาการดำเนินงานบริหารจัดการลำไยปี 2552 ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย โดย นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นำภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ

ประเด็นการหารือส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาราคาลำไยที่ตกต่ำอย่างมากในรอบ 2-3 วันที่ผ่านมา โดยลำไยสดร่วง พื้นที่เชียงรายตกต่ำเหลือเกรดเอเอ กิโลกรัมละเพียง 9 บาท เกรดเอ 5 บาท และเกรดบี 3 บาท

นายธวัชชัย แจ้งว่า ปัญหาเกิดจากเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานยังไม่เข้าใจในวิธีปฏิบัติ ทำให้วงเงินที่อนุมัติลงไปดำเนินการแล้ว 569.05 ล้านบาทไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเงินกู้ให้กับสถาบันเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนจำนวน 120 ล้านบาท เพื่อกระจายผลผลิตภายในประเทศ 20,000 ตันนั้นได้กระจายไปให้ทุกจังหวัดแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาจากเส้นทางการส่งออกลำไยอบแห้งไปต่างประเทศที่หลากหลายมากขึ้น จากเดิมส่งทางเรือในแม่น้ำโขง ทางเรือทะเล ก็มีถนน R3A ผ่าน ส.ป.ป.ลาว และ R3B ผ่านประเทศพม่า เพื่อไปยังตลาดจีน หรือแม้แต่ตลาดเวียดนามมากขึ้น ซึ่งเส้นทางใหม่ๆ เหล่านี้ไม่เคยมีการให้ใบรับรองการส่งออกมาก่อน รวมถึงปัญหาเรื่องสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ยังไม่เข้าใจในมาตรการทำให้ไม่มีการอนุมัติเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการตามมาตรการชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ธนาคารร้อยละ 5 ด้วย

ดังนั้น ในครั้งนี้ตนจึงมาแจ้งว่า ทางกระทรวงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งหมดแล้ว คาดว่า หลังพ้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ภายในวันจันทร์-อังคารนี้ จะทำให้ราคาลำไยสดกระเตื้องขึ้นทั่วภาคเหนือแน่นอน โดยสำหรับเชียงราย จะเริ่มขึ้นในเย็นวันนี้อย่างน้อยเกรดเอเอจะถึงกิโลกรัมละ 11 บาท

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการแก้ไขต่างๆ ได้แก่ การผ่อนผันหลักเกณฑ์การส่งออกไปยังจีนและเวียดนามผ่านเส้นทางใหม่ๆ ดังกล่าวให้ส่งออกไปได้เพื่อรับค่าชดเชยในการขนส่งกิโลกรัมละ 2.50 บาท, การกู้ยืมเงินกลุ่มเกษตรกรไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แต่ใช้บัญชีของสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรได้เลย ขณะเดียวกันได้ผ่อนผันการส่งหลักฐานไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้ส่งสำนักงานบัญชีภายในจังหวัดได้เลย พร้อมกับผ่อนผันให้ไม่ต้องรอกระทรวงอนุมัติเงินกู้จากธนาคารตามมาตรการชดเชยผลต่างอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 โดยตนจะลงนามในเอกสารรับรองให้ไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เสียเวลา

ส่วนกรณีเอกชนที่จะส่งออกลำไย มีใบอนุญาตจากกรมส่งเสริมการเกษตร สามารถขอรับซื้อลำไยเพื่อการส่งออกได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยตนจะทำใบรับรองเอาไว้ล่วงหน้าเช่นกัน

ล่าสุด คณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ลำไย-ลิ้นจี่ ซึ่งตนเป็นประธานได้ประชุมกันแล้วและมีการอนุมัติดำเนินการหลายเรื่อง เช่น ขยายระยะเวลาโครงการช่วยเหลือเรื่องราคาลำไยจากเดิมถึงวันที่ 20 ก.ค.ก็ให้ขยายไปถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้ จะมีการขอเงินจ่ายขาดเพื่อการส่งออกทางบกอีกประมาณ 200,000 ตัน จากเดิมที่กำหนดเอาไว้แค่ 30,000 ตัน ซึ่งก็จะทำให้มียอดที่จะใช้เงินจ่ายขาดเพื่อการส่งออกทางบกกว่า 50,000 ตัน

ขณะที่การจ่ายค่าชดเชยค่าขนส่งกิโลกรัมละ 2 บาทภายในประเทศและต่างประเทศกิโลกรัมละ 2.50 บาทจะไม่ใช้ระบบโควตาแต่เป็นไปตามลำดับการขอ

“ล่าสุด วันนี้ช่วงบ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประชุมบอร์ด ธ.ก.ส.เพื่อพิจารณาอนุมัติวงเงินตามข้อเรียกร้องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว คงจะมีการอนุมัติวงเงินให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการรับซื้อลำไยเพื่อนำไปอบแห้งจำนวน 107 ราย อีกจำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าเอกชนเหล่านี้สามารถไปซื้อลำไยสดมาอบแห้งเก็บไว้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องรอส่งออกไปจีนก่อน” นายธวัชชัย กล่าวและว่า

ส่วนคนที่ไม่ได้ซื้อลำไยมาอบแห้งก็มีการเตรียมงบประมาณรองรับเอาไว้ให้อีกประมาณ 500 ล้านบาท เมื่อรวมๆ กับวงเงินทั้งหมดแล้วจะมีงบประมาณเข้าสู่โครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่ติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้คงจะเห็นผลมาตรการได้ทันที จึงขอให้เกษตรกรรอจนถึงวันจันทร์-อังคาร ซึ่งเมื่องบประมาณลงไปถึง เชื่อว่าจะทำให้ราคาลำไยกระเตื้องขึ้นอย่างทันตาเห็นแน่นอน

รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ปัจจุบันกระทรวงได้จัดทำตะกร้าขนาด 4 กิโลกรัมจำนวน 300,000 ใบ เพื่อให้นำไปบรรจุลำไย เพื่อการส่งออกโดยกระจายไปให้กลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ เนื่องจากมีห้างสรรพสินค้ารายใหญ่เสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีว่า จะรับลำไยไประบายให้ได้ 2,500 ตัน ดังนั้น เกษตรกรที่สนใจให้ติดต่อที่สำนักงานเกษตรจังหวัดในแต่ละจังหวัดโดยด่วน

อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรบางส่วนที่เข้าร่วมประชุมมีความกังวลว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งนายรังสรรค์ วันชัยธนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.เชียงราย เขต 2 พรรคเพื่อไทย ซึ่งแสดงความกังวลว่าหากมาตรการดังกล่าวไม่ได้ผลจะมีแผนการณ์รองรับอย่างไร เพราะทุกฝ่ายต่างก็ถูกกดดัน โดยในพื้นที่ของนายรังสรรค์ ก็มีการปิดถนนเรียกร้องที่ อ.ขุนตาล ไปเมื่อหลายวันก่อน

นายธวัชชัย ได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า มาตรการนี้จะได้ผลแน่นอน