“บุญจง” ย้ำแดงถ่อยล่าชื่อถวายฎีกาให้ “แม้ว” มิบังควร - สั่งผู้ว่าฯ เร่งแจง ปชช.

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “บุญจง” มท.2 แกนนำพรรคภูมิใจไทย ย้ำ แก๊งแดงถ่อยล่ารายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ “นช.แม้ว” เป็นการมิบังควร และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ชี้ “ทักษิณ” ต้องมาติดคุกก่อน สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เร่งทำความเข้าใจ ปชช. ส่วนกรณี กกต.มีมติเชือด 13 ส.ส.ประชาธิปัตย์ไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เผย ยังต้องต่อสู้กันอีกยาว

วันนี้ (17 ก.ค.) นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แกนนำ “กลุ่มเพื่อนเนวิน” พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยขณะเดินทางมามอบนโยบายที่จังหวัดนครราชสีมา ถึงการล่ารายชื่อของคนเสื้อแดง เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี ว่า การล่ารายชื่อถวายฎีกาที่เกิดอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขอพระราชทานอภัยโทษกับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านได้ดำเนินการอยู่เป็นประจำอย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า ถึงวันสำคัญๆ พระองค์ท่านก็จะมีการอภัยโทษให้กับบรรดาผู้ต้องโทษ แต่การล่ารายชื่อของกลุ่มคนเสื้อแดงลักษณะอย่างนี้ วันนี้ ย่อมเป็นที่เข้าใจว่า มันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ โดยหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญก็ดี หรือกฎหมายอาญาก็ดี การที่จะมีการขอพระราชทานอภัยโทษ ตัวนักโทษจะต้องถูกรับโทษก่อน นั่นก็คือ ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ จากนั้นผู้ขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งกฎหมายเขียนชัดเจน คือ ภรรยา บุตร บุพการี ไม่จำเป็นต้องเป็นประชาชนทั่วไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดวันนี้มันเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนส่วนใหญ่คงไม่เข้าใจกฎหมาย ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะต้องลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้ถูกต้อง ซึ่งได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปดำเนินการแล้ว

“ส่วนตัวเห็นว่าการกระทำอย่างนี้เป็นการไม่สมควร” นายบุญจง กล่าว

ส่วนกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 13 คน ที่ถือหุ้นในบริษัทรับสัมปทานกับรัฐและธุรกิจสื่อสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายบุญจง กล่าวว่า คงไม่มีกระทบอะไร เพราะเป็นกระบวนการการพิจารณาของ กกต.เราถือว่าเป็นองค์กรหนึ่ง ซึ่งวันนี้ได้มีการวินิจฉัยเบื้องต้นบางส่วนกับสถานภาพของ ส.ส.จากนั้นไปก็เป็นขั้นตอนต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ ก็มีกระบวนการส่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญอีก คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ตนเชื่อว่า คงไม่มีปัญหาอะไร

“วันนี้หลายคนที่ได้รับการวินิจฉัยของ กกต.เขาก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่า การมีหุ้นเป็นการถือก่อนที่กฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2550 บังคับใช้ และการมีหุ้นดังกล่าวก็มีเพียงเล็กน้อย มิได้เข้าไปมีหุ้นในบริษัทเหล่านี้แล้วเข้าไปแทรกแซง หรือใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเป็นฝ่ายบริหารไปขัดประโยชน์ในแง่ของการไม่ชอบไม่ควร ซึ่งวันนี้ทุกคนยืนยันอยู่แล้ว แต่เมื่อ กกต.วินิจฉัยอย่างนี้ เราก็เคารพในการวินิจฉัยของ กกต.แต่กระบวนการจากนี้ไปมีอีกหลายขั้นตอนซึ่งเราต้องรอดูจนถึงวันนั้น” นายบุญจง กล่าว