xs
xsm
sm
md
lg

สมศักดิ์žยังนั่งหัวหน้าพรรคได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการ พรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกหมายเรียกในคดีก่อการร้ายในกรณีบุกยึดสนามบินว่า กรณีดังกล่าวพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาล อีกทั้งเรื่องนี้ยังคงอยู่ในชั้นสอบสวน ประกอบกับตามกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรคการเมือง จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เมื่อถูกดำเนินคดี
แต่ถ้าคดีถึงชั้นศาล ที่ผ่านมาพบว่าที่ประชุมใหญ่ของพรรคจะมีการเรียกประชุมใหญ่ เพื่อเปลี่ยนหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคที่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ในส่วนของพรรคการเมืองใหม่คิดว่า เมื่อถึงเวลานั้นก็คงหาบุคคลเข้ามาทำหน้าที่แทนได้ นางสดศรี กล่าว
กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวต่อว่า เมื่อดูตามมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองฯ ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (4) และ (5) บัญญัติถึงการสิ้นสุดการเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งต้องเป็นบุคคล ที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ จึงเห็นว่า กรณีนายของนายสมศักดิ์และนายสุริยะใส หากคดีถึงที่สุดโดยศาลมีคำพิพากษา ให้จำคุกก็จะขัดรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว และต้องสิ้นสภาพในการดำรงตำแหน่ง เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองทันที
ส่วนความรับผิดชอบทางการเมือง หลังนายกษิตถูกออกหมายเรียกนั้น นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกทางการเมืองของแต่ละบุคคล หรือมุมมองของบุคคลนั้นๆ
นางสดศรี สัตยธรรม ยังกล่าวถึงการพิจารณา สมาชิกภาพ ของ 28 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือหุ้นต้องห้ามที่อาจขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 ประกอบ มาตรา 265 (2) (4) เนื่องจากเป็นหุ้นในกิจการสื่อ และหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานรัฐ ซึ่ง กกต.นัดพิจารณาหลังอนุกรรมการสอบสวนเสร็จแล้ว เพื่อลงมติในวันที่ 14ก.ค.นี้ ว่า ส่วนตัวได้ทำการศึกษาสำนวนไปบางส่วนแล้ว หลังจากที่ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ได้แจกเอกสารสำนวนให้ กกต.แต่ละท่านนำกลับไปศึกษาก่อนจะลงมติ
ส่วนจะต้องมีการส่งเรื่องให้ที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.ตีความข้อกฎหมาย เช่นที่เคยส่งให้ตีความกรณี ส.ว.ถือหุ้นอีกหรือไม่นั้น นางสดศรี กล่าวว่า คงต้องแล้วแต่ที่ประชุมว่า จะตีความเองหรือจะส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายตีความ ถ้าส่งให้ที่ปรึกษากฎหมายตีความ ก็คงต้องเลื่อนการลงมติออกไป 
นางสดศรรี กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า ในเรื่องนี้ยังมีข้อสงสัยในหลายจุด โดย เฉพาะนิยามของคำว่า หุ้นกู้ และ หุ้นสามัญ เนื่องจากในรัฐธรรมนูญเขียนระบุไว้เฉพาะหุ้นสัมปทานรัฐเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาการถือครองหุ้นของ ส.ส.ทั้งสองกรณี ทางคณะอนุกรรมการอาจจะมีความเห็นที่แตกต่างกันได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเป็นคณะอนุกรรมการคนละชุดกัน ส่วนกกต.จะเชื่อตามที่คณะอนุกรรมการทำความเห็นเสนอ หรือไม่ ถือเป็นดุลยพินิจของกกต. 
ส่วนกรณี 44ส.ส.ที่ถือหุ้นต้องห้ามซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูย และได้เคยขยายเวลาให้อนุกรรมการสอบสวนออกไป 15วันเพื่อให้ส.ส.ที่ตกค้างมาชี้แจง การถือครองหุ้นนั้น อาจจะต้องขยายเวลาออกไปอีก เนื่องจากอนุกรรมการแจ้งมาว่า ขณะนี้มี ส.ส.มาติดต่อขอเข้าชี้แจงเพิ่มเติมเพียงไม่กี่รายเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น